มาแล้ว Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro มือถือเสียวหมี่ราคาดีสเปคโคตรพระกาฬ ปีนี้รุ่น 12T ธรรมดาใช้ชิปเซ็ตดีเด่นอย่าง Dimensity 8100 Ultra มากับกล้องความละเอียด 108MP ส่วนรุ่น 12T Pro อัประดับความเทพด้วย Snapdragon 8+ Gen 1 มาพร้อมกับกล้องเซนเซอร์ยักษ์ 200MP ที่จะออกวางขายในไทยเป็นครั้งแรกครับ
XIAOMI 12T
มือถือ Xiaomi 12T ใช้จอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ไถจอกันได้ลื่น ๆ ด้วยรีเฟรชเรท 120Hz แบบ Adaptive และสำหรับสายเกมก็คงถูกใจกันเพราะมี Touch Sampling Rate สูงถึง 480Hz เคลี่อนนิ้วไปไหนจอก็ตอบสนองได้ไวตามความต้องการ ระบบเสียงก็กระหึ่มแน่นอนด้วยลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos ที่ harman kardon ปรับจูนเสียงให้มีคุณภาพเต็มเปี่ยม
ในด้านความสวยงามของจอ ก็บอกได้เลยว่าหายห่วง ด้วยการรองรับ HDR10+ Dolby Vision และอัตราส่วนความต่างสี 5,000,000 : 1 ทำให้แสดงสีแตงต่างกันได้มากถึง 68 หมื่นล้านสีเลยทีเดียว แถมยังมีค่าความสว่างอยู่ที่ 500 – 900 นิต จอสว่างพร้อมสู้แดดเลย
มาดูเรื่องความแรงของเครื่องกันบ้าง Xiaomi 12T ใช้ชิป Dimensity 8100 Ultra ของ MediaTek ที่เค้าว่าแรงกว่ารุ่นก่อน 28% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 27% หยิบไปใช้งานแบบไหน เล่นเกมอะไรก็พร้อมสู้หมดทุกด้าน มากับแบตคู่ใจ 5000 mAh ชาร์จไวสูงปรี๊ด 120W ชาร์จเต็ม 100% ได้ใน 19 นาที
ถึงเป็นรุ่น 12T ธรรมดา แต่กล้องรับรองว่าไม่ธรรมดา ด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108MP จะถ่ายแช๊ะไหนก็ได้ภาพสวย คมชัด
และสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 8K 24fps นอกจากนี้ยังมีกล้องอัลตราไวด์ 8MP ไว้ถ่ายภาพมุมกว้าง และมีกล้องมาโคร 2MP ให้มาอีกตัวด้วย กล้องหน้าเป็นดีไซน์แบบเจาะรู ความละเอียด 20MP
ระบบกล้องรุ่นนี้ก็จะมีเจอร์ดี ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย อย่างฟีเจอร์การซูม in-sensor zoom ที่ใช้การซูมตั้งแต่เลเวลเซนเซอร์กล้องให้ภาพออกมาคมชัด และ Xiaomi Profocus ที่ล็อกโฟกัสไว้กับวัตถุและใบหน้าคน ทำให้ถ่ายวิดีโอและภาพได้ชัดแม้มีการเคลื่อนไหวในเฟรม สุดท้ายเป็นฟีเจอร์ Xiaomi Mega Night ที่ทำให้ถ่ายภาพและคลิปได้อย่างชัดเจนและสว่าง แม้อยู่ในซีนที่มืดครับ
Xiaomi 12T จะใช้ระบบปฎิบัติการ Android 12 ครอบด้วย MIUI 13 พร้อมรองรับการอัปเดตแอนดรอยถึง 3 เวอร์ชั่น และจะอัปเดตความปลอดภัยให้ถึง 4 ปี
สเปค XIAOMI 12T
- จอภาพ : CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว
– ความละเอียด FHD+ 1220 x 2712
– รีเฟรชเรท 120Hz (แบบ Adaptive)
– อัตราตอบสนองการสัมผัส 480Hz
– รองรับ HDR10+ Dolby Vision อัตราส่วนความต่างสี 5,000000 : 1
– ความสว่างสูงสุด 900 นิต - ชิป : Dimensity 8100 Ultra
- RAM (LPDDR5) : 8GB
- ROM (UFS 3.1) : 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 108MP, รูรับแสง f/1.7, เซนเซอร์ขนาด 1/1.67 นิ้ว, กันสั่น OIS
– กล้องอัลตราไวด์ 8MP, รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
– กล้องมาโคร 2MP, รูรับแสง f/2.4 - กล้องหน้า : 20MP, รูรับแสง f/2.2
- เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e
– Bluetooth 5.3
– NFC - พอร์ต : USB Type-C
- สแกนนิ้วมือ : ใต้หน้าจอ (under display)
- ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ 5000 mAh
– รองรับชาร์จไว 120W - ระบบปฏิบัติการ : MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12
- ความทนทาน : ทนน้ำและฝุ่น IP
- ขนาด : 163.1 x 75.9 x 8.6 มม.
