เป็นความฝันอย่างนึงเลยของเหล่าผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน ที่จะสามารถขยายหน้าจอ เพิ่มคีย์บอร์ดให้มันได้เมื่อต้องการ จะได้ไม่ต้องมานั่งหลังขดคอแข็งจ้องหน้าจอเล็กๆ หรือต้องเหนื่อยแบกคอมหนักๆไปมาเพื่อใช้งาน และแล้ววันนี้ก็มีคนประดิษฐ์ของออกมาตอบสนองความต้องการนี้ให้เรียบร้อย นั่นก็คือ The Superbook หน้าจอพร้อมแบต ที่เพียงแค่เสียบสมาร์ทโฟนของเราเข้าไปก็พร้อมใช้งานเป็น Notebook ได้ทันทีครับ
มาดูคลิปสาธิตการใช้งานเจ้า The Superbook กันหน่อยดีกว่า
ไอเดียของคนที่คิดค้น The Superbook ขึ้นมานี้ ก็เกิดจากว่าเค้าเห็นถึงพลังการประมวลผลของสมาร์ทโฟนในสมัยนี้ มันมีความแรงเทียบเท่าได้กับพวก Super Computer เมื่อ 20 ปีที่แล้วเลยด้วยซ้ำ ซึ่งการจำกัดความสามารถให้ใช้งานได้เพียงแค่หน้าจอเล็กๆเท่านั้นก็ดูจะใช้งานได้ไม่เต็มที่ไปหน่อย เค้าจึงผลิตหน้าจอ+คีย์บอร์ด+trackpad+แบตเตอรี่ แต่ว่าไร้ซึ่งหน่วยประมวลผลนี้ขึ้นมา และเพียงแค่เราเอา Android ยี่ห้อไหนก็ได้ที่มีสเปคขั้นต่ำเพียงพอ เสียบเข้ากับ The Superbook เท่านี้มันก็สามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็น Notebook ได้เลยในทันที
สรุปสเปค ความสามารถและสิ่งที่ The Superbook มันทำได้ซะหน่อย
สเปค
11.6″ LCD ที่ความละเอียด 768p
ขนาดเครื่อง 19.3 x 28.7 x 1.8 ซม.)
น้ำหนัก 0.9กก. (แอบหนักนะ)
ช่องเสียบชาร์จไฟ พร้อมหัวชาร์จ
USB Type-C port
สามารถเสียบชาร์จสมาร์ทโฟนได้ทั้งเครื่องที่เป็น Type-C และ microUSB
อายุแบต ใช้งานได้นานกว่า 8 ชม.
ใช้งานไปชาร์จไปได้
คีย์บอร์ดแบบ QWERTY พร้อมปุ่ม Home, Back, Menu, Recent
Multi-touch Trackpad
ความสามารถ
เชื่อมต่อทั้ง WiFi, 3G/4G, Bluetooth ได้ผ่านสมาร์ทโฟนของเรา
เข้าถึงไฟล์และแอพบนมือถือของเราได้ทันที
ใช้งานแบบ Multi-window ได้
สเปคขั้นต่ำของสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้งานได้
Android 5.0+
Dual Core Processor หรือแรงกว่า
1.5GB RAM หรือมากกว่า
มีช่องเสียบ micro USB หรือ USB Type-C
พื้นที่ว่างในเครื่องเหลือไม่น้อยกว่า 100MB
รองรับการเชื่อมต่อแบบ OTG
ถ้าใครจำได้ ทีมนี้เป็นทีมเดียวกับที่ทำ Andromium ที่มา raise fund เมื่อปลายปี 2014 แต่ว่าไม่สามารถทำได้ตามเป้า เพราะว่าตอนนี้เค้าทำผลิตภัณฑ์มาให้ใช้งานยากไปหน่อย ขายเพียงแค่ dock แล้วผู้ใช้ต้องไปหาเมาส์ คีย์บอร์ด จอ ต่อใช้งานเอง โทรศัพท์ก็ต้องรองรับการเชื่อมต่อออกจอแบบ MHL อีกด้วย ผู้ใช้ทั่วไปเลยไม่เล่นด้วยเท่าไหร่ แต่มางานนี้ ทำมาเป็น dummy book มีทุกอย่างให้พร้อม ก็มีคนตอบรับกันอย่างล้นหลาม มีคน back ไปแล้วกว่า 4,000 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ก.ค.) ทะลุเป้าที่วางเอาไว้เพียบเลยทีเดียวครับ
