หลังจากปล่อยให้แฟน ๆ รอคอยกันมานานแสนนาน ในที่สุด Xiaomi ก็ปล่อยแท็บเล็ต Xiaomi Pad 5 ออกมาซักที แถมยังเข้ามาขายในบ้านเราแบบทันใจซะด้วย (แต่เสียดายตัว Pro ไม่มาด้วย) ซึ่งหากเทียบสเปค+ฟีเจอร์โดยรวมกับราคาเริ่มต้นแค่ 10,990 บาทแล้ว ส่วนตัวบอกเลยว่าค่อนข้างคุ้มเลยล่ะ เพราะได้ทั้งหน้าจอ 2.5K, สเปคแรงใช้งานสบาย แถมยังมีลำโพงกระหึ่ม ๆ อีกตั้ง 4 ตัว…ส่วนการใช้งานจริงเป็นยังไงบ้าง จะดีตามสเปครึเปล่า เราได้ทดสอบใช้งานจริงให้ดูกันแล้วจ้า
สำหรับ Xiaomi Pad 5 ที่เข้ามาขายในประเทศไทยจะมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น ต่างกันที่ขนาดความจุคือ เริ่มต้นที่ 128GB ราคา 10,990 บาท และรุ่น 256GB ราคา 12,990 บาท โดยอุปกรณ์เสริมทั้งปากกา Xiaomi Smart Pen และคีย์บอร์ด Xiaomi Pad Keyboard จะต้องซื้อแยกเองนะครับ แต่หากใครที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พวกนั้น เฉพาะตัวแท็บเล็ตอย่างเดียวก็สามารถตอบโจทย์ด้านบันเทิงแบบเต็ม ๆ ทั้งเล่นเน็ต เล่นเกมกราฟิก 3D จัด ๆ หรือจะดูหนัง HD ก็ได้สบาย ๆ ไปเลยจ้า…อ้อ และที่หลาย ๆ คนสงสัยกันก็คือแท็บเล็ตรุ่นนี้ไม่รองรับการใช้งาน 4G หรือ 5G นะครับ จะมีเฉพาะ รุ่น Pro ตัวท็อปเท่านั้นที่รับ 5G ด้วย
สเปค XIAOMI PAD 5
- หน้าจอ LCD ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 รีเฟรชเรทเรท 120Hz รองรับปากกา Xiaomi Smart Pen
- CPU : Snapdragon 860
- GPU : Adreno 640
- RAM (LPDDR4x) : 6GB
- ความจุ (UFS 3.1) : 128GB / 256GB
- กล้องหลัง : 13MP
- กล้องหน้า : 8MP
- การเชื่อมต่อ : WiFi Dual-band 802.11a/b/g/n 2×2 MIMO, BT 5.0
- เซนเซอร์ : Ambient Light, Sensor, Acceleration Sensor, Gyroscope, Electronic Compass, Hall Sensor
- ระบบเสียง : ลำโพง 4 ตัว, Dolby Atmos, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ : 8720 mAh รองรับชาร์จไว 33W
- ระบบ Android 11 ครอบด้วย MIUI 12.5
- ขนาด / น้ำหนัก : 254.69 x 166.25 x 6.85 มม. / 511 กรัม
ดีไซน์ตัวเครื่อง
Xiaomi Pad 5 มีขนาดและน้ำหนักที่กำลังดี (ราว ๆ ครึ่งโล) ไม่หนักเกินไป สามารถถือใช้งานได้นาน ๆ แบบไม่เมื่อยนัก และส่วนตัวคิดว่าขนาดนี้แหละ…กำลังใช้งานถนัดเลย (ปกติใช้ Surface Pro 7 เป็นแท็บเล็ต หน้าจอ 12.3 นิ้ว มันใหญ่ไปหน่อย) เฟรมเครื่องทำจากวัสดุเป็นโลหะดูแข็งแรงและพรีเมี่ยม ขอบเครื่องใช้ดีไซน์แบบเหลี่ยม ส่วนฝาหลังเครื่องที่เรารีวิวเป็นสีขาวมุก Pearl White มีผิวสัมผัสแบบด้าน และไม่เป็นรอยนิ้วมือด้วย
โมดูลกล้องหลังบริเวณด้านซ้ายบนจะนูนออกมาเล็กน้อย ถ้าไม่ระวังอาจจะขูดกับพื้นโต๊ะเป็นรอยเอาได้ง่าย ๆ เพราะฉะนั้นแนะนำให้หาเคสมาใส่ด้วยเพื่อความชัวร์และความอุ่นใจ
