เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา OnePlus เพิ่งจะถูกเปิดโปงว่าได้ทำการโกงผลการทดสอบคะแนน benchmark ไม่ว่าจะเป็นการโกงในแอพ AnTuTu หรือ GeekBench ซึ่งเราก็คาดว่าครั้งนี้ OnePlus จะไม่ทำซ้ำรอยเดิมอีก แต่น่าเสียดายที่วันนี้ทาง XDA เจ้าเก่าได้ออกมาประกาศอีกครั้งว่า OnePlus 5 นั้นมีการโกงคะแนนผลการทดสอบ benchmark อีกแล้ว พร้อมเผยสาเหตุการคว้าอันดับหนึ่งจากแอพ GeekBench 4
OnePlus 5 มาพร้อมกับชิป Snapdragon 835 octa-core (4 x 2.45GHZ + 4×1.9GHz) โดยการโกงของ OnePlus 5 จะเป็นวิธีการเร่งความเร็วของ 4-core เล็กที่มีความเร็ว 1.9GHz ให้วิ่งที่ความเร็วสูงสุดตลอดเวลาในการทดสอบ benchmark โดยได้มีการกำหนดแอพจากการดู package ID ไว้แล้วว่าจะให้เร่งความเร็วกับแอพไหนบ้าง
- AnTuTu (com.antutu.benchmark.full)
- Androbench (com.andromeda.androbench2)
- Geekbench 4 (com.primatelabs.geekbench)
- GFXBench (com.glbenchmark.glbenchmark27)
- Quadrant (com.aurorasoftworks.quadrant.ui.standard)
- Nenamark 2 (se.nena.nenamark2)
- Vellamo (com.quicinc.vellamo)
ทาง XDA ได้ทำการทดสอบกับแอพ GeekBench 4 แบบที่โหลดมาจาก Google Play Store ซึ่งมี package ID ติดมาด้วย พร้อมกับทดสอบกับแอพ GeekBench 4 ที่มีการซ่อน package ID เอาไว้ และทำการตรวจเช็คความเร็วของ CPU ว่าการวิ่งระหว่างทดสอบนั้นเป็นอย่างไร โดยผลลัพธ์ที่ได้ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ระหว่างการทดสอบกับแอพ GeekBench 4 ที่ดาวน์โหลดมาจาก Google Play Store นั้น CPU วิ่งที่ความเร็วสูงสุดกว่า 95% ของการทดสอบ ผิดกับแอพที่มีการซ่อน package ID หรือการปิดโหมดโกง เอาไว้ ที่วิ่งที่ความเร็วสูงสุด 1.9GHz เพียงแค่ 24.4% เท่านั้น
ผลการทดสอบระหว่าง การเปิดโหมดโกงของ OnePlus 5 นั้นเห็นชัดที่สุดในส่วนของ multi-core ซึ่งเมื่อเปิดโหมดโกงแล้วจะเห็นว่าคะแนนในส่วนนี้จะอยู่ที่ราวๆ 6,700 คะแนน แต่ว่าเมื่อปิดโหมดโกงคะแนนก็จะลดลงมาไม่ถึง 6,500 คะแนน สำหรับในส่วนของ single-core นั้นไม่เห็นผลต่างเท่าไหร่นัก แถมบางทีการที่ไม่ได้เปิดโหมดโกงนั้นสามารถทำคะแนนได้สูงกว่าตอนที่เปิดอีกด้วยครับ
ล่าสุดทาง XDA ก็มีการติดต่อไปยัง OnePlus ถึงเรื่องการโกงคะแนนทดสอบ benchmark และคำตอบที่ทาง OnePlus ตอบกลับมาก็คือ
ผู้คนใช้แอพ benchmark เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องของผู้ใช้งาน และเราต้องการให้ผู้ใชงานนั้นได้เห็นถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของ OnePlus 5 ดังนั้นเราเลยอณุญาตให้แอพ benchmark นั้นทำงานเหมือนกับการใช้งานจริง และนั่นก็รวมถึงการเล่นเกมหรือใช้งานแอพหนักๆ นอกจากนี้ เมื่อเปิดแอพบน OnePlus 5 มันก็จะอยู่ในสถานะแบบเดียวกับการเล่นเกม เพื่อให้การเปิดแอพนั้นทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เราไม่ได้ทำการเร่งความเร็วของตัวเครื่อง แต่เราพยายามแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของ OnePlus 5 มากกว่า
ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อเราทดสอบ benchmark เจ้า OnePlus 5 จะทำงานอยู่ในสถานะที่ไม่ใช่การใช่งานทั่วไป แต่ว่าจะเป็นการทดสอบในสถานะที่เหมือนกับว่าเรากำลังเล่นเกมหนักๆ อยู่ ทำให้ผลคะแนนที่ได้นั้นไม่ใช่ผลคะแนนที่แสดงให้เห็นถึงการใช้งานจริง แต่เป็นผลคะแนนจากการรีดประสิทธิภาพที่มีทั้งหมดของตัวเครื่องออกมาแสดงมากกว่า
ว่าแต่เพื่อนๆ ให้คิดยังไงกับการทดสอบ benchmark บ้างครับ? คิดว่าการทดสอบ benchmark นั้นควรจะวัดผลที่การใช้งานทั่วไปหรือว่าวัดผลที่ประสิทธิภาพสูงสุดที่รุ่นนั้นจะทำได้กันแน่?
