ในยุคที่สมาร์ทโฟนครองเมืองแบบนี้ Data Connection นั้นเป็นสิ่งสำคัญ หลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับคำว่า 3G, H, และ H+ กันอยู่แล้ว คนส่วนใหญ่ก็จะเรียกรวมๆว่า 3G นั้นแหละ แต่เจ้า Android ของเรามันไม่มองแบบนั้นหล่ะสิ เดี๋ยวก็ขึ้น 3G เดี๋ยวก็ขึ้น H หรือ H+ เรามาดูกันดีกว่าว่าจริงๆแล้วทั้ง 3 ตัวนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ทำไมเน็ตถึงเร็วเฉพาะตอนขึ้น H กับ H+ แล้วไหนจะ 4G กับ LTE อีกหล่ะ เรามาหาคำตอบกัน
ก่อนอื่นเรามาย้อนดูประวัติศาสตร์ 3G ก่อนนิดนึง 3G หรือ 3rd Generation หมายถึงรุ่นที่ 3 ของการรับส่งสัญญาณแบบ GSM ในช่วงแรกนั้นยังมีหลายมาตราฐานพยายามแย่งกันขึ้นเป็นผู้นำในมาตราฐาน 3G เช่น CDMA2000 ของ Hutch ที่ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว สุดท้ายแล้วผู้ที่อยู่ยงคงกระพันและได้ขึ้นมาเป็นเจ้าแห่งมาตราฐาน 3G ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็คือ UMTS นั้นเอง
ในยุคแรกนั้น 3G/UMTS ยังมีความเร็วค่อนข้างต่ำ สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ความเร็ว 384 kbps เนื่องจากยังใช้เทคโนโลยี WCDMA อยู่ ต่อมานั้นได้มีการพัฒนาต่อยอดขึ้นมาจนเป็น HSPA หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ H ซึ่งทำให้สามารถทำความเร็วได้มากขึ้น อยู่ที่ประมาณ 2-7.2 Mbps จากนั้นก็ได้มีการ พัฒนา HSPA ขึ้นไปอีกจนเป็น HSPA+ หรือ H+ นั้นเอง ซึ่งจะทำให้ได้ความเร็วอยู่ที่ 21-42 Mbps ครับ
เปรียบเทียบความเร็วของเครือข่ายแต่ละประเภท
สรุปอย่างสั้นๆก็คือ 3G นั้นแบ่งเป็นมาตราฐานใหญ่ๆได้ 2 มาตราฐานตัวดังนี้
- CDMA2000 (ปัจจุบันไม่มีใช้แล้ว)
- UTMS
- WCDMA เป็นเทคโนโลยี UTMS ในยุคแรกๆ ยังส่งข้อมูลได้ช้า
- HSPA พัฒนาต่อจาก WCDMA ส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น
- HSPA+ พัฒนาต่อจาก HSPA อีกต่อหนึ่งส่งข้อมูลได้เร็วมากขึ้นอีก
แล้วทำไมถึงเห็นสัญลักษณ์ 3G, H, และ H+ สลับไปมาหล่ะ ? สัญญาณไม่ดี ?
