เรื่องมันมีอยู่ว่า มีคนรู้จักคนหนึ่งที่ทำ Xiaomi Mi4i ตกน้ำ แล้วจอ Mi4i เปิดไม่ติดเลย แต่ตัวเครื่องยังสามารถใช้งานได้ (ไม่มีภาพ แต่เปิดเครื่องแล้วโทรเข้าได้ มีเสียง Facebook เด้ง) ก็เลยเอามาให้ผมช่วยเปลี่ยนหน้าจอให้

    ผมก็ไม่รู้จะรอช้าอยู่ใย เลยเก็บภาพและขั้นตอนการแกะเครื่องและเปลี่ยนหน้าจอเสร็จสรรพ แล้วก็เอามาเล่าให้ได้อ่านกันเล่นๆ ว่าเจ้า Mi4i มันแกะเปลี่ยนหน้าจอยังไง? ยากมั้ย? เผื่อว่าจะได้เป็นแนวทางสำหรับใครที่เจอปัญหาแบบเดียวกัน แล้วอยากจะลองของแงะเปลี่ยนจอด้วยตัวเองดู แต่ก็อย่าลืมนะครับว่าต้องใช้ความระมัดระวังและความชำนาญด้วย 

 

    เนื่องจาก Mi4i พึ่งวางจำหน่ายได้ไม่นานนัก จึงไม่แปลกเลยที่จะหาอะไหล่จอได้ยากมาก นั่งหาอยู่พักใหญ่ๆ ถึงจะไปเจออยู่ใน Aliexpress (เครือเดียวกับ Alibaba) ซึ่งหายากเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะว่าค้นหาเจอแต่ Xiaomi Mi4 เนื่องจากชื่อคล้ายๆกัน (ไม่บอกร้านที่ขายนะครับ ลองไปหากันเอง) โดยราคาอะไหล่จออยู่ที่ประมาณ 2,600-2,700 บาท (แล้วแต่ร้าน)

    สำหรับของที่ผมสั่ง ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ของก็มาถึงแล้ว (ไม่ไวเกินไปและก็ไม่ช้าเกินไป) มีหน้าตาเหมือนอะไหล่จอทั่วๆ ไปแบบนี้

    ส่วนเครื่องมือในการงัดแงะก็เป็นอุปกรณ์แงะมือถือทั่วไปๆนี่แหละ ซึ่งเค้าแถมมาให้ด้วยกับอะไหล่จอ (แต่ก็มีอยู่แล้วชุดนึงนะ) แต่ว่าไม่ได้แถมเทปกาวสำหรับติดหน้าจอมาให้ (เทปกาวมีชื่อเรียกว่า Double Sided Tape Adhesive Glue Sticker) อันนี้ต้องสั่งแยกเอง 

    สำหรับขั้นตอนการแกะ ผมไม่มีแหล่งอ้างอิงให้ทำตามนะ พอดีหาไม่เจอก็เลยแงะตามยถากรรมไป และคงไม่ต้องบอกเนอะว่าให้ปิดเครื่องก่อนจะเริ่มทำการแกะ…

    ก่อนจะเริ่มแงะ อย่าลืมเอาถาดซิมออกก่อนนะ

    เริ่มจากแงะขอบโดยใช้ปิ๊กกีต้าร์เสียบเข้าไปในร่องด้านข้างขอบจอ ถ้าไม่มีปิ๊กกีต้าร์ก็หาแผ่นพลาสติกแข็งๆบางๆมางัดนะ 

    ค่อยๆงัดขึ้นมาเรื่อยๆใจเย็นๆไม่ค่อยยากนัก แค่ระวังงัดแรงจนไปกดฝาหลังเป็นรอยก็พอ

 เมื่อแงะฝาหลังออกมาก็จะได้แบบนี้

    นั่งขันน็อตช่วงบนของตัวเครื่องออกทีละตัวๆ (ใส่มาเยอะเหมือนกันนะเนี่ย)

    สำหรับฝาปิดจะเป็นสลักล็อคเข้ากับตัวเฟรมเครื่อง ทำให้งัดออกมายากหน่อย เพราะว่าประกอบแทบแนบสนิทเลย จนต้องใช้คัตเตอร์แซะเข้าไปในร่องแล้วงัดขึ้นมาให้สลักหลุด (ออกแรงงัดนิดเดียวมันก็ดีดออกมาแล้ว)

