Xiaomi Smart Band 8 สมาร์ทแบนด์สายออกกำลังกาย ที่ครองใจผู้ใช้งานหลาย ๆ คน ทั้งหน้าจอใหญ่ ลื่นไหล โหมดออกกำลังกายที่มีให้เลือกเยอะมากกว่า 150 โหมด แข็งแกร่งทนทานทั้งตัวเรือนที่กันน้ำ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน 16 วัน พร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพแบบครบ ๆ ทั้งตรวจวัดออกซิเจนในเลือด, การนอนหลับ, ความเครียด, อัตราการเต้นหัวใจ ฯลฯ ซึ่งเราได้นำมารีวิวให้ได้ดูกันแบบจัดหนักจัดเต็ม
จอใหญ่ ชัดสะใจ สู้แสงแดดได้
Xiaomi Band 8 มาในดีไซน์รูปทรงวงรีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mi Band โดยเฉพาะ มาพร้อมจอ AMOLED ขนาด 1.62 นิ้ว ใหญ่เต็มตา เห็นรายละเอียดได้ชัดแจ๋วแบบไม่ต้องเพ่ง รีเฟรชเรทลื่น ๆ 60Hz เลื่อนไถหน้าจอได้ลื่นไม่มีสะดุด และความสว่าง 600 นิต สู้แสงแดดได้สบาย ๆ ตัวเรือนมีความเบาบาง ใส่แล้วคล่องตัวดี ไม่เทอะทะ
สีที่เราได้มารีวิวเป็น Graphite Black ตัวเรือนเป็นเมทัลลิค พื้นผิวเรียบลื่น อีกทั้งตัวสายยังออกแบบมาให้ถอดเปลี่ยนง่ายสุด ๆ เพียงแค่ปลดล็อคสายด้วยการกดคลิกเดียวเท่านั้น อีกทั้งรอบนี้ทาง Xiaomi ได้เพิ่มตัวเลือกสายมาให้แบบเยอะมาก ตั้งแต่สายหนังไปยันสายดีไซน์หรู หรือจะนำมาห้อยคอเป็นสร้อยเก๋ ๆ ก็ได้ (แต่ต้องซื้อเพิ่มนะ)
หน้าปัดสไตล์ทันสมัย 200 + รูปแบบ หรือปรับแต่งเองก็ได้
นอกจากจะมีสายนาฬิกาให้เลือกเปลี่ยนมากมายแล้ว Xiaomi Band 8 ยังมีตัวเลือกหน้าปัดให้ใช้ตามใจมากกว่า 200 รูปแบบ เลยทีเดียว สามารถเปลี่ยนได้ตามมูด & โทนในแต่ละวันได้เลย หรือจะปรับแต่งด้วยรูปที่เราถ่ายไว้ หรือเซฟไว้มาใช้ก็ได้ และเลือกใช้งานง่าย ๆ ผ่าน Mi Fitness
ปรับแต่งหน้าจอด้วยรูปของเราเอง
เบื่อ ๆ ก็เล่นเกมผ่านจอได้
ถึงแม้จอจะไม่ใหญ่มากมาย แต่ก็สามารถเล่นเกมได้เด้อ โดยวิธีเล่นเกมเข้าไปให้เข้าไปที่แอป Mi Fitness > Manage band displays > เลือกหมวดหมู่ > เลือก Fresh and Fun > กดเลือกเกม
เมื่อเลือกเกมที่ต้องการเล่นได้แล้ว มือถือก็จะซิงก์ข้อมูลของเกมเพื่อดาวน์โหลด จากนั้นก็เริ่มเล่นได้เลยจ้า โดยฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของตัวเลือกหน้าจอนี่แหละ เพราะถ้าหากเรา Apply ไปแต่ไม่ได้กดเล่น ตัวเกมก็จะขึ้นเป็น Band Displays ธรรมดา
กันน้ำระดับ 5ATM
เรื่องความอึด ความทน ก็นับเป็นจุดแข็งสมาร์ทแบนด์ของ Xiaomi เลยก็ว่าได้ ซึ่งรุ่นนี้เค้าก็มาพร้อมฟีเจอร์กันน้ำเหมือนกันในระดับ 5ATM เทียบเท่าความลึก 50 เมตร ไม่ว่าใช้งานท่ามกลางจะฝนตก, ใส่อาบน้ำ, ใส่ว่ายน้ำ หรือดำน้ำก็ไม่มีปัญหา