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเราไม่ได้ใช้งานอินเตอร์เน็ตอยู่ มือถือจะสั่งให้ชิพรับส่งสัญญาณนี้ เปลี่ยนไปเป็นสถานะว่าง (idle) เพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งจะทำให้ Android ของเราแสดงสัญลักษณ์ “3G” หรือ “H” แล้วแต่เครื่องและเสาสัญญาณ แต่เมื่อมีการเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ต มือถือจะสั่งให้ชิพให้ ทำงาน (active) ซึ่งจะใช้พลังงานมากกว่า และทำให้หน้าจอแสดงสัญลักษณ์ “H” หรือ “H+” ตามภาพด้านล่างนี้
(1) เมื่อเครื่องเราจะ connect ใช้งาน internet เครื่องจะปรับให้ใช้พลังงานมากขึ้น
และจะใช้เวลาในการเชื่อมต่อประมาณ 2 วินาที (หรือแล้วแต่การ config ของเครือข่าย)
image courtesy : stevesouders.com
กระบวนการเปลี่ยนไปมาระหว่างสถานะ idle และ active นี้แหละที่ทำให้เจ้า Android ของเราแสดงสัญลักษณ์ 3G สลับไปมากับ H และ H+ โดย
- ในช่วงเริ่มต้นการเชื่อมต่อ (ตามภาพด้านบนคือหมายเลข 1) นั้นมีการเรียกใช้สัญญาณจากมาตราฐานเดิมตั้งแต่สมัย WCDMA ซึ่ง Android ของเราก็จะแสดงสัญลักษณ์ “3G”
- เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ ก็จะเริ่มใช้การรับส่งข้อมูลแบบ HSPA และ HSPA+ แล้วแต่ว่าเราอยู่ในเขตสัญญาณและเสาแบบไหน ซึ่งตรงนี้ Android ก็จะแสดงสัญลักษณ์เป็น “H” หรือ “H+” แล้วครับ
ถ้าใครนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงเวลาเราโทรหาคนอื่น ขณะที่ทำการเชื่อมต่อก็จะมีเสียงรอสาย ตรงนั้นเปรียบเสมือนช่วงที่กำลังเชื่อมต่อโดยใช้ “3G” เมื่ออีกฝ่ายรับสายและเริ่มพูดคุย นั้นเปรียบเสมือนการเชื่อมต่อสำเร็จ และเริ่มส่งข้อมูลด้วย “H” ครับ
*ใน iPhone จะแสดงเป็นคำว่า “3G” ทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการให้ผู้ใช้สับสน
chart แสดงถึงจุดที่จะรับสัญญาณเป็น 3G, H, และ H+ แต่ถ้าใครที่อยู่ในบริเวณที่มีเสาสัญญาณหนาแน่น ก็อาจจะเห็นหน้าจอแสดงเป็น H ตลอดเวลาแทน 3G ได้เช่นกัน
จากชาร์ตข้างต้นอาจจะสงสัยกันว่าระยะของ H+, H, และ 3G มีรัศมีประมาณเท่าไหร่ ตรงนี้ก็ต้องบอกว่าขึ้นกับประเภทของเสา และความถี่ของคลื่น (850/900/2100MHz) แต่รายละเอียดไม่ขอลงลึกเดี๋ยวมันจะยาวไปครับ
Tips: รู้หรือไม่ว่าตัวชิพรับส่งสัญญาณมือถือนี้ เป็นตัวที่กินพลังงานมากที่สุดตัวนึงของสมาร์ทโฟนในยุคนี้ หากเราลองถอดซิมปิดการเชื่อมต่อด้วยมือถือ จะยืดเวลาการใช้งานโทรศัพท์ได้อีกมากเลยทีเดียวครับ
ทำไมยืนข้างเสาแล้วยังขึ้นเป็น “3G” อยู่ ?
ในบางพื้นที่เช่นในต่างจังหวัดที่มีคนใช้น้อย มีความเป็นไปได้ว่าเสารับส่งสัญญาณเองจะยังใช้เทคโนโลยีเก่าอยู่ ทำให้ต่อยังไงก็จะขึ้นแค่ 3G หรือ H เท่านั้น แต่หากเกิดในเมือง เป็นไปได้ว่าเมื่อมือถือเราพยายามจะเชื่อมต่อกับเครือข่าย (ในแผนภาพด้านบนคือหมายเลข 1) แต่ว่าไม่สามารถเชื่อมต่อให้สำเร็จได้ ซึ่งก็อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เสาสัญญาณที่เรากำลังเกาะอยู่นั้นมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ทำให้เการเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ก็เลยยังแสดงสัญลักษณ์เป็น “3G” อยู่ครับ กรณีนี้ถ้าลองเชื่อมต่อใหม่ (กดปิดเปิด Data อีกครั้ง) ก็น่าจะทำให้เชื่อมต่อได้สำเร็จและเปลี่ยนเป็น H ได้ครับ
หรือในอีกกรณีหนึ่งก็คือ Android จากผู้ผลิตบางเจ้าพยายามทำตามการแสดงสัญลักษณ์ของ iPhone นั้นก็คือใช้คือว่า “3G” ทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นสถานะการเชื่อมต่อแบบไหน เพื่อไม่ให้ผู้ใช้สับสนนั้นเอง
แล้ว 4G กับ LTE นั้นเหมือนกันไหม? อะไรดีกว่ากัน?