    เปิดออกมาแล้วววววว นี่แหละบอร์ดหลักของตัวเครื่อง Mi4i อุปกรณ์อัดแน่นเต็มไปหมด

    ต่อมาให้ขันน็อตที่ฝาปิดบอร์ดช่วงล่างออกแล้วใช้คัดเตอร์งัดฝาขึ้นมาเหมือนเดิมเลย

    งัดสายไฟที่อยู่ริมด้านข้างตัวเครื่องออกทั้งสองฝั่ง

    งัดจุดต่อขั้วสายแพออกมา โดยบอร์ดฝั่งบนจะมีขั้วต่อสายแพตามภาพ

    ให้แกะสามอันที่อยู่ใกล้ๆแบตเตอรีก่อน

    ดึงแบตออกมา โดยจะเห็นว่ามีแถบพลาสติกใสที่ติดอยู่กับตัวแบตให้ดึง ไม่ต้องกระชาก ใช้แรงนิดหน่อย แต่ช้าๆ เพราะมีกาวติดระหว่างแบตกับตัวเฟรมเครื่อง แต่ไม่ได้เหนียวมากนัก

    แล้วแกะขั้วต่อสายแพบนบอร์ดด้านล่างออกให้หมด โดยสายแพจะมีแค่สองเส้น และเป็นเส้นยาวที่ไปเชื่อมต่อกับบอร์ดฝั่งบน ให้แกะออกมาได้เลย 

    แล้วแกะขั้วต่อบอร์ดฝั่งด้านบนออกให้หมด 

   แกะโมดูลกล้องหน้า

    และจะมีโมดูลลำโพงสำหรับคุยโทรศัพท์ + เซ็นเซอร์วัดแสง + เซ็นเซอร์ปิดหน้าจอเวลาโทรคุย ให้ถอดออกมาเลย

    สำหรับโมดูลกล้องหลังแกะได้แต่ขั้วต่อ ยังเอาโมดูลออกมาไม่ได้ เพราะมันอยู่ใต้บอร์ดอีกที ต้องถอดบอร์ดออกมาก่อนถึงจะเอาโมดูลกล้องหลังออกมาได้

    และจะมีขั้วต่อจออยู่ข้างบนตัวเครื่อง และขั้วต่อปุ่ม Power/Volume อยู่ด้านข้าง ให้ถอดออกเช่นกัน (ถอดออกหมดนั่นแหละ)

    น็อตยึดบอร์ดจะมีอยู่สองตัว ขันออกมาซะ

    เมื่อถอดบอร์ดออกมา โมดูลกล้องหลังก็จะถอดออกมาได้แล้ว

    ช่องเสียบหูฟังที่อยู่บนตัวบอร์ดจะมียางสีดำรองอยู่ข้างล่าง มันถอดได้ เก็บไว้ให้ดี ระวังทำหายนะจ๊ะ

    บอร์ดล่างก็จะมีน็อตแค่ 2 ตัวเช่นกัน ขันออกมาแล้วงัดบอร์ดออกมาได้เลย

    สำหรับบอร์ดล่างจะมียางสีขาวๆรองอยู่ข้างๆช่อง USB เก็บไว้ให้ดีๆล่ะ มันถอดออกมาได้ ระวังทำหายนะ 

    ต่อมาคือขั้นตอนการแงะหน้าจอออกการตัวเฟรมเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เครื่องเป่าลมร้อนเพื่อให้เทปกาวที่ติดไว้ละลาย แล้วค่อยแงะจอออก แต่เนื่องจากอู้งาน นั่งเปลี่ยนจอระหว่างทำงาน และที่ทำงานก็ไม่มีเครื่องเป่าลมร้อน ก็เลยต้องหาอะไรมาประยุกต์ 

    นั่นก็คือ เตารีด!!

    จะเอาเตารีดมาแนบก็ได้นะ แต่แบบนั้นมันธรรมดาไป ผมก็เลยหงายเตารีดขึ้นมาซะ ทำเป็นเตา เพื่อที่จะได้วางเครื่องบนนั้นโดยมีผ้ารองอีกชั้น แต่ทว่าเตารีดวางหงายมันก็ตั้งไม่อยู่ใช่มั้ยล่ะ เพราะงั้นก็เลยเอาฝากล่อง Apple Watch มาทำเป็นร่องวางเตารีดซะ 

    สรุปออกมาเป็นดังนี้

    ในที่สุดผมก็เข้าใจละว่าทำไมกล่อง Apple Watch มันออกแบบมายาวๆ ที่แท้ก็เพื่อการนี้นี่เอง (#ผิด)

