หากใครยังจำกันได้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากกระแสการตอบรับที่ดีจาก Mi Note เพราะเพียงแค่เปิดจองครั้งแรก Mi Note ก็มียอดจองพุ่งสูงกว่า 2.2 ล้านเครื่อง ทำให้ Xiaomi หมายมั่นปั้นมือว่าปีนี้จะเป็นปีทองของบริษัทอีกปีนึง หลังจากที่ปีที่แล้ว (2014) ทำยอดขายได้สูงถึง 61 ล้านเครื่อง แซงหน้า Samsung และ Apple ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดสมาร์ทโฟนประเทศจีน ทำให้ Xiaomi คาดการณ์ในปีนี้ ตั้งเป้าไว้ว่าจะขายได้สูงถึง 100 ล้านเครื่อง (ข่าวเก่า)

แต่ไปๆ มาๆ กลับไม่เป็นดังเช่นที่ Xiaomi คาด เนื่องจากตลาดสมาร์ทโฟนในจีนถึงจุดอิ่มตัวทำให้ยอดขายตกลง ประกอบกับ Xiaomi ไม่ได้มีการขยายตลาดออกไปในวงกว้าง ซึ่งต่างจากแบรนด์ใหญ่ในจีนอย่าง Huawei, ZTE หรือ Lenovo ที่มีการเปิดขายไปทั่วโลก ไม่เหมือนกับ Xiaomi ที่เปิดขายเพียงแค่ใน จีน บราซิล อินเดีย และในบางประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างในโซนอาเซียน (ยกเว้นไทย) 

ถึงแม้ Xiaomi จะออกมาบอกว่ากำลังเตรียมการซักระยะเพื่อบุกตลาดใหญ่ของโลกอย่างอเมริกา แต่นักวิเคราะห์ก็ยังไม่เชื่อว่า Xiaomi จะสามารถเข้ามาขายในตลาดอเมริกาได้ เพราะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิด้านการออกแบบที่ดันไปคล้ายคลึงกับ Apple จนทำให้ Jony Ive หัวหน้าทางด้านการออกแบบของ Apple ออกมากล่าวผ่านสื่อว่า Xiaomi เป็นโจรขโมยผลงานไปใช้ในสมาร์ทโฟนของตัวเอง

ถึงแม้ในเดือนมีนาคมได้มีการปรับเป้าหมายใหม่ จากเดิมในเดือนมกราคมตั้งเป้าไว้ 100 ล้านเครื่อง ลดลงมาเหลือเพียง 80 ล้านเครื่องเท่านั้น แต่ดูท่าทางในปีนี้น่าจะเป็นการยากที่จะขายได้ถึง 80 ล้านเครื่อง เพราะจนถึงในตอนนี้ Xiaomi ขายได้เพียง 34.7 ล้านเครื่องเท่านั้น ยังห่างจากเป้าถึง 45 ล้านเครื่อง 

ถึงแม้ว่าตลาดสมาร์ทโฟนประเทศจีนทาง Xiaomi ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งอยู่ แต่สถานการณ์ยังน่าวิตกเพราะ Huawei มีแนวโน้มว่าจะแซง Xiaomi ขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งได้ในเร็วๆ นี้ เพราะจากการสำรวจล่าสุด Xiaomi ครองส่วนแบ่งเป็นอันดับหนึ่งในจีนอยู่ที่ 15.8% ขณะที่ Huawei ตามมาในอันดับสองที่ 15.4% ส่วน Apple ที่สาม 12.2% (อ้างอิงจาก techcrunch)

ที่มา ผู้จัดการ