ที่มา: XDA-Developers
อีกแล้วหรอ จีนจริงๆ
แปลกตรงไหนหว่า แล้วมันเรียกโกงตรงไหน? อย่ามาทำเป็นเกลียดจีนเลย iPhone ที่ใช้อยู่ก็ Made in China ทั้งนั้นแหละ
แต่ไม่ชอบดีไซน์เลย -..-
แล้ว benchmark มันไม่ใช้การวัดผลประสิทธิภาพสูงสุดของอุปกรณ์หร้อ
หรือผมหลงประเด็น..
สรุปการเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU ถือเป็นการโกงไปแล้ว…
ผมเห็นด้วยกับ 1+ นะครับ ถ้าเครื่องไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพ จะเรียกได้ว่าการทดสอบประสิทธิภาพได้อย่างไร
ไม่เป็นไร ใส่เคสไอโฟนได้ (หรือเปล่า) พอใจแร่ะ
ถ้าเป็นการดึงประสิทธิภาพทั้งหมดออกมาแสดง โดยที่ไม่ไป over มัน ผมคิดว่ามันถูกต้องแล้ว เพราะเราต้องการวัดประสิทธิภาพสูงสุดมัน แล้วมันก็แสดงให้ห็นว่าเขาออกแบบมาดี ทำให้สามารถทำงานหนักได้โดยที่เครื่องไม่เสีย
ก็น่าจะทำแบบเปิดเผยไปเลย แบบเร่งประสิทธิภาพทุกแอฟแล้วให้ไปอยู่เป็น function performance ของระบบ อยากประหยัดก็คืนเป็น balance มาทำเจาะจงบางแอพแบบนี้โดยที่แบรนด์อื่นเค้าไม่ทำกัน(มั้ง) มันก็ดูไม่ดีนะ
ที่ว่าโกงก็เพราะเครื่องอื่นเค้าไม่ได้ทำแบบนี้ไง ถ้าเครื่องยี่ห้ออื่นเค้าทำแบบนี้กันหมดก็ไม่ได้ที่ 1 หรอก
ไม่ควรเอามาปนกันครับ ในเมื่อแอปนี้วัดค่าปกติทั่วไปที่ใช้งานเวลาใช้แอพ ก็ไม่ควรมีการปรับแต่งเพื่อรองรับการวัดค่า แต่ถ้าอยากโชว์ประสิทธิภาพเต็มที่อย่างจริงใจ ก็ควรมีมาโขว์แบบที่แจ้งอย่างโปร่งใส่ว่าค่านี้ได้จากการปรับแต่งให้ใช้เต็มประสิทธิภาพนะ ไม่ใช่แอบทำแล้วคนอื่นเข้าใจว่าไม่ได้ปรับแต่ง
ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้มี 2 ค่า โชว์แยกกันในทุกๆแบรนด์ครับ ไม่งั้น จงใจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดโดยนึกว่าเขาจะไม่รู้ ก็โกงดีๆนี่เองแหละ
เอาจริงๆ เดี๋ยวนี้ไม่ได้ดูคะแนนเป็นหลักแล้วดูที่ชิพเซ็ตก็รู้แล้ว คะแนนไม่ต่างกันมากหรอกถ้าใช้ชิพเซ็ตเหมือนกัน
ผมว่าก็ไม่ได้ถึงกับโกงนะ เรียกว่าใช้ performance เต็มที่มากกว่า
ก็ไม่ได้โกงนิ มันก็ดึงประสิทธิภาพสูงสุดของ CPU ออกมาไม่ใช่เหรอ
เดี๋ยวนี้ยังมีคนสนใจคะแนนการทดสอบอยู่อีกเหรอครับ
คิดว่า ช่างมันเถอะ รุ่นไหนทำออกมาดี กระแสดีมาก ต้องโดนคู่แข่งโจมตีจุดที่ก้าวพลาด เป็นเรื่องธรรมดา ดูจากข่าวที่ผ่านมา
โกงซิ ยก ตย.อาจารย์จะจัดสอบวัดผลโดยแจ้งให้เฉพาะเด็กบางคนทราบล่วงหน้า แบบนี้คิดว่าเป็นธรรมกับเด็กทั้งห้องไหมละ
มันเป็นแทคติก
ประหลาดนะ หลายค่ายเค้าก็ไม่ทำกัน แต่ตัวเองยังทำอยู่ มันคงไม่มีจุดขายแล้วมั้งถึงได้เอาวิธีนี้หากินเกทับแบรนด์อื่นๆ ตัวเครื่องก็ก๊อปแล้วก๊อปอีก สาวกก็อวยแล้วอวยอีกดีเลิศที่สุดในปฐพี – -"
วิธีการโกงคือ
มันเก็บลิสต์ของโปรแกรม Benchmark ให้ทำงานดีกว่าปกติ
แต่เวลาใช้งานจริง เล่นเกมจริง มันไม่อยู่ในลิสต์ ก็จะทำงานปกติ
ซึ่งตามหลัก Benchmarj
มันต้องไม่มีลิสต์อะไรแบบนี้
เพื่อให้เครื่องทำงานปกติแล้ววัดผล
คือกลุ่มเป้าหมายเขาคือคนบ้าคะแนนแบบไม่แคร์ใดใดเหรอ?