- น้ำหนัก : 202 กรัม
XIAOMI 12T PRO
มาดูรุ่นตัวสูงขึ้นไปอีกหน่อยกันบ้าง มือถือ Xiaomi 12T Pro มาพร้อมกับจอเฉกเช่นเดียวกันตัว 12T คือเป็น CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz และ Touch Sampling Rate 480Hz แถมยังมีความสวยงามเป็นธรรมชาติด้วย HDR10+ Dolby Vision มีลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos เช่นกัน แต่รุ่นนี้มีควางสว่างสูงสุดมากกว่าถึง 1200 นิต
แต่ความต่างแรกอยู่ที่ชิปเซ็ตข้างในที่ใช้ Snapdragon 8+ Gen 1 จาก Qualcomm เรียกได้ว่าพี่ขอลองทั้งสองค่าย ไม่อยากให้ทะเลาะกัน ซึ่งชิปตัวนี้ ทั้งประมวลผลได้เร็วแรง และประหยัดพลังงานได้ดีมาก ๆ อยู่แล้ว จะใช้งานยังไงก็ลื่นไม่มีสะดุด และยังมีตัวช่วยกระจายความร้อน Liquid cooling system แบบใหม่ขนาดใหญ่มากขึ้น ใช้คู่กับแบตความจุ 5000 mAh อยู่ได้ทั้งวันไม่ต้องคอยชาร์จ รองรับชาร์จไว 120W ที่เค้าเคลมว่าชาร์จเต็ม 100% ได้ใน 19 นาที
และแน่นอนจะไม่พูดถึงระบบกล้องไม่ได้ กล้องหลักใช้เซนเซอร์ Samsung HP1 ความละเอียดบ้าคลั่ง 200MP ที่สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 8K 24fps ส่วนกล้องที่เหลือยังเป็นเหมือนกับรุ่น 12T คือกล้องอัลตราไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP เพรียบพร้อมด้วยฟีเจอร์ทั้ง Xiaomi Profocus, Xiaomi Mega Nigh, in-sensor zoom และ มีฟีเจอร์เด่นประจำรุ่นเป็น 200MP Xiaomi Procut ที่ใช้ AI ช่วยครอปภาพออกมาได้กว่า 5 ภาพย่อยตามซีน
Xiaomi 12T Pro จะใช้ระบบปฎิบัติการ Android 12 ครอบด้วย MIUI 13 พร้อมรองรับการอัปเดตแอนดรอยถึง 3 เวอร์ชั่น และจะอัปเดตความปลอดภัยให้ถึง 4 ปีเลยทีเดียว
สเปค XIAOMI 12T Pro
- จอภาพ : CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว
– ความละเอียด FHD+ 1,220 x 2,712
– รีเฟรชเรท 120Hz (แบบ Adaptive)
– อัตราตอบสนองการสัมผัส 480Hz
– รองรับ HDR10+ Dolby Vision DCI-P3
– ความสว่างสูงสุด 1200 นิต - ชิป : Snapdragon 8+ Gen 1
- RAM (LPDDR5) : 12GB
- ROM (UFS 3.1) : 256GB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก Samsung HP1 200MP, รูรับแสง f/1.69, เซนเซอร์ขนาด 1/1.22 นิ้ว, กันสั่น OIS
– กล้องอัลตราไวด์ 8MP, รูรับแสง f/2.2, มุมกว้าง 120 องศา
– กล้องมาโคร 2MP, รูรับแสง f/2.4 - กล้องหน้า : 20MP, รูรับแสง f/2.2
- เครือข่าย : 5G
- การเชื่อมต่อ :
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e
– Bluetooth 5.2
– NFC - พอร์ต : USB Type-C
- สแกนนิ้วมือ : ใต้หน้าจอ (under display, optical)
- ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh
– รองรับชาร์จไว 120W - ระบบปฏิบัติการ : MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12
- ขนาด : 163.1 x 75.9 x 8.6 มม.
- น้ำหนัก : 205 กรัม
รีวิว Xiaomi 12T Pro
ราคา Xiaomi 12T , 12T Pro
ทั้งสองรุ่นมีสีแบบเดียวกันคือ Black, Silver, และ Blue และมีวางขายรุ่นละ 1 รูปแบบความจุเท่านั้นดังนี้
Xiaomi 12T รุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 256 GB ราคา 17,990 บาท
Xiaomi 12T Pro รุ่นความจุ RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 25,990 บาท
ทั้งสองรุ่นจะเริ่มวางขายตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคมนี้ ที่ Xiaomi Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ
ส่วนในรอบจองวันที่ 8 - 21 ตุลาคม ยังมีโปรโมชั่นสำหรับ 1,500 คนแรกที่สั่งซื้อ จะได้รับสมาร์ทวอทช์ Xiaomi Watch S1 Active มูลค่า 5,490 บาทไปฟรี ๆ เลย ใครสนใจไปจับจองกันได้ครับ
ราคา Xiaomi 12T Pro ไปชนกับ Xiaomi 12 Pro ตัวเรือธง ที่กำลังลดราคาอยู่ตอนนี้เลยครับ ราคาแรงไปนะผมว่า 😢
ราคาไม่สมกับรหัสตัว T
เท่าที่ไปไล่ดูรีวิวกล้อง(ที่ไม่ใช่ช่อง fake) คือถ่าย nightmode ดีเทลดีมาก
ดูสเปกเว็บ Mi แล้วไม่น่ารองรับชาร์ทไร้สายทั้งคู่นะครับ
อุ่ย เผลอพิมพ์ติดมา ขอบคุณที่ทักครับผม
ผมสงสัยในหลาย ๆ กรณีที่มือถือสเปกดี กล้องหลักดี แต่กล้อง ultra wide แปลกแยกแบบนี้จริง ๆ นะ Wow effect หายไปเลย เพราะผมชอบทั้งการถ่ายภาพและชอบลองเทคใหม่ ๆ แต่เจอเลนส์ UWA 8 MP เข้าไปก็ชะงักอ่ะ ถ้าอย่างน้อยให้สัก 13 MP หรือ 20 MP ตัวเก่าที่เคยใช้ใน Mi Note 10 ก็ยังดี (ปัจจุบันยังใช้มือถือนี้อยู่ เพราะยังหามือถือที่ภาพถ่ายดีเท่าไม่ได้)
อย่างน้อยตัว Pro ก็ปรับกล้อง Ultrawide กับ Macro เป็น 12 MP กับ 5 MP หน่อยก็ได้