สำหรับระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่ทุกคนต้องรู้จักและอย่างน้อย ๆ ต้องเคยสัมผัสใช้งานมาสักครั้งนั้นก็คือ Windows ปัจจุบันอายุอานามตอนนี้ก็ 35 ปีแล้วความรู้สึกผูกพันกันมาตั้งแต่เล็กจนโต ซึ่งล่าสุดทาง Microsoft ก็ได้เปิดตัว Windows 11 กันไปสด ๆ ร้อนๆ หน้าตาเปลี่ยนใหม่หมด สวยขึ้นกว่าเดิมมาก โดยรายละเอียดต่าง ๆ จะเป็นไงบ้างมาดูสรุปกันครับ

Windows 11 มีอะไรใหม่ 

Play video

สิ่งที่เพิ่มเติมเข้าใน Windows 11 ถือว่าเยอะมาก แม้ดูเผิน ๆ จะคล้าย ๆ กับ Windows 10 แต่พอมาดูรายละเอียดจริง ๆ แทบจะเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ทั้งหมดเลย โดยพัฒนาสานต่อมาจาก Windows 10X ที่ล้มเลิกไป โดยทาง Microsoft เองยังเผยอีกว่าประสิทธิภาพและการเปลี่ยนแปลงของตัววินโดว์ 11 นี้จะทำได้ดีกว่าวินโดว์รุ่นอื่น ๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งาน Multi-task, ใช้งานหลายหน้าจอ, เล่นเกม, ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ รวมถึงยังจะสามารถใช้งานแอปมือถือ Android ได้ด้วยโดยไม่ต้องผ่าน Emulator

All new ดีไซน์ใหม่หมด / ปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น

แน่นอนว่าทุกครั้งที่ Microsoft ออก Windows ตัวใหม่ ดีไซน์ต่างก็ย่อมเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย แต่ใน Windows 11 นี้ดูเหมือนจะเป็นการยกเครื่องใหม่หมดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ UX UI ที่ดูโค้งมนลื่นสบายตาเป็นมิตรมากขึ้น จากเดิมที่จะทรงออกเหลี่ยมแข็ง ๆ ทำให้ดูน่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมมาก โดยหลัก ๆ แล้วจะมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ

  • ย้ายแถมเมนูปุ่ม Start มาอยู่ตรงกลางหน้าจอ ทำให้เรามีพื้นที่การใช้งานมากขึ้น
  • Animation การเคลื่อนไหวทำงานได้สมูทและเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิมมาก (ดูตัวอย่างได้ในคลิปด้านบน)

  • ปรับหน้าต่างโปรแกรมได้ 6 รูปแบบ เพื่อการใช้งาน Multi-task ได้ดียิ่งขึ้น เลือกได้ว่าจะวางแต่ละโปรแกรมแบบไหน

  • ไอคอนต่าง ๆ เปลี่ยนใหม่หมด เน้นความโค้งมน ลบเหลี่ยม และดีไซน์เน้นความโปร่งใส transparency ดูเป็นมิตรมากขึ้น

  • มีระบบจดจำการใช้งานสองหน้าจอ คือ สมมติเราใช้งานสองจออยู่เหมือนในรูป ถ้าเราดึงสายเชื่อมต่อจอออก แล้วเสียบกับเข้าไปใหม่ โปรแกรมที่เปิดใช้งานอยู่ก็จะจัดวางรูปแบบเดิมไม่ต้องมานั่งลากวางใหม่ (ถ้าเป็น Windows 10 ต้องลากโปรแกรมจากจอโน้ตบุ๊คไปจอแยกใหม่อีกที)

 

News Feed เช็คทุกอย่างได้ในหน้าจอเดียว

  • เพิ่มฟีเจอร์ Widget โชว์ News Feed ต่าง ๆ ด้านซ้ายหน้าจอ โดยจะมีทั้ง สภาพอุณหภูมิอากาศ, ข่าวสาร, ตาราง Calendar ฯลฯ ซึ่งเราสามารถตั้งค่ารูปแบบจัดวางได้ตามใจชอบ

 

Microsoft Teams ในตัว พร้อมวิดีคอลกับที่บ้าน และประชุมงาน

  • มีโปรแกรม Microsoft Teams ติดมากับเครื่องเลย ไว้สำหรับใช้งานวิดีโอคอล แชท (เหมือน Skype) ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ ทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น iOS, Android หรือ macOS ก็ตาม

 

เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานหน้าจอเดียว

ซ้าย-ใช้ปากกาไฮไลท์ได้ / กลาง-แป้นพิมพ์ Swipe / ขวา-พูดเพื่อให้พิมพ์

  • ปรับปรุงการใช้งานแท็บเล็ตโหมด(ที่มีแต่เฉพาะหน้าจอ) ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการใช้งานปากกาที่สามารถเขียนไฮไลท์หรือลบได้, แป้นพิมพ์แบบ Swipe ใช้นิ้วโป้งมือเดียว และการพูดเพื่อให้ตัวเครื่องพิมพ์ให้แทน

