หลังจากเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับมือถือเรือธงรุ่นใหม่อย่าง Xiaomi Mi 11 5G ที่ขนขบวนเอาฟีเจอร์ และสเปคเจ๋ง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น จอ AMOLED ขนาด 6.81 นิ้ว ความละเอียด 2K อัตรารีเฟรช 120Hz แบตเตอรี่ 4600mAh มาพร้อม Android 11 ตั้งแต่ออกจากกล่อง ในราคาเริ่มต้นเพียง 18,490 บาท แถมล่าสุดทาง Xiaomi ได้ออกมาเปิดเผยผลทดสอบความเร็ว Wi-Fi ที่เอาชนะ iPhone 12 Pro Max ไปได้อย่างขาดลอย
ทาง Xiaomi ได้ปล่อยผลทดสอบความเร็ว Wi-Fi ของ Xiaomi Mi 11 5G ปะทะกับ iPhone 12 Pro Max ออกมาให้ได้เห็นกันจะ ๆ โดยใช้งานเราเตอร์เรือธงของค่ายอย่าง AX6000 ที่รองรับ Wi-Fi 6E ด้วย ซึ่งเราก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าการที่ทาง Xiaomi ใช้งานเราเตอร์ของค่ายตัวเองก็ถือว่าเป็นการสร้างความได้เปรียบเรื่อง Compatibility ได้ในระดับหนึ่งด้วย
เราเตอร์ Xiaomi AX6000 ตัวใหม่ล่าสุด
ในเรื่องสเปคของ Xiaomi AX6000 ก็มาพร้อมกับ RAM ขนาด 512MB สามารถรองรับการเชื่อมต่อจากหลาย ๆ อุปกรณ์พร้อมกันได้มากสูงสุดถึง 248 เครื่อง และมี bandwidth สูงถึง 800Mbps ซึ่งการทดสอบนี้ได้ถูกจัดทำอยู่ที่สนามฟุตบอลเพื่อไม่ให้มีสิ่งกีดขวางระหว่างสัญญาณ และตัวเครื่อง ซึ่งตัวมือถือ Mi 11 5G และ iPhone 12 Pro Max ก็ถูกวางห่างจากตัวเราเตอร์ในระยะทางเท่า ๆ กัน
การทดสอบทั้ง 3 ระยะได้แก่ 53 ม. 114 ม. และ 161 ม. ตามลำดับ
ในการทดสอบทั้ง 3 ครั้ง ตัวมือถือจะถูกขยับออกจากเราเตอร์ไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผลปรากฏออกมาว่า Xiaomi Mi 11 5G มีคุณภาพสัญญาณที่สูงกว่า และเร็วกว่า iPhone 12 Pro Max อย่างเห็นได้ชัดในทั้ง 3 ระยะเลย
ผลทดสอบที่ออกมาว่า Xiaomi Mi 11 5G ชนะ iPhone 12 Pro Max ในทุกระยะ
ซึ่งการทดสอบนี้ก็ไม่ได้ต้องการจะแทะโลมทางฝั่ง Apple แต่อย่างใด เพราะจากที่ดูแล้วก็เหมือนจะบอกเป็นนัย ๆ ว่าใครที่ซื้อ Mi 11 5G ไปใช้ก็สามารถซื้อเราเตอร์ AX6000 ตัวใหม่ไปใช้คู่กันเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีที่สุดมากกว่าครับ ซึ่งตอนนี้ Xiaomi Mi 11 ก็ได้เริ่มวางขายอย่างเป็นทางการแล้วในจีน ส่วนเราเตอร์ AX6000 ก็จะเปิดตัวให้ได้เห็นกันในวันที่ 8 มกราคมที่จะถึงนี้ครับ ส่วนทาง iPhone 12 ถ้าได้ใช้งานคู่กับเราเตอร์ AirPort ตัวใหม่ก็อาจจะได้เห็นผลทดสอบที่ดีกว่าก็เป็นได้ครับ (แต่ดูเหมือนทาง Apple จะเลิกทำเราเตอร์ไปตั้งแต่ปี 2018 แล้วนะครับ 🤣)
Source: GizChina
น่าจะเขียนถึงเรื่องชิปโมเด็มที่ทั้งสองรุ่นนี้ใช้ด้วย เพราะน่าจะเป็นสาเหตุหลักเลย mi เป็น x60 apple x55 ชิป wifi ที่ติดมากับ x55 ก็เก่ากว่า
ถูกต้องตามเม้นนี้เลยครับ บทความบอกไม่แซะ แต่ลงข้อมูลไม่ครบถ้วน ชิปคนละรุ่นเลย
Mi 11 มี 8×8 MIMO
IP12P มี 2×2 MIMO
มันจะแข่งกันได้ไง 55
ก็ปกติของ iPhone นะ ที่ชอบกั๊กสเปค ใส่่ชิ้นส่วนสเปคต่ำๆราคาถูกๆเพื่อลดต้นทุน