สื่อต่างประเทศพบว่าเสียวหมี่ได้ทำการเปลี่ยนเงื่อนไขการขอสิทธิ์ปลดล็อก bootloader มือถือเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ผู้ใช้งานที่ยื่นขอสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 เป็นต้นไป จะได้รับสิทธิ์การปลดล็อกอุปกรณ์ได้สูงสุด 1 เครื่องต่อ 1 บัญชี ภายในกรอบเวลาที่ได้รับอนุญาต ลดลงจากข้อกำหนดเดิมของปีก่อน ที่ให้สิทธิ์ 3 เครื่องต่อ 1 บัญชี

โดยทั่วไปสิทธิ์ปลดล็อก bootloader ของเสียวหมี่จะคงอยู่เป็นเวลา 12 เดือนเศษ เกือบ 13 เดือน หากอิงตามเงื่อนไขใหม่ก็เท่ากับว่า ผู้ใช้งานจะสามารถปลดล็อกมือถือได้เพียงปีละเครื่องเท่านั้น

เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้มีแถลงอย่างเป็นทางการ จึงไม่แน่ชัดว่าเสียวหมี่ทำไปเพราะสาเหตุใด ซึ่งเป็นไปได้ทั้งในแง่ความปลอดภัย การรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์และประสบการณ์การใช้งานมือถือ หรือการป้องกันผลกระทบต่อการทำตลาด

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่ามือถือเสียวหมี่ที่วางจำหน่ายในจีน มักให้สเปกที่เหนือกว่ารุ่นที่ขายในตลาดโลก (เช่นเดียวกับแบรนด์จีนอื่น ๆ) แถมยังมีค่าตัวย่อมเยากว่า โดยแลกมากับการที่อาจมีโฆษณากับโบลตแวร์แฝงมาบ้าง หรือการที่ไม่มี Google Play ติดตั้งมาล่วงหน้า (เพราะคนจีนไม่ใช้งานอยู่แล้ว)

ช่วงหลายปีหลังเราจึงเห็นพ่อค้าหัวใสจำนวนไม่น้อยที่ซื้อมือถือจากจีนไปขายต่อในต่างประเทศ โดยดัดแปลงรอมเป็นรอมอื่นเพื่อเลี่ยงข้อจำกัดข้างต้น ผลที่ตามมาคือ เครื่องศูนย์ฯ ของประเทศนั้น ๆ อาจขายได้น้อยลง แน่นอนว่าเสียวหมี่หรือผู้ผลิตค่ายไหน ๆ ก็คงไม่ปลื้มเท่าไหร่นัก

ดังนั้นหากลองคิดในมุมนี้ การที่เสียวหมี่จะปรับมาตรการการปลดล็อก bootloader ให้เข้มงวดกว่าเดิมในปีนี้ ก็คงเป็นเหตุผลที่พอเข้าใจได้

ที่มา : XiaomiTime