แท็บเล็ตรุ่นนี้จะเน้นการใช้งานในแนวตั้ง เพราะกล้องเซลฟี่ยังคงวางอยู่ที่ขอบจอด้านบน ไม่ได้อยู่ตรงขอบจอแนวนอนเหมือนแท็บเล็ตใหม่ ๆ จากค่ายอื่น
มีลำโพงทั้งหมด 4 ตัว วางอยู่ที่ขอบเครื่องด้านบน 2 ตัว และด้านล่างอีก 2 ตัว (ถ้าจับเครื่องในแนวตั้ง)
หน้าจอ 2.5K คมชัด รีเฟรชเรท 120Hz
หน้าจอของ Xiaom Pad 5 ใช้พาเนลชนิด IPS LCD ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 ซึ่งแสดงผลภาพออกมาได้แบบสวย ๆ และคมชัดบาดตาบาดใจ แถมยังมีรีเฟรชเรท 120Hz เพิ่มความเนียนตาเวลาไถหน้าจอ นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision เพิ่มความสวยงามให้กับคอนเทนต์ที่รองรับ (YouTube / Netflix)
ส่วนข้อด้อยของหน้าจอประเภท LCD ก็คือเวลามันเล่นหนัง เล่นเกม ที่มีฉากตอนกลางคืน หรือฉากมืด ๆ ภาพบริเวณที่เป็นสีดำจะแสดงผลสีดำแบบไม่ดำสนิทเหมือนกับหน้าจอประเภท OLED หรือ AMOLED แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้แย่เลยนะ
รองรับ Widevine L1 ดูหนัง Netflix ระดับ HD
คนชอบดูหนังจาก Netflix หายห่วงเพราะ Xiaomi Pad 5 รองรับการดูคอนเทนต์ระดับ HD ได้ไม่ปัญหา และยังดูคอนเทนต์ที่รองรับภาพแบบ Dolby Vision อีกด้วยนะ
รองรับ Dolby Vision ใน Netflix
ลำโพง 4 ตัว ระบบเสียง Dolby Atmos
ลำโพงของแท็บเล็ตรุ่นนี้จัดมาให้เต็ม ๆ ถึง 4 ตัว ให้เสียงที่ดังมากกกก เวลาเปิดสุด และเสียงไม่แตกด้วย ส่วนคุณภาพเสียงที่ออกมานับว่าใช้ได้เลยล่ะ ไม่แหลมบาดหู แต่จะมีความทุ้มนิด ๆ เวลาเล่นเกมหรือดูหนังก็แยกมิติซ้าย-ขวาได้ดี
ปากกาสไตลัส Xiaomi Smart Pen
อย่างที่บอกไปแล้วว่าปากกาสไตลัส Xiaomi Smart Pen ไม่ได้มีแถมมาให้ในกล่องนะครับ แต่ต้องซื้อเพิ่มเอาเอง…โดยปากกาดังกล่าวจะต้องเชื่อมกับตัวแท็บเล็ตผ่านระบบบลูทูธซะก่อน ด้วยการเปิดบลูทูธที่ตัวแท็บเล็ตจากนั้นก็เอาปากกามาแปะเข้ากับขอบเครื่องด้านขวา (ดูจากเครื่องแนวตั้ง) ให้ตรงกับแถบชาร์จ ซึ่งการแปะปากกาแบบนี้จะเป็นการชาร์จแบบไร้สายไปด้วยเลย
ตัวปากกามีขนาดและน้ำหนักประมาณปากกาหมึกซึมทั่วไป จับเขียนถนัดมือดี และยังรองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ เหมาะสำหรับการวาดรูปกับแอปที่รองรับ อย่างเช่น Sketchbook จาก Autodesk (มีให้โหลดใช้ฟรีได้ใน Google Play Store) ซึ่งจากการใช้งานก็รู้สึกว่าปากกานี้วาดรูปได้โอเคเลย ตรวจจับแรงกดในการแรเงา, ลากเส้น และระบายสีได้ดี ทดสอบลากเส้นตรงก็อยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มีเส้นขาด หรือเส้นโดดไปมาให้เห็นเลย
