เปรียบเทียบสเปคตระกูล Zenfone 3 ของ Asus พร้อมชูจุดเด่นของแต่ละรุ่น

เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับสมาร์ทโฟนตระกูล Asus Zenfone 3 ที่รอบนี้เรียกได้ว่ายกขโยงกันมาอวดโฉมกันเลยทีเดียว เพราะว่าเปิดตัวรวดเดียวถึง 7 รุ่นด้วยกัน ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ นั้นอาจจะสับสนได้ว่ามันมีรุ่นอะไรบ้าง และแต่ละรุ่นมีจุดเด่นอยู่ที่ตรงไหนบ้าง เราจึงได้ทำการนำฟีเจอร์เด่นๆ ของแต่ละรุ่นมาเรียบเรียงให้ดูกันเลยว่า Zenfone 3 แต่ละรุ่นนั้นมีอะไรเป็นจุดขายบ้าง

ถึงแม้ว่า Asus จะเปิดตัว Zenfone 3 มาถึง 7 รุ่น แต่ว่ามีบางรุ่นที่ใช้ชื่อเดียวกัน โดยเราสามารถที่จะตัดได้เหลือ 5 ชื่อ ดังนี้ Zenfone 3, Zenfone 3 Deluxe, Zenfone 3 Ultra, Zenfone 3 Max และ Zenfone 3 Laser ส่วนสเปคนั้นเราก็ทำตารางออกมาให้ได้ดูกันเลย โดยจะแบ่งเป็น 2 ตารางครับ

ตารางเปรียบเทียบสเปคของ Zenfone 3, Zenfone 3 Deluxe และ Zenfone 3 Ultra

Asus Zenfone 3

เรามาเริ่มที่รุ่นบุกเบิกตระกูลกันก่อนกับ Zenfone 3 โดยครั้งนี้ทาง Asus ได้มีการพัฒนาในเรื่องของวัสดุให้มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น จากเดิมที่เป็นพลาสติกมาเป็น การผสมผสานกันระหว่าง กระจกและโลหะ แทน นอกจากนี้ทาง Asus ก็ยังเคลมว่า Zenfone 3 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับชิป Snapdragon 625 ที่ประหยัดพลังงานกว่า Snapdragon 617 อยู่ 17% และก็ยังพาพร้อมกับตัวสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังเครื่องอีกด้วย โดยมีการแยกเป็นหน้าจอ 2 ขนาด 5.2 และ 5.5 นิ้ว ครับ

Asus Zenfone 3 Deluxe

ตัวท็อปที่จะสเปคมาได้โหดมากๆ และเปิดมาด้วยกัน 2 รุ่น แบบเดียวกับ Zenfone 3 โดยรุ่นแรกนั้นมาพร้อมกับชิป Snapdragon 821 / ROM 256GB ตัวแรกของโลกอีกแล้ว ส่วนอีกรุ่นหนึ่งนั้นใช้ Snapdragon 820 / ROM 64GB และทั้งคู่มาพร้อมกับ RAM 6GB เลยทีเดียว ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะไม่แรง หรือพื้นที่จำเต็มไว ส่วนตัวเครื่องของ Zenfone 3 Deluxe นั้นใช้วัสดุเป็นโลหะแบบ unibody แต่ว่าไม่มีแถบสัญญาณคาดหลังแบบเจ้าอื่นๆ ทำให้ดีไซน์นั้นดูเรียบหรู นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกล้องหลัง 23 ล้านพิกเซล ที่ใช้เทคโนโลยี PixelMaster 3.0 ทำให้สามารถโฟกัสได้อย่างรวดเร็วในทุกสภาพแสง

Asus Zenfone 3 Ultra

รุ่นจอใหญ่ไซส์ยักษ์ ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.8 นิ้ว ที่มีจุดมุ่งหมายในการใช้งานแบบมัลติมีเดียโดยเฉพาะ เพราะว่าหน้าจอนั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยี Tru2Life+ ที่เราเห็นในทีวี 4K (แต่ว่าหน้าจอของ Zenfone 3 Ultra นั้นแค่ Full HD 1080p เท่านั้นนะ) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับลำโพงคู่ที่ใช้ระบบแม่เหล็ก 5 ตัวในการขับเสียง (5-magnet) ทำให้ได้เสียงที่ดังฟังชัด แต่เรื่องเสียงของ Zenfone 3 Ultra นั้นยังไม่หมดแค่นั้น เพราะว่าเจ้า Zenfone 3 Ultra ยังมาพร้อมกับระบบหูฟังเสียงแบบการจำลองเสียงรอบทิศทาง DTS : X Virtual 7.1 ที่ทำให้รู้สึกเหมือนว่าดูหนังอยู่ในโรงหนัง ส่วนกล้องนั้นก็ยังใช้ตัวเดียวกับ Zenfone 3 Deluxe อีกด้วย แต่ว่ารุ่นนี้ใช้ชิปเป็น Snapdragon 652 ที่ต้องบอกว่าแรงไม่แพ้รุ่นเรือธงของปีที่แล้วเลบทีเดียว

ตารางเปรียบเทียบสเปคของ Zenfone 3 Max และ Zenfone 3 Laser

ป.ล. ข้อมูลของ Zenfone 3 Max และ Zenfone 3 Laser ยังต้องการคอนเฟิร์ม 

Asus Zenfone 3 Max

เป็นรุ่นราคาเริ่มต้นของตระกูล Zenfone 3 ในครั้งนี้ โดยเปิดราคามาที่ 5,990 บาท แต่ว่าได้วัสดุที่เป็นโลหะ พร้อมทั้งยังได้ตัวสแกนลายนิ้วมืออีกด้วย รอบนี้จุดเด่นของ Zenfone 3 Max ก็ยังคงเหมือนเดิมตรงที่มีแบตเตอรี่ขนาด 4,100 mAh ที่ไม่ใช่แค่อึดอย่างเดียว แต่ยังสามารถแบ่งปันความอึดให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้อีกด้วย เพราะว่าเจ้า Zenfone 3 Max สามารถแปลงตนเองเป็น Powerbank ได้

Asus Zenfone 3 Laser

รุ่นสุดท้ายที่ถูกเปิดตัวมาก็เป็นอีกหนึ่งภาคต่อจากรุ่นที่แล้ว นั่นก็คือ Zenfone 3 Laser ซึ่งเน้นไปในเรื่องของการถ่ายภาพ แต่ว่าราคานั้นจับต้องได้ โดยการมาพร้อมกับ laser autofocus แบบใหม่ที่สามารถโฟกัสได้เร็วขึ้นและไกลขึ้น ส่วนตัวเครื่องก็ใช้เป็นโลหะเช่นเดียวกัน ทำให้ได้ความรู้สึกที่ดีขึ้นเมื่อถืออยู่ในมือ พร้อมกับยังมีตัวสแกนลายนิ้วมือเสริมมาให้อีกด้วยครับ 

เป็นยังไงกันบ้างครับตระกูล Zenfone 3 ในครั้งนี้ เรียกได้ว่ารอบนี้ Asus มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของวัสดุและดีไซน์อย่างเห็นได้ชัด (ราคาก็เช่นกัน) ส่วนวันเปิดวางจำหน่ายของแต่ละรุ่นนั้นเราคงต้องรอดูกันอีกทีนะครับว่าจะเป็นเมื่อไหร่ แต่คาดว่าคงเริ่มได้เห็นกันภายในเดือนนี้อย่างแน่นอนครับ