หลายๆ ครั้งที่เราใช้งานเน็ต 4G แบบเพลิดเพลินไปกับความเร็วของมัน แต่พอใช้ไปได้ซักพักก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนมาว่า คุณเหลือเน็ต 4G ให้ใช้ได้เพียงเท่านั้น เท่านี้ จนหลายๆ คนสงสัยอาจจะสงสัยว่า “เน็ต 4G ทำไมหมดไวจัง?” วันนี้เราลองมาหาคำตอบกันดีกว่าว่าทำไมเน็ต 4G จึงหมดไว พร้อมกับวิธีแก้ไม่ให้เน็ต 4G ของเราหมดไปแบบไม่รู้ตัวกันดีกว่า
(16 ก.พ.59) พบปัญหา AIS คิดดาต้าขั้นต่ำสูงถึง 1024KB
4G หมดไวจริงรึเปล่า?
สิ่งที่หลายๆคนสงสัย 2 ข้อ คือ
- เครือข่ายคิดการใช้งานบน 4G เยอะกว่าปกติหรือเปล่า
- แอพกินข้อมูลเยอะกว่าปกติรึเปล่า
ซึ่งทั้งสองข้อนี้ เราสามารถเช็คด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่านฟีเจอร์ในเครื่องแอนดรอยด์ ซึ่งรุ่นที่วางขายอยู่ในปัจจุบัน น่าจะมี Mobile data กันหมดแล้ว ซึ่งฟีเจอร์นี้จะดูได้ว่าแอพไหนใช้งานดาต้าเท่าไหร่ไปบ้าง โดยกดไปดูได้ที่
Settings > Mobile data หรือ ตั้งค่า > ข้อมูลโมไบล์
สำหรับข้อ 1 ที่เครือข่ายคิดการใช้งานของเราเกินไปรึเปล่านั้น เราสามารถเอาตัวเลขการใช้งานดาต้าบนเครื่องเราเอง ไปเปรียบเทียบกับที่เครือข่ายจับได้ ซึ่งปัจจุบันเราสามารถดูได้ทันทีผ่านแอพของแต่ละเครือข่าย
จากภาพข้างต้น จะเห็นได้ว่าสถิติการใช้งานบน แอนดรอยด์เก็บว่าเราใช้งานอยู่ที่ 1.71GB ส่วนการเก็บการใช้งานของเครือข่าย บอกว่าผมใช้เหลืออยู่ 1.312GB ซึ่งแพคเกจของผมมันคือเน็ต 3GB เท่ากับว่าเครือข่ายเก็บข้อมูลว่าผมก็ใช้เน็ตไปที่ราว 1.688GB ต่างกันอยู่ราวๆ 22MB ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเป็นปริมาณที่มากอะไรนัก และจะใช้ 2G/3G/4G ที่ผ่านมา ก็จะมีค่าความต่างนี้เหมือนกัน (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม) จึงไม่น่าจะผิดปกติอะไร
ส่วนข้อ 2 แอพกินข้อมูลเยอะกว่าปกติรึเปล่า ลองไปดูการใช้งานของแอพต่างๆกัน
เมื่อพิจารณาดูแล้ว น้ำหนักของการใช้งานดาต้า จะเทไปที่แอพหลักทั้ง 3 ตัว ได้แต่ YouTube, Chrome, และ Facebook โดยตัว YouTube ดูจะมีการใช้งานดาต้าเยอะเป็นพิเศษ กินดาต้าพุ่งขึ้นกระฉูดกว่าใครเค้าเพื่อนหลังจากเริ่มเปลี่ยนมาใช้งาน 4G
เล่น YouTube บน 4G กินเน็ตกว่า 3G
ถ้าหากใครเคยสังเกตุ เวลาที่เราเปิดดูวิดีโอ YouTube คุณภาพของคลิปนั้นจะเริ่มจากความละเอียดต่ำซึ่งกินดาต้าน้อย เมื่อทำการ stream ข้อมูลมาได้นิ่งระดับนึงแล้ว YouTube จะค่อยๆปรับคุณภาพขึ้นมาเป็นภาพที่มีความละเอียดสูงขึ้น ตามแต่ที่ความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่เราใช้อยู่สามารถรองรับได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้พวกเราได้ประสบการณ์ดูคลิปลื่นไหลที่สุด และได้ภาพสวยคมชัดที่สุด แต่ด้วยวิธีนี้มันก็หมายถึงว่ายิ่งเน็ตเร็วเท่าไหร่ YouTube ก็จะปรับให้วิดีโอมีความละเอียดมากขึ้น และกินดาต้ามากขึ้นตามไปนั่นเอง