ปากกาจะมี 2 ปุ่มให้กด ส่วนมากแอปวาดรูปจะใช้ปุ่มล่างสำหรับเปลี่ยนเป็นยางลบ แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปของ MIUI การกดปุ่มล่างค้างไว้จะเปิดแอป Swift Notes สำหรับจด Memo ต่าง ๆ ส่วนการกดปุ่มด้านบนค้างไว้จะใช้สำหรับแคปหน้าจอส่วนที่ต้องการ แต่น่าเสียดายที่ปากกายังไม่มีฟีเจอร์อื่น ๆ ให้ใช้เลย อย่างพวกเปลี่ยนเพลง หรือใช้กดชัตเตอร์กล้องระยะไกลอะไรแบบนี้ เพราะอุตส่าห์เชื่อมผ่านระบบบลูทูธแล้วทั้งที
ฟีเจอร์แบ่งหน้าจอ
มีอุปกรณ์หน้าจอใหญ่ ๆ ให้ใช้แล้ว ฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือการแบ่งครึ่งหน้าจอเพื่อใช้งาน 2 แอปพร้อมกัน ซึ่งวิธีก็ง่าย ๆ แค่เปิดแอปที่ต้องการแล้วกด Recent Apps จากนั้นกดที่แอปค้างไว้แล้วเลือกไอค่อนแบ่งหน้าจอ จากนั้นเลือกเปิดอีกแอปนึงก็เรียบร้อย
สำหรับการใช้งานในแนวนอน การแบ่งครึ่งจอจะเป็นแบบซ้าย-ขวาปกติ แต่พอใช้แนวตั้งแทนที่จะแบ่งจอบน-ล่าง ดันแบ่งเป็นซ้าย-ขวาเหมือนเดิมซะนี่ หน้าแอปก็เลยยาว ๆ แคบ ๆ ใช้ไม่ถนัดไปเลย…อันนี้ไม่รู้ว่าตั้งใจให้เป็นแบบนี้รึเปล่า หรือว่ายังทำมาไม่ค่อยสมบูรณ์กันแน่
พอใช้แนวตั้งก็ดันแบ่งซ้าย-ขวา เหมือนเดิม
ประสิทธิภาพเครื่อง และการเล่นเกม
แม้ว่าชิป Snapdragon 860 จะไม่ได้เป็นชิประดับเรือธงของปีนี้ แต่มันคือชิปอัปเกรดจากซีรีส์ Snapdragon 855 ซึ่งใช้กับมือถือเรือธงเมื่อปี 2562 (เช่น Black Shark 2, Red Magic 3, Mi 9 ฯลฯ ) ก็มั่นใจได้เลยว่าความแรงในการใช้งานต่าง ๆ ยังคงมีเหลือเฟือ จะเล่นเน็ตเปิดหลาย Tab จะดูคลิป 4K 60fps ทำได้ลื่นปรื๊ด ๆ
ทดสอบเล่นเกมยอดนิยมกราฟิกจัด ๆ ทั้ง PUBG, ROV, MARVEL Future Revolution ปรับกราฟิกสุด ก็ยังเล่นได้แบบพริ้ว ๆ ไม่มีกระตุก รวมถึงเกมกราฟิกระดับเทพอย่าง Genshin Impact ปรับเต็มขั้นก็ยังเล่นสบาย (แต่มีสะอึกบ้าง หากเจอศัตรูมาเป็นฝูง) แต่ถ้าใครจะซื้อมาเล่นเกมพวกนี้…บอกตรง ๆ ว่าไม่แนะนำ เพราะมันเมื่อยมือมาก ๆ เล่น PUBG ไปเกมเดียว ปวดข้อมือเลย
กล้องหน้า – หลัง
กล้องหลังของ Xiaomi Pad 5 มีความละเอียดอยู่ที่ 13MP ซึ่งคุณภาพยังอยู่ในขั้นธรรมดา ๆ แต่อันนี้เข้าใจได้อยู่เพราะมันคือแท็บเล็ต ก็เลยไม่ได้เน้นเรื่องประสิทธิภาพกล้องซักเท่าไหร่ (แต่ก็ไม่ถึงขั้นแย่นะ) ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8MP ก็ใช้ถ่ายเซลฟี่หรือใช้วิดีโอคอลล์ได้ชัดเจนดี
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ขนาด 8720 mAh ของแท็บเล็ตรุ่นนี้ สามารถใช้งานได้ทั้งวันแบบสบาย ๆ พกออกไปนอกบ้าน ต่อ WiFi จาก Hot Spot มือถือเอา รับรองว่าใช้ได้ยาว ๆ ทั้งวัน ส่วนระบบชาร์จรองรับสูงสุดที่ 33W แต่ในกล่องจะให้มาแค่ 22.5W นะครับ ส่วนเวลาในการชาร์จก็ไม่นานมากจาก 3% – 100% ราว ๆ 2 ชั่วโมง (ถ้าใช้ที่ชาร์จ 33W ก็เร็วขึ้นอีกหน่อย)
