เปิดตัวกันไปเรียบร้อยกับ Xiaomi Mi A2 และ Mi A2 Lite สมาร์ทโฟนรุ่นกลางตัวใหม่จาก Xiaomi ที่บินลัดฟ้าไปเปิดตัวกันถึงที่กรุงมาดริด ประเทศสเปนเลยทีเดียว หลายๆคนที่ได้ชม Live งานเปิดตัวน่าจะตื่นตาตื่นใจกับหลายๆอย่างที่เอามาโชว์กันในงาน แต่เผื่อว่าจะไม่สามารถเก็บรายละเอียดทั้งหมดได้ทัน เราเลยจะมาสรุปให้ดูกันอีกทีว่าตัว Xiaomi Mi A2 และ Mi A2 Lite สองตัวนี้มีฟีเจอร์และสเปคที่น่าสนใจอะไรกันบ้าง

Play video

เปรียบเทียบสเปค Mi A2 และ Mi A2 Lite

สเปค / รุ่นMi A2Mi A2 Lite
หน้าจอ5.99 นิ้ว FHD+
สัดส่วน 18:9
5.84 นิ้ว FHD+
สัดส่วน 19:9
CPUSnapdragon 660 AIESnapdragon 625
GPUAdreno 512Adreno 506
หน่วยความจำ4/64GB, 6/64GB, 6/128GB เติมเมมไม่ได้3/32GB, 4/32GB, 4/64GB + microSD
กล้องหลัง12MP (IMX486) + 20MP (IMX 376)12MP + 5MP
กล้องหน้า20MP (IMX376)5MP
การเชื่อมต่อDual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac, Bluetooth 5 LE, USB-C 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.2, microUSB
แบตเตอรี่3010 mAh, รองรับ QC 3.04000 mAh 5V2A
ระบบปฎิบัติการAndroid 8.1Android 8.1
เสียงลำโพงเดียว, ไมค์คู่, ไม่มีช่องหูฟัง 3.5มม.ลำโพงเดียว, ไมค์คู่, มีช่องหูฟัง 3.5มม.
ซิมDual-SIMDual-SIM+microSD (3 slots)
4Gรองรับทุกคลื่นในไทย
เซนเซอร์Accelerometer, E-Campass, Gyroscope, Finger Print Sensor, Ambient light sensor, Hall sensor, Proximity sensor, Vibration Motor, IR Blaster
สีฟ้า, ดำ, ทอง

ปรับดีไซน์ แต่วัสดุโลหะเหมือนเดิม

Mi A2 และ Mi A2 Lite

หน้าตาของ Mi A2 และ Mi A2 Lite

Xiaomi Mi A2 และ Mi A2 Lite มีการปรับดีไซน์เล็กน้อย โดยขยับกล้องให้อยู่ในแนวตั้ง แต่ยังใช้วัสดุโลหะเช่นเดิมที่บางและดูดีไม่ก๊องแก๊ง จับง่ายไม่หลุดมือ โดยตัว Mi A2 จะเลือกใช้เป็น USB Type C สำหรับพอร์ทการชาร์จ ส่วน Mi A2 Lite จะใช้เป็น Micro USB เท่านั้นนะ

หน้าจอทั้งคู่จะมีขนาดต่างกันเล็กน้อย โดย Mi A2 จะมีขนาดที่ 5.99 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2160×1080, 403 PPI, 1500:1 contrast ratio) และเลือกใช้กระจก 2.5D เพิ่มความโค้งมนให้ดูสวยงามขึ้น ส่วนตัว Mi A2 Lite จะมีขนาดที่ 5.84 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ เท่ากัน (1080×2280, 432 PPI, 1500:1 contrast ratio)

รักกันดีกับ Google เลือกใช้ Android One เช่นเดิม

น่าจะรู้จักกันดีแล้วกับ Androiod One ที่ปัจจุบันมีหลายแบรนด์เริ่มเอาไปใช้เป็นจุดขาย โดยความแตกต่างจากเสี่ยวมี่รุ่นทั่วไปก็คือหน้าตา UI/UX ที่แตกต่าง โดยตัว Android One จะมีความใกล้เคียงกับโทรศัพท์ Pixel 2 ของ Google เลยนั่นเอง ความยากง่ายของการใช้งานขึ้นกับความเคยชินแต่ละคน แต่สิ่งที่ได้และหลายๆคนชอบกันมากก็คือเรื่องของความลื่นไหลที่ทำมาได้ดี และเรื่องการอัพเดทที่น่าจะรวดเร็วกว่าเสี่ยวมี่รุ่นทั่วไป แต่ข้อควรรู้อย่างนึงคือเมื่อตอนรุ่นที่แล้ว Mi A1 มีปัญหาเรื่องการอัพรอมไม่น้อย และไม่ได้เร็วอย่างที่คิด ซึ่งมาถึง Mi A2 ก็หวังว่าปัญหานี้จะหมดไปนะ