โหมดออกกำลังกายจัดเต็ม 150 โหมด
สมาร์ทแบนด์จะแบ่งโหมดออกกำลังกายมาให้เป็นพาร์ท ๆ แบบชัดเจน นอกเหนือจากพวกโหมดออกกำลังกายที่เรามักใช้เป็นประจำ อย่างเช่น วิ่ง, ฟรีสไตล์, กระโดดเชือก, ว่ายน้ำ, หรือปั่นจักรยาน เป็นต้น อีกทั้งพาร์ทการวิ่งยังมีคอร์สวิ่งมาให้ 10 คอร์ส และการตรวจวัดแบบละเอียดตามความเหมาะสมต่อรูปแบบการวิ่งของเราเอง หรือจะเชื่อมต่อกับ GPS เพื่อติดตามระยะการวิ่งได้ด้วย
จากการทดลองใช้งานออกกำลังกาย ได้เลือกเป็นโหมดฟรีสไตล์ และออกกำลังกายเป็นเวลา 20 นาที ตัวแอปก็จะบอกผลมาให้อย่างชัดเจนว่าเผาผลาญแคลลอรีไปเท่าไหร่ ช่วงเวลาที่เราออกกำลังกายแต่ละช่วงอยู่ในระดับไหน และบอกค่าเฉลี่ยอัตราการเต้นของหัวใจ
ฟังก์ชันสุขภาพแบบแน่น ๆ
ตรวจจับการนอนหลับแบบเรียลไทม์
การนอนหลับที่ดีเป็นพื้นฐานของสุขภาพที่ดี ซึ่งฟีเจอร์เกี่ยวกับการนอนหลับของสมาร์ทแบนด์ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วย ที่ทำให้เราได้รู้ตัวเองมากขึ้น โดยตัวแอปจะแสดงข้อมูลการนอนหลับด้านต่างๆ ดังนี้
- ระยะเวลาที่หลับลึก
- ระยะเวลาที่หลับตื้น
- ช่วงที่ตื่นกลางดึก
- ช่วงฝัน (REM)
- ออกซิเจนในเลือด (SpO2)
โดยข้อมูลจะขึ้นเป็นกราฟเวลาที่ดูง่าย ๆ และเจาะดูได้เป็นช่วง ๆ หรือข้อมูลสรุปเป็นระยะเวลามาให้เลย
ติดตามและตรวจวัดสุขภาพอย่างใกล้ชิดตลอดวัน
สามารถตั้งค่าสมาร์ทแบนด์ให้คอยตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ, ความเครียด หรือออกซิเจนในเลือด ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เลย หรือจะปรับให้แจ้งเตือนตามแบบที่เราต้องการได้ เช่น ให้แจ้งเตือนเมื่อออกซิเจนในเลือดลดลงกว่า 85% หรือแจ้งเตือนเมื่อระดับความเครียดพุ่งสูงเกินไป เป็นต้น
ตัวอย่างการวัดการเต้นของหัวใจ
ตัวอย่างการตรวจวัดความเครียด
ตัวอย่างการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
ตรวจวัดสุขภาพสำหรับผู้หญิง
ตัวช่วยสำหรับสาว ๆ ให้สามารถจัดการและรับมือกับวันนั้นของเดือนได้ โดยฟีเจอร์นี้จะบันทึกวันที่มีประจำเดือน, คาดการณ์วันที่ประจำเดือนจะมา, ช่วงตกไข่ และช่วงก่อนวันตกไข่ พร้อมทั้งบันทึกอาการต่าง ๆ อย่างละเอียด ซึ่งมีประโยชน์มาก ๆ เลยเพราะว่า หากเดือนไหนที่สาว ๆ ประจำเดือนมาผิดปกติ ก็จะได้เทียบความต่างเพื่อนำสถิติไปคุยกับแพทย์ได้
ใช้ Xiaomi Smart Band 8 เป็นรีโมทถ่ายรูปได้
หลังจากที่เชื่อมต่อตัวนาฬิกากับมือถือผ่าน Bluetooth นั้น ก็สามารถใช้ฟีเจอร์รีโมทถ่ายรูปได้เลย เพียงแค่ตั้งมือถือไว้ในมุมที่ต้องการ > เลือกไปที่ Camera บนสมาร์ทแบนด์ > กดปุ่มชัตเตอร์
การแจ้งเตือนข้อความและสายเรียกเข้า