สรุป
ข้อดี
- หน้าจอคมชัดและสีสวยแถมรองรับ Dolby Vision
- หน้าจอลื่น ๆ ด้วยรีเฟรชเรท 120Hz
- ลำโพง 4 ตัว เสียงดัง และคุณภาพเสียงค่อนข้างดี
- ปากกา Xiaomi Smart Pen ใช้วาดและเขียนได้ดี
- งานประกอบดูพรีเมี่ยม
- สเปคแรงใช้งานปัจจุบันได้สบาย
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาว ๆ ทั้งวัน
- มากับ MIUI 12.5.2 ใช้แล้วยังไม่เจอปัญหาอะไรจุกจิก (ปกติใช้ Mi 10T Pro ที่ใช้ MIUI 12.5.1 ยังเจอบั๊กจาก Messenger และอื่น ๆ อยู่)
- รุ่นเริ่มต้น 6GB / 128GB ราคาไม่แรง
ข้อสังเกต
- หน้าจอ LCD อาจไม่ถูกใจบางคนที่ชอบดูคอนเทนต์ Contrast จัด ๆ
- ไม่มีเซนเซอร์สแกนนิ้วมือ
- ปากกา Xiaomi Smart Pen ต้องซื้อเพิ่ม
- ปากกายังรองรับการใช้งานไม่เยอะ ฟีเจอร์ยังน้อยอยู่
- ฟีเจอร์แบ่งหน้าจอแนวตั้ง เป็นแบบซ้าย-ขวา หน้าต่างแอปเลยแคบๆ สูงๆ
- กล้องคุณภาพธรรมดา
- ไม่รองรับ microSD card
- รุ่น 6GB / 256GB ราคาโดดไปอีก 2,000 บาท
Xiaomi Pad 5 นับว่าเป็นแท็บเล็ตราคาหมื่นต้น ๆ ที่ให้สเปคมาได้น่าสนใจมาก ๆ หากเทียบกับราคาค่าตัวของมัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอความละเอียด 2.5K, รีเฟรชเรท 120Hz ที่รองรับการใช้งานปากกาสไตลัสด้วย, ลำโพง 4 ตัว พร้อมระบบ Dolby Atmos และสเปคที่ใช้งานได้ลื่น ๆ ใครที่อยากได้แท็บเล็ต Android ราคาเป็นมิตรดี ๆ สเปคแรงๆ ตอนนี้มี Xiaomi Pad 5 มาให้เลือกแล้ว
ปากกาถ้าเทียบ iPAD Air เป็นยังไงบ้างครับ reponse การลงน้ำหนัก
อันนี้ต้องขอโทษด้วย เพราะไม่เคยใช้ Apple Pencil เลยครับ (ปกติใช้แต่ของค่าย Surface) แต่ตามความคิดส่วนตัวซึ่งเป็นคนชอบวาดรูป ผมว่ามันใช้ได้ค่อนข้างดีเลย
ขอบคุณมากๆครับ
ใช้กับ clip studio ดีมั้ยครับช่วยลองให้หน่อยครับ
Clip Studio Paint ลองแล้วไม่ประทับใจครับ ไม่รู้เพราะแอปยังไม่ Optimize กับ Xiaomi Smart Pen รึเปล่า เส้นกับปลายปากกาดีเลย์แบบเห็นได้ชัดเลย แถม Palm Rejection กับแอปนี้ยังมีเพี้ยน ๆ บ้าง คือบางทีวาดอยู่เลื่อนมือนิดนึงหน้ากระดาษเลื่อนไปด้วยเลย ส่วนระบบตรวจจับแรงกดใช้ได้ดีครับ
ขอบคุณครับ
ใช้กับแอพอ่านหนังสืออย่าง Kindle เป็นไงบ้างครับ ปรับสี ปรับโทน ลดแสงสีฟ้าได้ไม๊ครับ ขอบคุณครับ
ไม่ได้ลองกับแอป Kindle แต่ใช้อ่านหนังสือที่เป็นไฟล์ PDF ครับ ตามสเปคบอกว่าใช้หน้าจอเป็นแบบแสงฟ้าต่ำ แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันต่างไปจากจอมือถือหรือแท็บเล็ตอื่น ๆ ซักเท่าไหร่ครับ (หรืออาจต้องใช้ระยะยาวถึงจะสังเกตไม่รู้นะ)
Mi Pad 5 มี gps ไหมครับ?