YouTube ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ที่ใช้พลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งาน ค้นหาคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น และ เจาะลึกข้อมูลได้ไวขึ้น โดยล่าสุดได้เปิดตัว AI Search Carousel และขยายการใช้งาน Conversational AI ให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้มากขึ้น

1. ค้นหาเร็วขึ้นด้วย “AI Search Results Carousel”

ฟีเจอร์แรกคือ แถบค้นหาวิดีโออัจฉริยะ (AI Search Results Carousel) ซึ่งออกแบบมาคล้ายกับฟีเจอร์ AI Overviews ของ Google โดยระบบจะใช้ AI วิเคราะห์คำค้นหา แล้วแสดงแถบแนะนำวิดีโอพร้อมคำอธิบายหัวข้อแบบย่อให้แบบอัตโนมัติ

ยกตัวอย่างเช่น หากค้นหาคำว่า “best beaches in Hawaii” ระบบจะแสดงแถบวิดีโอที่รวมคลิปเกี่ยวกับ ชายหาดภูเขาไฟ จุดดำน้ำที่ดีที่สุด พร้อมคำอธิบายสั้น ๆ จาก AI เพื่อให้วางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น

ตอนนี้ฟีเจอร์นี้ เปิดให้ใช้งาน เฉพาะสมาชิก YouTube Premium ในสหรัฐอเมริกา เท่านั้น โดยจะรองรับหมวดหมู่คลิปที่เกี่ยวกับ

  • การช้อปปิ้ง
  • สถานที่ท่องเที่ยว
  • กิจกรรมในพื้นที่ต่าง ๆ

แม้ว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหาสิ่งที่ต้องการได้สะดวกขึ้น แต่ก็มี ข้อกังวลในกลุ่มครีเอเตอร์ บางส่วนว่า หาก AI แสดงข้อมูลครบถ้วนในแถบค้นหา ผู้ชมอาจไม่คลิกเข้าไปชมวิดีโอเต็ม ส่งผลต่อยอดการมีส่วนร่วม (engagement) และรายได้จากการโฆษณาในช่องก็เป็นได้

โดยก่อนหน้านี้ The Wall Street Journal ก็เคยรายงานว่า ฟีเจอร์ AI Overviews ของ Google ทำให้ ทราฟฟิกเว็บไซต์ข่าวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสถานการณ์เดียวกันอาจเกิดขึ้นกับ YouTube creators ได้เช่นกัน

2. ขยายฟีเจอร์ “Conversational AI” ให้กับผู้ใช้งานแบบฟรี

Conversational

YouTube ยังประกาศขยายการทดลองใช้ เครื่องมือสนทนา AI (Conversational AI) ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2023 โดยเริ่มเปิดให้ผู้ใช้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก Premium บางรายในสหรัฐฯ ได้ทดลองใช้แล้ว

ฟีเจอร์นี้มีการทำงาน ดังนี้

  • ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับ AI เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากวิดีโอที่กำลังรับชมได้
  • ขอคำแนะนำวิดีโอที่เกี่ยวข้อง
  • หรือสรุปใจความสำคัญจากวิดีโอการศึกษา
  • ทดสอบความเข้าใจ เช่น การตั้งคำถามแนวข้อสอบ

ตัวอย่างการใช้งาน เช่น
หากเรากำลังดูวิดีโอสอนเต้นโรลเลอร์สเก็ตอยู่ AI ก็จะเสนอ “สรุปวิดีโอให้” หรือ “แนะนำวิดีโอที่คล้ายกัน” นอกจากนี้ ยังสามารถพิมพ์คำถามอย่าง “เพลงในวิดีโอนี้ชื่ออะไร?” แล้ว AI จะตอบชื่อเพลง ศิลปิน และแนวเพลงได้ทันที

เบื้องหลังของระบบนี้คือ โมเดลภาษา (Large Language Models) ที่ YouTube พัฒนาโดยอิงจากข้อมูลทั้งจาก วิดีโอ YouTube และเว็บไซต์ต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยให้ผู้ชมสามารถเจาะลึกหัวข้อ ที่สนใจได้อย่างแม่นยำและทันที

AI บน YouTube จะเปลี่ยนวิธีการค้นหาและส่งผลกระทบยังไง?

แม้จะยังอยู่ในช่วงทดลองและจำกัดกลุ่มผู้ใช้ ฟีเจอร์ AI ทั้งสองนี้แสดงให้เห็นว่า YouTube กำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่เน้น “การเข้าถึงข้อมูลเร็วขึ้น โดยไม่ต้องดูวิดีโอเต็มเสมอไป” ซึ่งอาจ ส่งผลกระทบทั้งในเชิงบวกและลบ ต่อผู้ใช้และครีเอเตอร์

  • สำหรับผู้ใช้งาน : ค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องคลิกหลายวิดีโอ
  • สำหรับครีเอเตอร์ท: อาจต้องปรับกลยุทธ์เพื่อดึงดูดผู้ชมให้คลิกเข้าวิดีโอจริง แม้มีข้อมูลบางส่วนแสดงล่วงหน้า

ที่มา >> https://blog.youtube/, techcrunch