จริงๆแล้วคำว่า “4G” นั้นจะหมายถึง “ยุคที่ 4” ของเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย ที่ถูกกำหนดมาตราฐานความเร็วไว้ที่ระดับ 1 Gbps ซึ่งในปัจจุบันนั้นยังไม่สามารถทำได้ ความเร็วของ LTE นั้นอยู่ที่ระดับ 100 Mbps (ญี่ปุ่นทำได้ 200 กว่าแล้ว) เท่านั้นแต่นั้นก็ถือว่าเร็วมากแล้วเมื่อเทียบกับ HSPA+ ที่มีความเร็วอยู่ราวๆ 21-42 Mbps นั้นอาจจะทำให้บางคนคิดว่า LTE มันคืออีกขั้นของความเร็วอินเตอร์เน็ตที่เร็วกว่า 3G เรียกมันว่า 4G เลยละกัน… ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่เชิง เพราะ LTE เป็นเพียงหนึ่งรูปแบบของ 4G เท่านั้น ช่วงแรกๆก็มีการคัดค้านเรื่องการเรียกนี้ แต่มาหลังๆก็เริ่มปล่อยเลยตามเลยเพราะความคิดนี้มันเริ่มแพร่หลายไปแล้ว เครือข่ายต่างๆทั่วโลกก็เริ่มโปรโมท LTE เป็น 4G ไปแล้ว ดังนั้นเราจะเรียก LTE ว่า 4G ไปเลยก็คงไม่มีใครค้าน
นอกจาก 4G LTE แล้ว ยังมีมาตราฐานอื่นๆที่พัฒนามาคู่ขนานกันมานั้นก็คือ 4G UMB แต่ว่าได้หยุดการพัฒนาไปแล้วเนื่องจากมาตราฐาน LTE นั้นมาแรงกว่า ได้รับความนิยมมากกว่านั้นเอง
อีกตัวหนึ่งที่อาจจะเคยได้ยินชื่อกันก็คือ 4G WiMAX ที่ถือว่าเป็น 4G ตัวแรกสุดที่เกิดมาก่อน 4G LTE เสียอีก แต่ว่าก็ได้หยุดการพัฒนาลงด้วยเหตุผลเดียวกันก็คือ 4G LTE นั้นได้รับความนิยมมากกว่า
หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆหลายคนได้นะครับ หากมีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมเพื่อนๆสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่ด้านล่างเลยครับ จะพยายามเข้ามาไขข้อข้องใจให้ครับผม
Source: Saran2530’s Blog, Telecomtalk, giffgaff

35 Comments
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
truelifeplus Post on February 27, 2015 at 11:24 pm
#901305
4G คือ"ยุค" ที่สี่ หรือ 4th Generation
ส่วน LTE คือ "เทคโนโลยี" หนึ่งที่ถูกนำมาทดลองใช้ในยุค 4G
เอายุค กับ เทคโนโลยี มารวมกันเป็น
4G LTE (Long Term Evolution)
4G UMB (Ultra Mobile Broadbrand)
4G WiMax (Worldwide Interoperability for Microwave Access)
ong29673 Post on February 28, 2015 at 8:42 am
#901351
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ ขออนุญาตปรับเพิ่มเข้าไปในบทความนะครับ
wonghotbit01 Post on March 1, 2015 at 10:27 pm
#901548
ตอนแรก อ.ในวิทยาลัย สอนไว้เกี่ยวกับ เรื่อง WiMax คิดว่าจะได้ใช้
ไปๆ มา LTE มาแรง กว่าซะงั้น -..-
ExLove Post on March 5, 2015 at 6:22 pm
#902358
สมัยเรียนเคยตื่นเต้นกับ WiMax เหมือนกันครับ แต่พอใช้งานจริงมันไม่เหมาะกันกับการใช้งานแบบ Mobility พวกอุปกรณ์พกพา มือถือสมาร์ทโฟนมันต้องเคลื่อนไหวตามคนใช้งาน แต่ตอนนี้ WiMax ยังมีใช้งานอยู่นะครับ โดยเฉพาะพื้นที่ๆชุมสาย ADSL เข้าไม่ถึง