กล้องหลังดีขึ้น ปรับใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ถ่ายแสงน้อยได้สว่างกว่าเดิม

Mi A2 มีการเลือกใช้กล้อง 12 + 20 ล้านพิกเซล โดยกล้องหลัก 12 ล้านพิกเซลจะใช้เป็นเซนเซอร์ IMX 486 ซึ่งมีขนาดพิกเซลที่ใหญ่ถึง 1.25 ไมครอน  ถ่ายภาพที่มีแสงมากหรือแสงน้อยก็สวยขึ้นเพราะเก็บรายละเอียดพื้นที่แสงน้อยแสงมากได้ครบครัน เติมความสามารถให้เก่งขึ้นอีกด้วย AI ที่ช่วยประมวลผลภาพต่างๆและตกแต่งให้สวยงามขึ้น ถ่ายภาพบุคคลก็สามารถแยกว่าส่วนไหนคือคนหรือฉากหลังได้ และทำการเบลอได้อย่างแม่นยำ พิเศษกว่าใครตรงที่หลายๆรุ่นจะสามารถตรวจจับบุคคลในภาพได้เพียงคนเดียว แต่ของ Mi A2 หลายคนก็ยังตรวจจับได้อยู่เช่นเดิม

เปรียบเทียบขนาดเซนเซอร์ของ Mi A2 กับสมาร์ทโฟนตัวเรือธงหลายๆรุ่น

Xiaomi Mi A21.25 μmIMX486
Huawei Mate 10 Pro1.25 μmIMX386
Sony Xperia XZ21.22 μm IMX400

ส่วนกล้องรองตัวที่ 2 ความละเอียด 20 ล้านพิกเซลนี้ ใช้เป็นเซนเซอร์ IMX 376 ที่นอกเหนือจากช่วยในการตรวจจับความลึกแล้ว ยังมีความสามารถ Pixel Binding รวม 4 พิกเซลให้เป็น 1 ทำให้ขนาดพิกเซลเสมือนใหญ่ถึง 2 ไมครอน เก็บภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นกว่าดิมอีก ซึ่งตรงนี้ระบบของกล้องจะเลือกการใช้ให้อัตโนมัติว่าสภาพแสงจ้ากล้องหลัก 12 ล้านจะเหมาะกว่า ส่วนแสงน้อยหน่อยก็จะปรับไปใช้ตัวกล้องรองแทน

ส่วนกล้องหน้าของ Mi A2 ก็จะใช้เป็นเซนเซอร์ตัวเดียวกันกับกล้องรองนี้เลย จึงทำให้ได้คุณสมบัติAI Beautify 4.0 มาใช้ถ่าย Selfie ได้ฉลาดและเก่ง ถ่ายภาพ Portrait HDR แบบมี AI มาช่วยดึงความสว่างของหน้าให้ยังสีสดใส และรายละเอียดแสงจ้าด้านหลังก็ยังอยู่เหมือนเดิม ถ้าแสงน้อยมากๆก็ไม่ต้องกลัว เพราะเค้ามีแฟลชกล้องหน้าให้อีกด้วย ซึ่งเค้าเลือกแฟลชมาให้อย่างพิถีพิถัน อุณหภูมิสีตั้งค่าไว้ที่ 4500K เพื่อความอ่อนนวลของแสง ไม่ให้หน้าแข็งจนเกินไป

Mi A2 Lite จะใช้กล้องที่ต่างจาก Mi A2 พอสมควร โดยจะใช้เป็นกล้องหลังคู่ 12+5 ล้านพิกเซล ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรมากมายนัก ฟีเจอร์การถ่ายและมี AI มาช่วยเสริมนั้นก็จะไม่ได้มีเยอะเท่ากัน แต่ที่แน่ๆคือมี AI Portrait Mode ให้ใช้ถ่ายด้วย และยังแยกฉากหลังกับตัวคนได้ดีเหมือนเดิม ส่วนกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลนี้ก็ยังใช้ถ่ายเซลฟีได้โอเค แต่จะไม่มีแฟลชมาให้เหมือน Mi A2 นะ

Google Photos อัพไฟล์รูปขนาดเต็มได้ไม่อั้น

Mi A2 Google Photos

ด้วยความที่ Xiaomi เค้ามั่นใจในกล้องของตัวเองมาก และมีการร่วมมือกับ Google ในการพัฒนา Android One นี้อยู่แล้ว เค้าจึงจัดโปรให้เหล่าผู้ใช้ Mi A2 นี้สามารถอัพโหลดไฟล์ตัวเองขึ้นบน Google Photos ได้แบบไม่อั้น ซึ่งบางคนก็งงว่าตัวเองก็ได้ไม่อั้นเหมือนกันนี่นา แต่บน Mi A2 จะพิเศษกว่าคนทั่วไปตรงที่ไม่อั้นแบบไม่บีบอัดความละเอียดเลยนั่นเอง

