เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ Xiaomi  Mi 6X หรือว่าที่  Mi A2 ที่หลายคนรอคอย โดยในรอบนี้มีการอัพเกรดสเปคเครื่องชุดใหญ่ ทั้งการเลือกใช้ชิปเซ็ตอย่าง Snapdragon 660 ปรับหน้าจอเป็นแบบ Full View 18:9 และอัพทั้งกล้องหน้าและหลัง พร้อมเติมระบบ AI  ที่เข้ามาเสริมทั้งการใช้งานและถ่ายภาพ

ไม่ต้องเกริ่นอะไรเยอะ เริ่มจากการเทียบสเปคกันก่อนเลยดีกว่า จาก Mi 5x / Mi A1 ขยับมาเป็น Mi 6X / Mi A2 นั้นได้อะไรเพิ่มเข้ามาบ้าง

  • Snapdragon 625 > Snapdragon 660 แรงกว่าเดิม 51%
  • กล้องหน้า 5MP > กล้องหน้า 20MP ดีขึ้น 315%
  • กล้องหลัง 12MP+12MP > กล้องหลัง 12MP+20MP f/1.75 ทั้งคู่ แจ่มขึ้น 26%
  • RAM LPDDR3 > RAM LPDDR4
  • Bluetooth 3.0 > Bluetooth 5.0

ยังไม่รวมกับความสามารถในด้าน AI ที่เพิ่มเติมเข้ามา รวมถึงระบบ AI ของกล้องอีก ซึ่งในงานเปิดตัวก็มีข้อมูลและตัวอย่างภาพถ่ายมาให้ดูด้วย

กล้องหลังคู่ของ Mi 6X นั้นใช้เซนเซอร์โซนี่ทั้งคู่ ตัว 12MP IMX486 นั้นมีขนาดพิกเซลอยู่ที่ 1.25 ไมครอน รูรับแสง f/1.75 ส่วนเซนเซอร์ 20MP IMX376 นั้นสามารถรวมพิกเซลให้ใหญ่ขึ้นเป็น 2 ไมครอนได้ (รวม 4 เป็น 1) รูรับแสง f/1.75

กล้อง AI ของ Mi 6X สามารถแยกซีนในการถ่ายภาพได้มากถึง 206 แบบจาก 24 ประเภท (ต้องนับยังไงถึงจะครบ) ลองมาดูตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait กันครับ

ส่วนกล้องหน้า 20MP นั้นก็มีโหมด AI มาช่วยปรับแต่งด้วย เซนเซอร์ที่ใช้เป็น Sony IMX376 และปรับซีนในการเซลฟี่ได้ถึง 12 รูปแบบ แน่นอนว่ามาพร้อมกับตัวอย่างภาพถ่ายอีกเช่นกัน

กล้องหน้ายังถูกนำเอามาใช้กับระบบ Face Unlock โดยมี AI ช่วยในการจดจำใบหน้าเพื่อทำการปลดล็อคตัวเครื่อง

Xiaomi Mi 6X มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3010 มิลลิแอมป์

สเปค Xiaomi Mi 6X

  • MIUI 9.5 (Android Oreo)
  • หน้าจอขนาด 5.99 นิ้ิว อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด Full HD+
  • ชิป Snapdragon 660
  • หน่วยความจำ
    – 4GB /64GB
    – 6GB / 64GB
    – 6GB / 128GB
  • กล้องหน้า 20MP IMX376
  • กล้องหลังคู่ 12MP IMX486 + 20MP IMX376
  • แบตเตอรี่ 3010 มิลลิแอมป์
  • สีที่วางจำหน่าย ดำ แดง ฟ้า ชมพู ทอง
  • ราคาเปิดตัว 1,599 หยวน (8000 บาท) / 1,799 หยวน (9000 บาท) / 1,999 หยวน (10,000 บาท)

Mi 6X นั้นจะเริ่มทำการจองในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนนี้ครับ ส่วนรุ่นนี้ไม่แน่ใจว่าหากเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จะมาเป็นเวอร์ชั่น Mi 6X เลยหร่ือไม่ หรือจะถูกจับไปทำเป็น Mi A2 ซึ่งเป็น Pure Android เลย แน่นอนว่าหากกลายเป็น Pure Android ความสามารถหลายๆ อย่างในด้าน AI อาจจะถูกตัดออกไปหรือเปล่า คงต้องรอเช็คข่าวกันอีกทีครับ