Khomsan Post on February 28, 2015 at 5:06 am
#901334
ขอแค่fup1 mb เสถียรๆหน่อยราคาพอประมาณแอนดรอยเก่าๆก๊ดีใจแล้วครับ
nutty'z Post on March 1, 2015 at 11:02 pm
#901555
จะ 3G 4G เจอ Fup เมืองไทยเข้าไปก็มีเต่าเหมือนกันนั่นแหละ
tanit9999 Post on March 2, 2015 at 7:43 pm
#901759
ประเทศอื่นก็ทำครับ
aitunn Post on March 2, 2015 at 12:51 am
#901577
ได้ความรู้ ขึ้นมากเลย
ปล. มือถือของผม บางทีมันยังขึ้น E อยู่เลย (อารายกานฟระ -*-)
Benz_36 Post on March 2, 2015 at 12:52 am
#901578
มือถือเก่าผม ถ้าใช้ Android 2.3
เวลาเปิด Data มันจะขึ้นเป็น 3G อย่างเดียว
แต่ถ้าอัพไป 4.0 มันถึงจะขึ้นเป็น H/H+
แสดงว่าแอนดรอยด์เวอร์ชั่นเก่าๆมันยังไม่รู้จัก HSPA ใช่มั้ยครับ
riidii Post on March 4, 2015 at 5:56 pm
#902169
มีส่วนครับ มือถือบางรุ่นรองรับแค่ 3G
ps000000 Post on March 2, 2015 at 3:13 am
#901594
ของผมเล่นรอมโมฯ บางรอมก็แสดง 4G บางรอม ก็แสดงเป็น LTE
soiyjung Post on March 2, 2015 at 6:03 pm
#901734
ROM เมื่องนอกบางตัว มันบอก 4G แต่ ในความจริง….. ในไทยคือ 3G (H+) นั้นแหละ หรือคือ 4G เกือบจริง 555
ผมโดนมาจาก S2 T-mobile นี้แหละ มันไม่รองรับ 4G แต่ดันขึ้น 4G ให้เห็น 555 แจ๋ม….
madas Post on March 2, 2015 at 4:02 am
#901598
จะ 3G หรือ 4G LTE ก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์ ถ้าหาก กสทช.ยังเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประชาชนตาดำๆ ขนาดให้คิดค่าโทรเป็นวินาทียังไปขอร้อง 3 เครือข่ายมือถือเลย มีอำนาจอยู่ในมือแท้ๆ
ก็อย่างว่าผลประโยชน์ไม่ลงตัว
ปล.ถ้าadminเห็นว่าไม่สมควรลบได้เลยนะครับ
riidii Post on March 4, 2015 at 5:57 pm
#902170
+1
vfor2510 Post on March 2, 2015 at 6:41 am
#901653
3g เยี่ยวแมว เลิกนับ data เถอะ !!! เข้าใจครับว่าผลประโยชน์มันทับซ้อนกันจนมึน … ถึงรุ่นลูกหลานผม หรือก่อนผมตายจะได้ทันเห็น 3g หรือ 4g lte แบบไม่นับ data หรือป่าว ? คนไทยทั้งชาติ ต้องอดทน เพื่อ แค่ผลประโยชน์ของคนกลุ่ม กลุ่มนึง !!! thailand only … ป.ล. เหมือน ท่าน madas กล่าว…เห็นว่าไม่สมควรลบได้เลยขอรับ ..หุๆ
APinuyasha Post on March 7, 2015 at 4:09 am
#902559
ไม่นับ Data เป็นไปได้ยากครับ ประเทศอเมริกาเขาก็นับ Data
มันจะอารมประมาณว่าแชร์ Internet กันเป็น Cells เสาส่งก็ต้องมีการควบคุม Power
แต่จะมีการแบ่ง User โดยใช้ Code
แน่นอนว่าไม่ได้เป็นการให้บริการแบบแยก User แบบ Modem ที่เป็นสายโทรศัพย์
tanberrano Post on January 17, 2016 at 3:01 am
#939999
นับ Data ก็ดีอยู่แล้วนี่ครับ ทุกคนจะได้ใช้ตามที่ตัวเองมีสิทธิ อย่างทุกคนได้ 8 GB เท่ากัน คุณใช้หมดแล้ว แต่ผมยังใช้ไม่หมด ผมก็หมดตัวแบ่งแบนวิทไปUser นึงละ
birdblerza Post on March 2, 2015 at 6:48 am
#901657
ตอนเปิด LTE นี่จะไม่สามารถใช้งาน Data พร้อม Voice ได้นะครับ