ซึ่งด้วยความเร็วของเน็ต 4G ที่โดยเฉลี่ยทั้งสามค่าย จะวิ่งเร็วกว่า 3G อยู่ราว 2-3 เท่าเป็นอย่างน้อย จึงทำให้ในหลายๆ คลิป YouTube สามารถปรับคุณภาพขึ้นไปได้ที่ความละเอียดสูงสุด ไม่ว่าจะ 720p หรือ 1080p หรือบางทีขึ้นไปถึง 1440p เลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับว่ามือถือของเรารองรับหรือเปล่า ซึ่งถ้าเราลองดูวิดีโอที่มีระยะเวลา 5:26 นาที จะเห็นว่าขนาดไฟล์ของวิดีโอที่ความละเอียด 1080p จะมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่กว่า 480p มากกว่า 3 เท่า และนี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลหลัก สำหรับคนที่ชอบดู YouTube ผ่านอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ว่าทำไมเน็ต 4G ถึงหมดเร็วมาก
ขนาดไฟล์ของวิดีโอความยาว 5:26 นาที ในแต่ละความละเอียด
ความละเอียด | ขนาดไฟล์ |
1080p – Full HD | 70.75MB |
720p – HD | 48.32MB |
480p | 22.94MB |
วิธีประหยัดเน็ตตอนเล่น YouTube
YouTube
YouTube รับรู้ปัญหานี้ตั้งแต่บ้านเรายังไม่มี 4G ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเราสามารถจำกัดความละเอียดเวลา Streaming เมื่อต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ได้ในการตั้งค่าของ YouTube ตามนี้เลย
YouTube > Settings > General > Limit mobile data usage
YouTube > การตั้งค่า > ทั่วไป > จำกัดการใช้ข้อมูลมือถือ
เมื่อเราเลือกเปิดแล้ว เวลาเราดู YouTube ผ่านเน็ต 4G เจ้า YouTube จะทำการสตรีมวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 480p เท่านั้น ซึ่งถ้าใช้ดูวิดีโอที่มีระยะเวลา 5:26 นาที เท่ากัน ก็จะมีขนาดไฟล์อยู่ที่ 22.94MB นอกจากนี้เรายังสามารถที่จะเลือกให้มีความละเอียดต่ำกว่านั้นก็ได้ แต่อาจจะไม่ได้อรรถรสในการดูเท่าไหร่นัก เพราะภาพและเสียงจะต่ำลงไปด้วยนั่นเอง แต่ก็ทำให้ประหยัดขึ้นได้เยอะ
นอกจากนี้บน Facebook เองนั้นถ้าใครได้ไถหน้าจออยู่บ่อยๆ อาจจะเห็นว่าเวลาที่เราเลื่อนผ่านวิดีโอ มันก็จะเล่นขึ้นมาเอง ทั้งๆ ที่เรายังไม่ทันได้กดอะไรเลย ทำให้เน็ตของเราหายไปแบบไม่ได้ตั้งใจ หรือใครที่ชอบกด HD เวลาดูคลิปเพื่อให้วิดีโอชัดขึ้น นั่นก็ทำให้ดาต้าหมดไปได้ไวไม่แพ้กันเลย
ใน Facebook เราสามารถเลือกที่จะปิดไม่ให้วิดีโอนั้นทำการเล่นโดยอัตโนมัติ ซึ่งวิธีการก็มีดังนี้
Facebook > App Settings > Autoplay > On Wi-Fi Connections Only / Never Autoplay Videos