สมาร์ทแบนด์สามารถรับข้อความได้เหมือนสมาร์ทวอทช์ทั่ว ๆ ไป ส่วนการรับสายจะยังไม่สามารถทำได้ แต่จะขึ้นแจ้งเตือนสายเรียกเข้าพร้อมทั้งตัวเลือกปฏิเสธรับสายเท่านั้น
การใช้งานทั่วไปด้านอื่น ๆ
ตัวสมาร์ทแบนด์มีฟังก์ชันที่ค่อนข้างครบเลยแหละ นอกจากจะนับจำนวนก้าวในแต่ละวันแล้วนั้น ยังมีให้เลือกดูทั้งสภาพอากาศ, ตั้งนาฬิกาปลุก, จับเวลา, ปิดเสียงมือถือ, ค้นหามือถือ,ใช้งานในรูปแบบไฟฉาย หรือเปิดปิดเพลงก็ทำได้
แบตอึดใช้งานได้นาน
ในรุ่นนี้ได้ให้แบตเตอรี่มาที่ 190mAh ซึ่งทาง Xiaomi ได้เคลมว่าสามารถใช้งานทั่วไปได้ยาวนานถึง 16 วัน ในโหมดทั่วไป และ 6 วัน ในโหมด AOD ชาร์จไวแบตเต็มในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น จากการทดสอบใช้งานแบบทั่วไปหลังจากที่ชาร์จแบตเต็ม 100% พบว่า เมื่อใช้งานตามที่สมาร์ทแบนด์ได้เซ็ตมาให้ในระยะเวลา 2 วัน แบตเตอรี่ลดลงไปเพียงแค่ 21% เท่านั้น เหลือ 79%
จากนั้นจึงได้ปรับการตั้งค่าด้วยการเปิดการตรวจจับต่างๆ ในทุกโหมด ความสว่างหน้าจอเลือกปรับแบบสูงสุด และตั้ง Always On Displays พบว่าแบตเตอรี่ที่จาก 79% จนเหลือเพียง 3% ใช้เวลาทั้งหมดราว ๆ 2 วันค่ะ
สรุปการใช้งาน
Xiaomi Smart Band 8 เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทแบนด์ที่ราคาประหยัด และให้ฟังก์ชันมาแบบครบครันเลย ทั้งด้านสุขภาพ การออกกำลังกาย และการใช้งานทั่วไป อีกทั้งยังไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องแบตเตอรี่ด้วย เพราะว่าแบตค่อนข้างอึดเลยทีเดียว หรือจะนำไปใช้งานอย่างสมบุกสมบันก็ไม่ติด เพราะว่ากันน้ำในระดับ 5ATM ในราคาพันต้น ๆ นี้ถือว่าคุ้มค่าเลยล่ะค่ะ
ข้อดี
- ราคาคุ้มหากเทียบกับสเปค
- น้ำหนักเบา ขนาดเล็ก เน้นคล่องตัว
- จอสู้แสงได้ดี
- กันน้ำ
- ฟีเจอร์หลากหลาย
- แบตอึด
ข้อสังเกต
- ใช้โทรออกไม่ได้
- ถึงแม้จะเล่นเกมได้ แต่ก็ใช้งานตรงจุดนี้ไม่ถนัดเท่าไหร่
- หากต้องการใช้งานในรูปแบบสร้อยคล้องคอ หรือติดที่รองเท้า ต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่ม
ราคาจำหน่าย
Xiaomi Smart Band 8 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Graphite Black และ Gold วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 1,490 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
สำหรับลูกค้าที่ซื้อในระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 31 ตุลาคม 2566 สามารถซื้อได้ในราคาพิเศษเพียง 1,190 บาทเท่านั้น
นับวันยิ่งขนาดใหญ่ขึ้น ไม่น่าใช้เหมือนรุ่นแรกๆ
The man can use it
Or only girl definitely?🙏