จะใช้ Data นี่ต้องใช้บน 3G หรือ 2G เท่านั้น LTE not support voice ดังนั้นจึงเปรียบได้ว่า LTE ก็คล้ายๆ WIFI ที่แรงขึ้นนั่นเอง
Gimme Post on March 2, 2015 at 3:52 pm
#901694
มาขอเสริมคุณ BirdBlerza นิดนึงครับ
[quote=Saran2530]บริการ 4G ในปัจจุบันรองรับเฉพาะดาต้า หากมีการโทรเข้าโทรออกเครื่องโทรศัพท์มือถือจะต้องไปจับสัญญาณ 3G แต่ที่จริงเทคโนโลยี 4G รองรับการโทรเข้าโทรออกมาเป็นปีแล้ว เรียกว่า Voice over LTE หรือ VoLTE (ออกเสียงว่าโวลเต้) แต่ผู้ให้บริการส่วนใหญ่ยังไม่ได้รีบอัพเกรดเครือข่ายให้รองรับ VoLTE เนื่องจากเครื่องโทรศัพท์มือถือ 4G ยังไม่รองรับ VoLTE จนกระทั่งแอปเปิลเปิดตัวไอโฟน 6 และ ไอโฟน 6 รองรับ VoLTE</blockquote>
KuLiKo Post on March 2, 2015 at 6:46 pm
#901753
แล้วน้อง Nexus 5 เก๊ารองรับมั้ยเนี่ย 🙁
e28bx Post on March 5, 2015 at 6:02 am
#902292
รองรับครับ
biwajung Post on March 2, 2015 at 9:27 pm
#901795
ตอนเรียนไม่มีเรื่องเหล่านี้สอนเลย เพราะเป็นยุคที่ยังไม่มี 3g
NOKIA มี 3g ก็ไม่เคยได้ใช้ จนเครื่องพังเลยละ
puyzabra Post on March 3, 2015 at 3:33 pm
#901965
ผมใช้ LG GPRO2 F350L มันขึ้น 3G ตลอดอ่ะครับ วิ่งไม่เกิน7.2 MB T^T ในระบบ DTAC ครับ
ใครมีวิธีแก้ไหมครับ
Gimme Post on March 3, 2015 at 4:18 pm
#901972
dtac เค้าวิ่งได้เกินนั้นที่ไหน #แซว
ที่ขึ้น 3G อย่างเดียวอาจเป็นที่เครื่องตั้งค่ามาเลียนแบบ iPhone ก็ได้นะ ลองอ่านเนื้อหาดู
neostp Post on March 3, 2015 at 8:56 pm
#902040
DTAC Nexus 5 ขึ้นแค่ LTE H E ครับ ไม่เคยมี 3G หรือ H+
riidii Post on March 4, 2015 at 6:00 pm
#902171
3G มีนะครับ แต่ H+ ขอสังเกตก่อนครับ
pureblackheart Post on March 5, 2015 at 10:55 pm
#902399
ของผม F350S ใช้ LTE tmh ได้นะครับ ของดีแทคไม่มีซิมลอง แต่คิดว่าก็น่าจะได้
zfcfcb Post on March 3, 2015 at 9:26 pm
#902044
สัญลักษณ์ที่แสดง บางทีก็ขึ้นอยู่กับรอมที่ใช้ด้วย
Primetime Post on March 4, 2015 at 5:53 pm
#902168
ที่USA T-Mobile ก็ติดFup ครับวิ่ง128 Kbps. อืดกว่าบ้านเรามากครับ
XIII Post on March 4, 2015 at 7:31 pm
#902193
ละเอียดดีครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล
zipbaba Post on March 5, 2015 at 4:55 pm
#902342
ได้ความรู้อีกเยอะเลย ^_^
tonylee Post on March 6, 2015 at 4:16 pm
#902468
มากี่G เนทบ้านเราก็แพงเหมือนเดิม
( -__-' )
danya Post on March 8, 2015 at 6:33 am
#902715
จะ 3G 4G เจอ Fup เมืองไทยเข้าไปก็มีเต่าเหมือนกันนั่นแหละ
skuma Post on December 31, 2015 at 2:51 am
#938686
Get เลยครับ มีสาระขึ้นมาทันที 😀
noom9888 Post on January 4, 2016 at 4:29 pm
#938884
เช่นนั้น 4G LTE ขึ้นไอคอน 4G แล้ว 4G LTE-A ขึ้นไอคอนแบบไหนครับ?