 

พิ่ม Auto HDR ให้กับเกมเก่า / มี Xbox Game Pass

ซ้าย-เพิ่มโหมด HDR / ขวา-เพิ่ม Xbox Game Pass บน Windows 11

  • ตัว Windows 11 ทาง Microsoft เคลมว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมให้ดีขึ้น ทั้งเพิ่มฟีเจอร์ Auto HDR กับเกมที่เข้ากันได้บนพื้นฐาน DirectX 11 และ 12, ฟีเจอร์ DirectStorage ที่สามารถรีดประสิทธิภาพ SSD NVMe ให้โหลดเกมได้เร็วขึ้น รวมถึงเพิ่ม Xbox Game Pass ทำให้เราสามารถเล่นเกมผ่านบริการสตรีมเกมจากคลาวด์ของ Microsoft ได้อีกด้วย

 

Microsoft Store โฉมใหม่

  • ปรับปรุง Microsoft Store ใหม่ เพิ่มแอปและโปรแกรมต่าง ๆ ให้เยอะขึ้น รวมถึงเปลี่ยนหน้าตาดีไซน์ใหม่หมดด้วย ดูน่าใช้งานกว่าบน Windows 10 เยอะ

 

Windows 11 สามารถติดตั้ง แอป และ เกม Android ได้

  • ไฮไลท์เด็ดอีกอย่างคือ Windows 11 สามารถใช้แอปบน Android ได้เลยโดยไม่ต้องติดตั้งพวกโปรแกรมจำลองหรือ Emu อื่น ๆ เบื้องต้นคือสามารถดาวน์โหลดแอปบน Amazon appstore มาใช้งานได้เลย

อัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ตอนไหน ฟรีไหม ?

แน่นอนว่าใครที่ใช้ Windows 10 อยู่ในปัจจุบันทาง Microsoft ยืนยันว่า สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ฟรี แต่ต้องมีสเปคผ่านขั้นต่ำที่กำหนด ซึ่งจะเปิดให้อัปเกรดในช่วงปลายปีนี้ (ยังไม่ระบุว่าเป็นวันใดแน่ชัด) ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีข่าวลือหลุดมาว่าคนที่ใช้ Windows 7, 8 และ 8.1 จะสามารถอัปเดตเป็น Windows 11 ฟรีนั้น ยังไม่มีการยืนยันจาก Microsoft ออกมาครับ

**อัปเกรดได้ฟรีเฉพาะคนที่ใช้ Windows ลิขสิทธิ์คีย์แท้เท่านั้น

 

สเปคขั้นต่ำของ Windows 11

  • CPU : ความเร็วขั้นต่ำ 1 GHz หรือมีซีพียู 2 คอร์ขึ้นไป ที่เป็นแบบ 64-bit หรือ System on a Chip (SoC)
  • GPU : รองรับ DirectX 12 / WDDM 2.x
  • RAM : ขั้นต่ำ 4 GB
  • Storage : 64GB ขึ้นไป
  • Display : มากกว่า 9 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD (720p) ขึ้นไป
  • System firmware UEFI, Secure Boot capable
  • TPM Trusted Platform Module (TPM) : version 2.0 ขึ้นไป (ชิป TPM เรื่องความปลอดภัยที่อยู่ในบอร์ด)
  • ต้องมีบัญชี Microsoft และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อตั้งค่า Windows 11
  • ใช้โปรแกรมเช็คได้ว่าเครื่องรองรับ Windows 11 หรือไม่ : ที่นี่

สรุปแล้วบอกเลยว่า Windows 11 ที่ทาง Microsoft เปิดตัวมาใหม่นี้ถือว่าน่าใช้มากจริง ๆ แถมดูจากสเปคแล้วคอมเก่าที่อายุ 5-6 ปี สเปคไม่แรงมากก็พอสามารถใช้งานได้อยู่ ซึ่งสิ่งที่ถือเป็นเรื่องดีและแตกต่างไปจากวินโดว์รุ่นก่อนมาก ๆ คือพวกงานดีไซน์ UX UI ที่เปลี่ยนใหม่หมด น่าใช้งานมากขึ้น ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยจะใช้งานได้ตอนไหน ประสิทธิภาพจะดีกว่า Windows 10 มากน้อยเท่าไร ปลายปีนี้ได้รู้กันแน่นอนครับ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : Microsoft

 

วิธีเปิด Windows Insider Program อัปเดตคอมเป็น Windows 11 Preview ก่อนใคร สำหรับคนชอบลองของใหม่