หลังจากที่ ZTE ได้ออกมือถือที่มาพร้อมกับกล้องเซลฟี่ฝังใต้หน้าจอรุ่นแรกของโลกไปเมื่อปีที่แล้วอย่าง Axon 20 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่กลับประสบปัญหาด้านคุณภาพของรูปที่ถ่ายออกมาอย่างหนักหน่วง บริษัทฯ จึงกลับไปทำการบ้านมาใหม่ ปรับปรุงทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมใน Axon 30 ซึ่งล่าสุดได้ประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการออกมาแล้ว คือ วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 นี้

ZTE ได้เผยแพร่โปสเตอร์โปรโมต Axon 30 ออกมาแล้ว ทำให้เราได้เห็นดีไซน์ตัวเครื่องเบื้องต้นบางส่วน ด้านหน้ามีแค่จอภาพเรียบ ๆ เต็ม ๆ แผ่น ตามข้อมูลจาก TENAA ระบุว่า มีขนาดอยู่ที่ 6.92 นิ้ว พาเนลที่ใช้เป็นชนิด OLED ความลึกสี 10-bit กล้องเซลฟี่ 16MP จะถูกซ่อนเอาไว้ข้างใต้หน้าจอตามที่กล่าวไปแล้ว เช่นเดียวกับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลดล็อกโทรศัพท์

พลิกมาที่ด้านหลังจะเจอกับกล้องทั้งหมด 4 ตัว กล้องหลักความละเอียด 64MP จะแยกออกมาเป็นเอกเทศที่วงแหวนด้านบน ส่วนอีก 3 ตัวที่เหลืออยู่ถัดลงมาและเกาะกลุ่มด้วยกัน มีความละเอียด 8, 5 และ 2MP ซึ่งน่าจะเป็นกล้องอัลตร้าไวด์ กล้องมาโคร กับกล้องจับความลึก ตามลำดับ แบบเดียวกับใน Axon 30 Pro

ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับชิปประมวลผลหลัก แต่จากข้อมูลที่ระบุว่า มีความเร็วสัญญาณนาฬิกา 3.2GHz ตามเอกสารของ TENAA คงหนีไม่พ้น Snapdragon 870 จาก Qualcomm อย่างไม่ต้องสงสัย โดยจะจับคู่กับ Snapdragon X55 ทำให้มีคุณสมบัติการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ทั้ง sub-6GHz และ mmWave ส่วน RAM สูงสุดที่มีให้เลือก คือ 12GB

สเปค ZTE Axon 30 5G (ไม่เป็นทางการ)

  • จอภาพ : OLED ขนาด 6.92 นิ้ว, ความละเอียด 2460 × 1080 พิกเซล, ความลึกสี 10-bit
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 870
  • หน่วยความจำ : RAM 6 / 8 / 12GB
  • สตอเรจ : ROM 128 / 256 / 512GB
  • กล้องหลัง : 64MP + 8MP + 5MP + 2MP
  • กล้องหน้า : 16MP (ใต้หน้าจอ)
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi, Bluetooth, GPS
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ใต้หน้าจอ)
  • แบตเตอรี่ : 4100mAh
  • ระบบปฏิบัติการ : MyOS 11 บนพื้นฐาน Android 11
  • สี : ขาว, ดำ, ฟ้า, น้ำตาล
  • ขนาด : 170.2 x 77.8 x 7.8 มม.
  • น้ำหนัก 190 กรัม

ZTE ได้เปิดตัว Axon 30 Pro และ Axon 30 Ultra มาตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว แต่ทั้งคู่มาพร้อมกับกล้องเซลฟี่เจาะรูตามปกติ ดังนั้น Axon 30 ที่กำลังจะตามมาในสัปดาห์หน้าจะเป็นมือถือรุ่นที่ 3 ในซีรีส์เดียวกันนี้ อาจแปลกเล็กน้อย เพราะรุ่นน้องเล็กดันเผยโฉมทีหลังสุด ส่วนสาเหตุคงเป็นเพราะ ในตอนนั้นกล้องใต้หน้าจอเจเนอเรชันที่ 2 คงยังไม่พร้อม อาจเป็นในส่วนของฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง

 

ที่มา : ZTE | TENAA