    กลับเข้าเรื่องต่อ…สรุปก็คือวางจอแล้วเอาผ้ารองอีกชั้น แล้วใช้เตารีดแนบเพื่อให้มันร้อนก็ได้ครับ ไม่ต้องทำอะไรปัญญาอ่อนแบบภาพข้างบนนะ

    เมื่อจอร้อนได้ที่ (แบบเอาผ้าจับได้ไม่ร้อนลวกมือ) ก็เอาไขควงปากแบนนั่งแซะหน้าจอออกซะ จอมันจะแตกก็ไม่เป็นไรเพราะไม่ได้ใช้แล้ว 

    ถึงขั้นตอนนี้ผู้อ่านอาจจะสงสัยว่าต้องแงะส่วนไหนบ้าง ให้ดูที่อะไหล่หน้าจอเลย มันมีส่วนไหนก็แงะส่วนนั้นออก โดยที่ตัวอะไหล่จอจะมีแผ่นเหมือนอะลูมิเนียม (จริงๆมันคือแผ่นหน้าจอแสดงผล) แล้วก็มีสายแพสองเส้นที่หัวกับท้ายจอ อย่าแงะแต่กระจกออกล่ะ 

    และในระหว่างการแงะหน้าจอออกมา ให้จำตำแหน่งช่องสายแพหน้าจอทั้งสองด้วย ว่าสอดเข้าช่องไหนบ้าง (มีแค่สองเส้น จำไม่ยากหรอก)

    แงะจอออกเสร็จแล้วก็อย่าลืมทำความสะอาดตัวเฟรมเครื่องด้วย เพราะอาจจะมีเศษกาวเศษกระจกติดอยู่ 

    อย่าพึ่งติดเทปกาวเข้ากับหน้าจอนะ ทางที่ดีควรประกอบเครื่องคร่าวๆเพื่อทดสอบหน้าจอก่อนว่าทำงานได้มั้ย เดี๋ยวจอใช้ไม่ได้แล้วนั่งประกอบจนเสร็จจะเสียเวลาจนน้ำตาไหลเอา

    ก็ประกอบบอร์ดบน บอร์ดล่าง แบต และต่อสายจอให้เรียบร้อย จากนั้นลองเปิดขึ้นมาเพื่อดูว่าหน้าจอติดจริงๆใช่มั้ย

    เมื่อทดสอบแล้วจอใช้งานได้ปกติ แตะไปมาได้ก็เริ่มประกอบกลับได้เลย

    ติดเทปกาวบนหน้าจอและตัวเฟรมเครื่องให้เรียบร้อย กดให้แน่นสนิท ระวังไปติดเทปกาวบังอุปกรณ์ตัวอื่นๆในเครื่องนะ โดยเทปกาวจะติดแค่ส่วนหัวและท้ายเป็นหลัก เพราะด้านข้างเครื่องค่อนข้างบาง ติดยาก

    ทำการประกบหน้าจอเข้ากับตัวเครื่องให้เรียบร้อย โดยที่สายแพจะต้องสอดเข้าช่องที่ถูกต้องนะ เพราะเดี๋ยวจะต้องเอาไปเสียบกับบอร์ดอีกที (โดยเฉพาะสายแพฝั่งด้านบนของจอ จะมีการเก็บเข้าช่องพอดีก่อนที่จะวางตัวบอร์ดทับ ซึ่งผมไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ดู)

 

    ขั้นตอนต่อจากนี้จะง่ายละ เพราะว่าเป็นการย้อนขั้นตอนทั้งหมดที่แงะมานั่นเอง อันไหนแงะออกก็ยัดกลับเข้าไปให้เรียบร้อย ให้ดูขั้นตอนย้อนขึ้นไปตามลำดับจนถึงตั้งแต่ตอนแรก อย่าลืมขันน็อตให้เรียบร้อย อย่าลืมใส่แผ่นยางสีขาวและสีดำที่รองตัวบอร์ดด้วย

    ประกอบเสร็จเรียบร้อยก็ภาวนา 3 ครั้งแล้วกดปุ่มเปิดเครื่อง ลุ้นว่ามันจะติดหรือไม่ จากนั้นก็เช็คการทำงานของเครื่องให้เรียบร้อย จอแสดงผลได้ปกติมั้ย ทัชหน้าจอได้ปกติหรือไม่ รวมไปถึงการทำงานอย่างอื่นของตัวเครื่องด้วย ไม่ว่าจะกล้อง ไวไฟ และฮาร์ดแวร์อื่นๆ เพื่อความชัว

    เย้ หน้าจอกลับมาใช้งานได้อีกครั้งแล้ว~~