CPU ตัวเดียวกันยัดมาในเรือธง แรม รอม ความเร็วใกล้เคียงกันความละเอียดจอ ก็1080 2K ผลต่างคะแนนมันก็ +-10% แค่นั้นป่ะ
ตัดสินกันที่ฟีเจอร์กับดีไซน์ดูจะสมเหตุสมผลกว่านะ
ประเด็นคือ การวัดประสิทธิภาพของเครื่องจะวัดที่การทำงานเต็มที่จริงๆ โดยไม่ได้ไป overclock หรือจะวัดเมื่อทำงานปกติธรรมดาๆ ซึ่ง CPU อาจจะลดความเร็วการทำงานลงมา
ส่วนตัวผมชอบแบบที่วัดการทำงานเต็มที่จริงๆของ CPU มากกว่า เพราะผมต้องการรู้ประสิทธิภาพจริงๆของเครื่อง และสะท้อนการทำงานจริงๆ เมื่อเกิดการใช้งานหนักๆได้จริง ซึ่ง Benchmark App อาจจะไม่สามารถดึงประสิทธิภาพได้เต็มที่ หรือ OS อาจจะอยู่ใน mode ที่เน้นประหยัดพลังาน ทำให้ลดประสิทธิภาพการทำงานลงมา เป็นต้น
เดิมที เมื่ออยากทดสอบประสิทธิภาพเต็มที่ของเครื่อง ต้องไปปรับค่า CPU Governor เป็น Performance เพื่อให้ดึงประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่ แต่หากไม่ต้องมาปรับอะไรพวกนี้ ไม่ต้องเสียเวลามาปรับให้ยุ่งยากก็สะดวกขึ้นมากครับ
เอาเป็นว่าใช้งานจริงแล้วมันไม่ขัดใจ ไม่กระตุกผมว่าก็โอเคแล้วนะ
หากซื้อมาผมคงไม่ได้เอามานั่งเทสคะแนนทุกเช้าแน่ๆครับ
ปล.รุ่นนี้ดีไซน์มันเป้ะกับไอโฟนเกินไปจริงๆ
ปกติ Benchmark ผมดูความเร็ว RAM กับ ROM พอแล้ว
CPU ตัวเดียวกันมันไม่ต่างอะไรกันมากหรอก
มาวัดที่ความเสถียร Software ตอนที่ใช้งานอีกที
แต่คนทำเทสต์ก็ชอบเอา Benchmark หลายสถาบันมาโชว์ให้ดู
แต่ไอ้ความเร็ว RAM กับ ROM ที่ช่วยไม่ให้โดนหลอกได้กับไม่ค่อยทดสอบกัน T_T
แอพมันวัดคะแนนตอนใช้งานปกติ รุ่นอื่นเขาก็ใช้สถานะปกติเวลาเทสแอพ
พอรุ่นนี้โกงแอบฟูลโหลดเวลาเทสก็บอกเรื่องปกติ เครื่องมันทำได้เต็มที่ มันใช่เหรอ
งี้พวกโด๊ปยาเวลาแข่งกีฬาก็ไม่เรียกโกงปะ ก็ร่างกายเขาสามารถรับได้แล้วทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเวลาโด๊ปยา คนอื่นไม่โด๊ปสิโง่เอง ???
ซัมซุงทำนี่เห็นด่ากันยันเหง้า โถ