Facebook > การตั้งค่าแอพ > เล่นอัตโนมัติ > เปิดการเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi เท่านั้น / ไม่ต้องเล่นวิดีโออัตโนมัติ
Facebook นั้นจะมีให้เราเลือกอยู่ 2 อย่างว่าเราจะเลือก เล่นวิดีโออัตโนมัติเมื่อเราเชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรือว่าไม่ให้เล่นอัตโนมัติเลย ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่เราจะเลือก
นอกจากนี้ การเล่นวิดีโอใน Facebook เมื่อเราเปิดวิดีโอแบบเต็มจอ จะมีปุ่มให้เลือกดูแบบ HD ซึ่งเอาจริงๆ แล้วมันจะไม่เปิดโดยอัตโนมัติ เราต้องกดเลือก HD เอง ถ้าใครอยากจะเซฟเน็ตไว้ก็ไม่ต้องไปกดเปิดนะครับ
Data Warning
อีกอย่างหนึ่งที่เราสามารถป้องกันไม่ให้เน็ตหมดเร็วเกินไปและประหยัดเมื่อใช้งาน 4G ก็คือ การตั้งค่า data warning ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อเราใช้เน็ตไปถึงจำนวนที่เราตั้งไว้ และยังสามารถจำกัดการใช้งานเน็ตเพื่อตัดเน็ตไม่ให้เกินยอดได้อีกด้วย โดยเราเลือกได้ว่าจะให้แจ้งเตือนและจำกัดเน็ตตามรอบเดือนของบิลเราได้ การเข้าถึงหน้า data warning จะอยู่หน้าเดียวกับการดูข้อมูล data ครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ วิธีการป้องกันไม่ให้เน็ต 4G ของเรานั้นไปก่อนวัยอันควร หวังว่าเทคนิคนี้จะสามารถช่วยให้เพื่อนๆ สามารถใช้งานเน็ต 4G ได้ยาวนานขึ้น ไม่ติด FUP หรือหมดโปรก่อนตัดรอบนะครับ
แอนดรอยด์เก็บว่าเราใช้งานอยู่ที่ 1.71GB
เท่ากับว่าเครือข่ายเก็บข้อมูลว่าผมก็ใช้เน็ตไปที่ราว 1.688GB
เครือข่ายก็จะเก็บได้มากกว่าบนเครื่องเราอยู่ตลอด (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม)
เหมือน Logic จะผิดนะครัช
เออจริงด้วย ขอบคุณที่ทักครับ
android แสดงข้อมูล Data usage เป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง
ตัวอย่างข้างบน เลขการใช้งานจริงอาจจะเป็น 1.711xxx ก็ได้ครับ
พวกโปรแกรมโทรศัพท์ผ่านเน็ท กับพวก Video Call ก็กินเน็ทใช่เล่นเหมือนกันนะ
เหมือนจะลืมเรื่องที่ต้องระวังอย่าง Google Play auto update apps ให้นะ
ปกติใช้ 500MB หมดใน 4 วัน จากนั้นลาก FUB 128k ต่อจนสินเดือนประมาณ 3.2GB++
ผมแพ็คเกจเล็ก 1GB FUP แพ๊บเดียวหมด
ของผม ก็เปลืองเท่าเดิมนะ ไม่ได้เพิ่มขึ้น
ถ้าเป็น Youtube นี่ ชัดเจนใช่เลยครับ แต่อย่างอื่นนี่ สมัย 3G ผมว่าเราๆท่านๆก็ปรับกัน ไอ่ "Wifi Only" เนี่ย เน็ตจะได้ไม่หมดไว ตามความคิดผม มันน่าจะเพราะตัวเนื้อหามันโหลดไวขึ้น แต่เราอ่านไวเท่าเดิม เลยรู้สึกว่า เน็ตหมดไวอะครับ
การส่งข้อมูลมาไว ทำให้เราตัดสินใจเปลี่ยนหน้าไวขึ้นอีก กินข้อมูลเพิ่ม หมดไวก็เดิม
พอมันเร็วขึ้น ก็ ใช้งานเยอะขึ้นนั่นเอง….
