Xiaomi จัดงาน Smarter Living 2021 ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งภายในงานก็ได้มีการขนขบวนผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เจ๋ง ๆ มาเปิดตัวมากมาย ตั้งแต่ครื่องใช้ไฟฟ้ไปจนถึงอุปกรณ์สวมใส่ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ อุปกรณ์จำพวกแกดเจ็ตนั่นเอง ได้แก่ Mi Smart Speaker ลำโพงอัจฉริยะเสียงกระหึ่มที่มี Google Assistant ในตัว Mi Smart LED Bulb หลอดไฟอัจฉริยะสำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบ้านเป็นสมาร์ทโฮม และ Mi Automatic Soap Dispenser เครื่องจ่ายสบู่อัตโนมัติก็มีมาเช่นกัน

Mi Smart Speaker

ลำโพงอัจฉริยะ 12 วัตต์ ที่มี Google Assistant ในตัว โดดเด่นทั้งในด้านของคุณภาพเสียงและการใช้งาน ด้วยไดรเวอร์ขนาด 63.5 มิลลิเมตร ผสานกับ amplifier จาก Texas Instruments และการปรับแต่งเสียงโดยผู้เชี่ยวชาญจาก DTS ทาง Xiaomi รับประกันว่า Mi Smart Speaker จะให้เบสที่หนักแน่น เสียงร้องที่คมชัด และไม่มีความผิดเพี้ยนในทุกมิติ

ตะแกรงของ Mi Smart Speaker ทำมาจากโลหะทั้งชิ้น มีความบางเพียง 0.7 มิลลิเมตร มีรูมากถึง 10,531 รู ส่งผ่านเสียงได้ทุกทิศทางรอบตัว 360 องศา แผงควบคุมด้านบนเป็นระบบสัมผัส ประกอบด้วย ปุ่มเล่น/หยุดเพลง ปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มสำหรับปิดการทำงานของไมโครโฟนเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน พร้อมไมโครโฟนอีก 2 ตัว ซึ่งจะเป็นไมโครโฟนระยะไกล สามารถสั่งงานด้วยเสียงข้ามห้องได้เลยโดยไม่ต้องตะโกนให้เจ็บคอ และที่บริเวณขอบจะมีวงแหวน LED รอบตัว ที่แสดงผลได้ถึง 16 ล้านสี เป็นการเพิ่มลูกเล่นและความสวยงามให้กับลำโพงอัจฉริยะตัวนี้

ทางด้านฟีเจอร์การใช้งานของลำโพงอัจฉริยะตัวนี้นั้นหลากหลายมาก ๆ แต่ที่เด็ด ๆ เลยคือ มันสามารถจับคู่ระหว่าง Mi Smart Speaker ด้วยกันเอง 2 ตัว เพื่อใช้งานเป็นลำโพงสเตอริโอได้ หรือถ้าหากมีจำนวนมากกว่านั้นและวางลำโพงอยู่หลายจุดภายในบ้านก็สามารถสั่งงานให้ลำโพงทุกตัวเล่นเพลงพร้อมกันได้ในคราวเดียว

การเชื่อมต่อ Mi Smart Speaker กับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป และพีซี ทำได้โดยผ่าน Wi-Fi หรือหากจำเป็นต้องออฟไลน์จริง ๆ ก็ยังสามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้อยู่ แถมการเชื่อมต่อนั้นง่ายมาก ๆ เพียงแค่พูดใส่ลำโพงว่า “OK Google, Pair Bluetooth” เท่านั้นเอง

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า Mi Smart Speaker เป็นลำโพงที่มี Google Assistant ในตัว มันจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ลำโพงที่เอาไว้สำหรับฟังเพลงเพียงอย่างเดียว เรียกได้ว่า Google Assistant สามารถทำอะไรได้ เจ้าลำโพงตัวนี้ก็สามารถทำได้หมด เช่น ตั้งนาฬิกาปลุก อ่านข่าวให้ฟัง ตรวจสอบสภาพการจราจร ตรวจสอบสภาพอากาศ ไปจนถึงเป็นตัวกลางในการควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่าง ๆ ผ่านคำสั่งเสียงของเราด้วย

ราคาค่าตัวของ Mi Smart Speaker นั้นไม่ได้แพงอย่างที่คิด โดยเปิดราคามาที่ 3,499 รูปี หรือประมาณ 1,500 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป

Mi Smart LED Bulb

หลอดไฟอัจฉริยะที่ให้ความสว่างได้สูงสุดถึง 810 ลูเมน โดยใช้พลังงานเพียงแค่ 8.5 วัตต์ ปรับระดับความสว่างได้ตั้งแต่ 5 – 100% โดย Mi Smart LED Bulb รองรับการสั่งงานผ่านคำสั่งเสียง ทั้งจาก Google Assistant และ Amazon Alexa เช่น สั่งให้หรี่แสง กำหนดเวลาเปิดและปิดการทำงาน เป็นต้น รวมไปถึงสามารถควบคุมผ่านแอป Mi Home ได้ด้วยเช่นกัน

Mi Smart LED Bulb เลือกใช้ขั้วต่อแบบเขี้ยว B22 ซึ่งเป็นรูปแบบมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปในประเทศอินเดีย มีอายุการใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 15,000 ชั่วโมง หากสมมติว่า ใช้งานวันละ 6 ชั่วโมง มันก็จะอยู่ได้นานถึง 6 ปี เลยทีเดียว สำหรับราคาค่าตัวจะอยู่ที่ 499 รูปี ตีเป็นเงินไทยราว 210 บาท วางจำหน่ายแล้วในตอนนี้ที่ประเทศอินเดีย

Mi Automatic Soap Dispenser

เครื่องจ่ายสบู่อัตโนมัติรุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม เสริมความเรียบหรูด้วยผิวสัมผัสแบบด้าน อีกทั้งวัสดุที่ใช้ในการผลิตก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย Mi Automatic Soap Dispenser จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์อินฟราเรดความเร็วสูง มีระยะการทำงานอยู่ที่ระหว่าง 60 – 90 มิลลิลิตร ซึ่ง Xiaomi เคลมว่า สามารถตรวจจับมือและจ่ายสบู่ได้ในเวลาเพียง 0.25 วินาที เป็นเครื่องจ่ายสบู่อัตโนมัติที่ทำงานได้รวดเร็วที่สุดในโลก ยิ่งไปกว่านั้นมอเตอร์เองก็ทำงานได้อย่างเงียบกริบจนแทบไม่มีเสียงเลย

ด้วยกลไกภายในที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันของ Mi Automatic Soap Dispenser ทำให้มันสามารถสร้างโฟมที่มีเนื้อละเอียดและสม่ำเสมอด้วยสัดส่วน 12:1 เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างมือ และนำสบู่เหลวมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดถึง 375 ครั้ง ต่อสบู่เหลว 300 มิลลิลิตร มีระบบป้องกันไม่ให้สบู่หยดในตัว ใช้ถ่านขนาด AA จำนวน 4 ก้อนเป็นแหล่งพลังงาน มีราคาที่ถูกมาก ๆ เพียง 999 รูปี หรือประมาณ 430 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมเป็นต้นไป

นอกเหนือจากที่กล่าวมา Xiaomi ยังได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อีกหลายชิ้น รอติดตามกันที่หน้าเว็บ DroidSans ได้เลยครับ

 

ที่มา : Xiaomi ประเทศอินเดีย