กดอ่าน รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Photos

อัพเกรดขึ้นจากเดิม Mi A1 อย่างไร

สรุปความเปลี่ยนแปลงของ Mi A1 → Mi A2

  • Snapdragon 625 → Snapdragon 660
  • กล้องหน้า 5 ล้าน → กล้องหน้า 20 ล้าน
  • กล้องหลัง 12+12 ล้าน → กล้องหลัง 12 + 20 ล้าน
  • f/2.2 + f/2.6 → f/1.75 + f/1.75
  • LPDDR3 → LPDDR4X
  • หน้าจอ 5.5 นิ้ว สัดส่วน 16:9  → หน้าจอ 5.96 นิ้ว สัดส่วน 18:9
  • กล้องหน้าไม่มีไฟแฟลช → กล้องหน้ามีไฟแฟลช
  • Bluetooth 4.2 → Bluetooth 5.0
  • หน่วยความจำสูงสุด 4+64GB → หน่วยความจำสูงสุด 6+128GB
  • ไม่มีเคสแถมให้ → มีเคสแถมให้ในกล่อง
  • มีช่องหูฟัง 3.5 มม. → ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • Hybrid Slot (2​ ซิมหรือเติมเมม) → 2 ซิมเท่านั้น

Mi A2 Lite ไม่แรงแต่แบตอึดโคตร

สเปคและฟีเจอร์ต่างๆใน Mi A2 Lite อาจจะไม่ได้โดดเด่นเหมือนรุ่นพี่อย่าง Mi A2 โดยจุดหลักๆที่ด้อยกว่าก็คือ CPU ที่ใช้เพียง Snapdragon 625 หน่วยความจำที่น้อยกว่า และกล้องที่ไม่ได้ไฮโซเท่า แต่ที่ทีมเสี่ยวมี่เค้าต้องการจริงๆของ Mi A2 Lite นั้นไม่ใช่เรื่องของกล้องเทพหรือสเปคสุดแรงแต่อย่างใดแต่เป็นเรื่องของความอึดในการใช้งานมากกว่า เพราะ Snapdragon 625 นี้เด่นมากๆในเรื่องการประหยัดพลังงาน รวมถึงการให้แบตมาสูงถึง 4,000 mAh นั่นเอง ซึ่งในการเปิดตัวได้ทดสอบ Mi A2 Lite อัดวิดีโอต่อเนื่อง 2 ชม. และเปิดคลิปวนไปมารวมเวลาได้ถึง 7 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียวครับ

ที่เห็น Dual Pyrolytic Graphite Sheets นี่คือตัวลดความร้อนของเครื่อง Mi A2 Lite นะ ช่วยลดอุณหภูมิลงได้ถึง 2 องศา ซึ่งแบตยิ่งเราทำให้มันไม่ร้อนได้เท่าไหร่จะยิ่งถนอมแบตได้มากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ดีใน Mi A2 Lite นี่จะไม่รองรับ Quick Charge นะครับ แต่ว่าใน Mi A2 จะรองรับได้ถึง Quick Charge 3.0 เลย

สเปคแรงแจกครบ ในราคาที่ยังต้องรอลุ้น

อย่างที่เห็นในตารางข้างต้นว่าสเปคจัดมาให้เต็มมากๆ มีทุกอย่างมาค่อนข้างครบ แต่ว่าในรุ่น Mi A2 กลับมีบางอย่างที่ขาดหายไปอย่างน่าเสียดายก็คือ ช่องหูฟัง 3.5mm และสลอต MicroSD แต่รวมๆก็ยังน่าสนใจอยู่ดี โดยทั้งคู่เปิดราคามาไม่แพงมากตามสไตล์เสี่ยวมี่ แต่ราคายังเป็นในสกุลเงินยูโรอยู่ คาดเข้าไทยน่าจะถูกกว่านี้สัก 20-25% นะ

Play video

ราคา Xiaomi Mi A2 และ Mi A2 Lite (ยูโร)

  • Mi A2 4/64GB €249 (คาดราคาไทย 7,900 บาท)
  • Mi A2 6/64GB €279 (คาดราคาไทย 8,900 บาท)
  • Mi A2 6/128GB €349 (คาดราคาไทย 10,900 บาท)
  • Mi A2 Lite 3/32GB €179 (คาดราคาไทย 5,900 บาท)
  • Mi A2 Lite 4/64GB €229 (คาดราคาไทย 7,490 บาท)

รอติดตามราคา รวมถึงวันเวลาวางจำหน่ายของไทย จากพวกเราได้ จะสืบมาให้ทราบกันเร็วๆนี้ครับ ระหว่างนี้ไปดูพี่พัดแกะกล่องกันไปพลางๆก่อนนะ

Play video