เมื่อตอนต้นปี 2017 Xiaomi ออกมาเผยโฉม Mi 5C สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตรุ่นแรกที่ทางค่ายเป็นผู้พัฒนาขึ้นมาเองอย่างชิป Surge S1 ในตอนนั้นดูเหมือนมันจะเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทที่จะกลายเป็นผู้พัฒนาชิปใช้เองเหมือนกับค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung, Apple และ Huawei โดยสุดท้ายแล้วกระแสก็เงียบหายไป แต่ดูเหมือนว่า Xiaomi จะยังไม่ละความพยายามหลังจากที่สามารถขยายตลาดออกไปและมียอดขายที่มากขึ้นจนบริษัทอยากที่จะลองเสี่ยงดูอีกครั้งหนึ่ง

สเปคชิป Surge S1

จากแหล่งข่าวเผยว่า Xiaomi ได้เพิ่มปริมาณออเดอร์ไปยังโรงงานและซัพพลายเออร์เจ้าต่างๆ ในไต้หวันทั้ง Foxconn Electronics, Inventec, Largan Precision, และ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ที่เราคุ้นเคยกันดี ซึ่งลือกันว่ามีการทำสัญญากันกับ Xiaomi เกี่ยวกับการผลิตชิป Surge S2 ภาคต่อของชิปที่พัฒนาขึ้นเองและเริ่มมีข่าวหลุดออกมาตั้งแต่ก่อนที่งาน MWC 2018 เมื่อช่วงต้นปีจะเริ่มซะอีก

ประสิทธิภาพชิป Surge S1 เทียบกับชิประดับกลางของเจ้าอื่น

คาดกันว่าชิป Surge S2 จะใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 16nm ของ TSMC, ซีพียู 8 คอร์ (Cortex A73 @2.2GHz 4 คอร์ + Cortex A53 @1.8GHz 4 คอร์), การ์ดจอ Mali G71MP8, รองรับหน่วยความจำ UFS 2.1, RAM LPDDR4, แต่กลับไม่รองรับ CDMA อาจเป็นเพราะข้อมูลที่หลุดมายังไม่ใช้ข้อมูลที่สมบูรณ์ (หรืออาจตัดทิ้งไปเลยก็เป็นได้) ถ้าหากมันออกมามีสเปคเหมือนกับที่ลือกันล่ะก็ มันจะไม่ใช่ชิปสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงอย่างแน่นอน แต่มันอาจมีประสิทธิภาพสูงพอๆ กับชิป Kirin 960 ใน Huawei P10 และอาจจะเป็นชิปที่มาแจ้งเกิดให้กับ Xiaomi ในอุตสาหกรรมชิปประมวลระดับ mass ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มสัดส่วนระหว่างราคากับประสิทธิภาพได้มากแค่ไหน ซึ่งนี่ก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณและคุณภาพการผลิตของเหล่าบรรดาซัพพลายเออร์ต่างๆที่ผลิตชิ้นส่วนให้อีกต่อนึงด้วย

ดูเหมือนว่า Xiaomi กำลังจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ภายภาคหน้า เมื่อมีอีกแหล่งข่าวนึงเผยว่า Lin Bin ประธานบริษัทได้ไปทำสัญญากับ Largan Pricision บริษัทซัพพลายเออร์ผู้ผลิตโมดูลกล้องสำหรับอุปกรณ์มือถือโดยเฉพาะเพื่อที่ Xiaomi จะสามารถเพิ่มชิ้นส่วนในการผลิตสมาร์ทโฟนกล้องคู่ระดับเรือธงในช่วงครึ่งปีหลังนี้ได้ นอกจากนั้น Xiaomi ยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับทาง Foxconn โดยทั้งคู่ได้ร่วมกันตั้งโรงงานเคลือบแผงวงจรในประเทศอินเดียและทาง Xiaomi เองก็กำลังพิจารณาในการนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มเงินทุนสำหรับการขยายกิจการและการวิจัยพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ

 

ที่มา: GSMArena