ยูทูป นี่ ตัวสูบดาต้าชั้นดี ตั้งแต่ยังไม่มี 3G 2100
หมดไวขึ้นจริงแฮะ ของผมลืมสมัครโปรเสริมตอนโปรปกติหมดโปรวันเดียวเจอ ไป 5xx เพราะคิดเมกละบาท ห้ามพลาดแม้แต่วินาทีเดียวไม่งั้นบิลพุ่งกระจาย
ตอนนี้ต้องคอยเชคให้ดีว่าหมดโปรวันไหน
ปล. ถ้าใช้โปรแบบหมดแล้วคิดค่าบริการนี่น่ากลัวจริงๆ
ของผมเล่นเฟสบุ๊ควันละนิด เล่นเกมมือถือทั้งวัน เฉลี่ยวันละ 200mb
ใช้มายสิ โปรเนตความเร็ว 384 Kbps เดือนละ 99.- บ.+แวต 7%, เล่นพวกโซเชียลสบายๆ(แอพพวกนี้ไม่ได้ใช้ความเร็วอะไรมากมาย) หรือถ้าจะโหลตเวปก็ได้ ไม่ได้ช้าจนน่าเกลียดอะไร, ทุกวันนี้ผมใช้ต่อคอมฯที่บ้านผ่านไว-ไฟก็ใช้งานได้ ไม่ช้าหรืออืดจนรับไม่ได้ วันละ 24 ชม.
ถ้ากลัวจะเปลืองก็อย่าใช้ครับ ใช้วายฟายอย่างเดียวพอ
อย่าใช้ My Cat นะครับ ทุกคน
มันไม่ดี มันช้า มันอืด สัญญาณเก่าขององการโทรศัพท์ ขอเถอะอย่าใช้เลย บริการก็ไม่ดี
อย่าใช้เลยนะ พลีสสสสส ขออร้องจริงจัง อย่าใช้เลย
กลับไปใช้ค่ายใหญ่ๆ true ais dtac อะไรก้ไป แต่อย่ามาใช้ my เลยนะ ๆๆๆๆ
ขอจริงๆ
+1
My Cat ใช้ได้เดือนเดียวก็เลิกใช้เลย เน็ตช้ามาก ขับรถเล่นไปไกลหน่อย สัญญาณเน็ต 3G หายเป็นว่าเล่น
ส่วนตัว ลอง 3 ค่ายใหญ่ Dtac, True ชอบ AIS มากสุด สัญญาณเน็ตเสถียรมากครับ
Facebook ธรรมดาเปลี่ยนเป็น Facebook Lite ช่วยได้เยอะครับ
ส่วน Youtube ใจต้องนิ่ง 55
มันอยู่ที่ HW แล้วมั้ง ตัว Modem มันน่ะแหละ
ขอยืนยันอีกครั้งครับว่า My ไม่มีปัญหาอะไร ใช้ดีครับ อาจไม่เร็วปรู๊ดปร๊าด แต่ไม่ขี้เหร่ครับ นี่ก็พิมพ์บนรถเมล์ครับ รถวิ่งปกติ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร
ใครสนใจอยากให้ลองให้ดูติดต่อได้ครับ ที่ 090 935 9269 หรือ ที่เมลล์ tkb_phymed@hotmail.com จะได้เห็นของจริงว่าดีไม่ดี
ผมเคยใช้มาหมดแล้วทั้ง 3 รายที่ว่า แล้วก็เคยไปร้องเรียนที่กสทช.มาหลายครั้งเรื่องโดนโกงชม.เน็ต
ตอนนี้มีเบอร์ทรูอยู่เบอร์ ไม่ได้ตั้งใจซื้อ แต่ติดมา(โดนบังคับให้ใช้)กับแท็ปเลตลดราคา เดี๋ยวพอพ้น 3 เดือนก็โยนทิ้ง
ตอนนี้ก็ซื้อซิมมายมาอีกอันแล้ว จะมาใช้แทน เพราะของทรู พอหมดแพจเกจ 1.5 G แล้วจะทำอะไรไม่ได้เลย YouTube ตายสนิท ในขณะที่มายจะโหลตได้ แต่อาจไม่ต่อเนื่องเพราะความเร็วแค่ 384 k
สัญญาณสวิงกากน่าจะมีผลมากที่สุดนะ