เลิกลือเลิกหลุด เพราะ Mi A3 มือถือ Android One รุ่นที่ 3 จาก Xiaomi ได้เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยการันตีอัพเดทให้ 3 ปีเหมือนเคย มาพร้อมกับชิป Snapdragon 665 แบตเตอรี่ 4,030 มิลิแอมป์ และกล้องหลัง 3 ตัว
สเปค Xiaomi Mi A3
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.088 นิ้ว ความละเอียด HD+ 1560 x 720
- ชิปเซ็ต Snapdragon 665
- GPU Adreno 610
- RAM 4GB
- Storage 64/128GB สามารถใส่ microSD card เพิ่มได้
- แบตเตอรี่ขนาด 4,030 mAh รองรับการชาร์จไว 18W
- USB Type C และช่องเสียบหูฟังมาตรฐาน 3.5 มม.
- กล้องหลัง 3 ตัว มี AI
- เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 48MP f/1.79 1/2″ PDAF
- เซ็นเซอร์ ultra-wide ความละเอียด 8MP มุมกว้าง 118 องศา f/2.2
- เซ็นเซอร์ depth ความละเอียด 2MP
- กล้องหน้าความละเอียด 32MP f/2.0 มุมกว้าง 79 องศา
- ไม่มี NFC
- วางจำหน่าย 3 สี
- Not Just Blue
- Kind of Grey
- More Than White
- ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie (Android One
ดูจากสเปคแล้ว ถือว่า Xiaomi Mi A3 มีพัฒนาการเพิ่มขึ้นจาก Mi A2 อยู่มากพอสมควร อย่างหน้าจอที่เปลี่ยนมาใช้เป็นแบบ AMOLED และมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นอยู่ที่ 6.088 นิ้ว แถมติ่งหน้าจอหรือ Notch ก็มีขนาดที่เล็กลงอีก แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะความละเอียดของหน้าจอสมาร์ทโฟนรุ่นนี้แค่ HD+ เท่านั้น หากใครสังเกตดีๆ การตั้งชื่อสีที่วางจำหน่ายของ Xiaomi ก็ถือว่ามีอารมณ์ขันอยู่พอตัวเลย Not Just Blue (ไม่ใช่แค่น้ำเงิน), Kind of Grey (ออกเทาๆ) และ More Than White (มากกว่าสีขาว) ซึ่งดูแล้วเหมือนจะเลียนแบบการตั้งชื่อของ Pixel มาเลย
หลายคนเลยอาจจะเอา Mi A3 นั้นไปเปรียบเทียบกับ Xiaomi CC9e ที่ทางบริษัทเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีสิ่งที่ทำให้ทั้งสองแตกต่างกันก็คือเรื่องของระบบปฏิบัติการ เพราะอย่างที่เกริ่นไปข้างต้น Mi A3 นั้นมาพร้อมกับ Android One ซึ่งถือเป็นระบบปฏิบัติการที่คลีนมากๆ ไม่มีอะไรมาทำให้เครื่องหนักเลย ต่างจาก MIUI ของทางค่ายเอง ไหนจะเรื่องการการันตีการอัพเดทอีกที่ Google ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลสมาร์ทโฟนในโครงการ Android One อย่างดีเป็นเวลา 3 ปี แบ่งเป็น 2 ปีให้อัพข้ามเวอร์ชั่น OS และอีก 3 เป็นการอัพแพทช์รักษาความปลอดภัย
เรื่องของราคาก็ถือว่าเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากๆ โดยรุ่น 64GB จะเคาะราคาที่ 249 ยูโร หรือประมาณ 8,600 บาท สำหรับรุ่น 128GB ก็จะมีราคาที่แพงขึ้นมาหน่อยอยู่ที่ 279 ยูโร หรือประมาณ 9,600 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปบนเว็บไซต์ Mi.com และร้านค้า Mi ในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ต้องขอบอกก่อนเลยว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาที่วางขายกันในฝั่งทวีปยุโรปเท่านั้น ซึ่งหากเข้าไทย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาอาจจะมีการตกลงมา ส่วนจะเข้าไทยเมื่อไหร่ ขอบอกว่ารอลุ้นกันได้เลย
ที่มา: xda-developers
จอลดความละเอียดทำไมหว่า
สเปกนี่ official แล้วเหรอ แอบผิดหวังเล็ก ๆ กับ display และ cpu
รอราคาเหลือ 5000
ไม่กี่เดือนก็ร่วงแล้วราคา ตระกูลนี้คนซื้อน้อย
ติดอยู่ 2 อย่างคือความละเอียดจอแค่ HD กับ CPU ที่ถ้าให้ตัว 710 มาเลยจะดีมากๆ
ผมขอ นอกเรื่องหรือขอคำแนะนำหน่อยครับ อยากสอบถามวิธีแก้ปัญหา BUG ของ Android 9 ที่เกี่ยวข้องที่สุดของโพสนี้ ก็คงจะเป็น Xiaomi Android 9
คือว่า ผมใช้งาน BlackShark ด้วยดีมาตลอด (หาคำแนะนำยากมาก) แต่เดือนนี้ ได้รับอัพเดทเป็น Android 9 แล้วเจอบัคร้ายแรงคือ
เครื่อง Restart เองบ่อยมาก ประมาณ 30นาที/ครั้ง (ใช้งาน App Info ไม่ได้) ลองทำการ FacReset/HardReset หลายรอบแล้วครับ อาการหายไป และกลับมาเป็นอีกในไม่กี่ ชม. ต่อมา หาวิธีแก้มาหลายอย่างแล้ว ก็ไม่หาย เลยอยากถามทิ้งไว้ เผื่อมีเทพแอนดรอย เข้ามาเจอ ^^
**ตอนนี้ผมอยากหาวิธีทำ Android System Repair เพราะจากที่สังเกตุว่าที่เข้า App Info ไม่ได้ เดาว่า System file อาจจะถูก Bug ของ Service บางตัวลบไฟล์ System ออกไป ไม่แน่ใจว่า Android มีระบบ Repair System เหมือนระบบ Windows หรือป่าวที่ใช้คำสั่ง System File Checker (SFC.exe) sfc /scannow
ขอบคุณ ผู้รู้ทุกท่านครับ…
แนะนำว่าหาโหลดรอม Downgrade กลับไปใช้ Android 8 หรือเวอร์ชันเก่าดูครับ ไม่ก็รออัปเดตจากทาง Xiaomi จนกว่าจะแก้ได้ครับ
ขรอราคาเหลือ 5000
ไม่กี่เดือนก็ร่วงแล้วราคา ตระกูลนี้คนซื้อน้อย