เคยล้มแต่ไม่ยอมแพ้ กลับมาใหม่เจ๋งกว่าเดิม และได้การตอบรับแบบถล่มทลาย
ประโยชน์ที่ทำไมหลายๆคนถึงให้ความสนใจกับเจ้า The Superbook นี้นัก
อัพเกรดสเปคโทรศัพท์ของเรา ก็แทบจะเท่ากับอัพเดท Notebook ไปในตัว
สลับการใช้งาน จากมือถือไปโน๊ตบุ๊คได้เนียนๆ เพราะไฟล์และแอพใช้จากที่เดียวกัน
เพิ่มขีดความสามารถให้สมาร์ทโฟนของเรา ใช้งานได้ productivity สูงขึ้นเพียบ
จะเล่นเว็บ, เกม, พิมพ์งาน, หรือเขียนโค้ด ก็ทำได้สะดวกกว่าพิมพ์ในมือถือ
ใช้งานง่าย แค่โหลดแอพ Andromium จาก Play Store มาแล้วก็เสียบเข้า The Superbook ก็พร้อมใช้งานได้เลย
เอ้า งานนี้ใครสนใจก็เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ Kickstarter เลยนะครับ สนนราคาวันนี้คือต้องจ่าย $99 + $40 (ค่าขนส่ง) คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 5,000 บาท โดยจะได้รับ 1. The Superbook สีทอง – สเปคตามที่ว่าไว้ข้างต้น 2. สาย USB-OTG cord 3. Charging Adapter และรอรับของได้ราวกุมภาพันธ์ปีหน้าเลย
มีแถมมาให้แค่นี้แหละ
เพิ่มเติมหรืออยากแบคลองกดเข้าไปดูได้ที่
ผมพก windows notebook / tablet ดีกั่ว
– จอควร 14"
– มีช่อง Card Reader
– มี USB พอร์ตอยู่รอบเครื่องให้เพียบ อย่างน้อย 4ช่อง
– ไดร์ DVD ไม่ต้องมี
– แบตก้อนใหญ่ความจุเยอะๆ
– บอดี้แบนบาง
วัสดุทำจากอะไรครับ poly / alu พยายามหาใน kickstarter / faq ก้ไม่เจอแฮะ ถ้า alu นี่น่าสนนะ
ปล. ตอนนี้ unlock battery ไป 10 ชม. ละครับ
อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีแล็ปท็อปหรือเดสก์ท็อปใช้ แต่ราคาดูจะแพงไปสำหรับเครื่องที่ทำได้แค่เพียงแสดงภาพและมีคีย์บอร์ดให้เท่านั้น แถมพะรุงพะรัง ไม่สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้
ผมเพิ่งซื้อ asus vivobook e200ha จอ 11.6 นิ้ว (768p)รัน window10 ทำงานเต็มตัวได้ บาง 17.5 ซม. หนัก 0.98 kg. มี usb 3.0 สเปคต่ำแต่ใช้งานลื่นไหลพอได้ ทัชแพดมี gesture แบตเตอรี่อึดเกิน 10 ชม. แถมดันชาร์จไวอีก แบตหมดเกลี้ยงชาร์จไม่เกิน 2 ชมเต็ม ราคาก็แค่ 7,990 บาทเอง แยกใช้งานกันดีกว่าไหมคับ
ป.ล. notebook หนักแค่ 0.9 kg. ผมว่าเบานะ เห็นข้างบนบอกหนัก มันไม่ใช่แท็บเล็ต
ราคาแรงไป เมื่อเทียบกับ Hybrid สมัยใหม่ที่ราคาต่ำหมื่น และใช้ดีมากๆ
ผมเองก็เพิ่งซื้อ Lenovo Miix 310 มาใช้ และชอบมาก
คนใช้พวก Hybrid ยังงัยความต้องการหลักๆคือรัน EXE นะ
ต่อให้แค่เล่นเน็ต ดู youtube ก็เหอะ ดูด้วย web browser แบบ X86
มันสะดวกกว่ากันเยอะ
สรุป ถ้าทำเป็นอุปกรณ์เสียบทีวี น่าจะเวิร์คกว่านะ
ส่วนตัวมองว่า Note book ยังไงงานหลักก็คือ รัน EXE นะครับ ถ้าไม่ได้เรื่องนี้มันก็ไม่ได้ สะดวกในการใช้งาน มากพอที่จะลงทุน ยิ่งถ้าราคา พอๆกับ Notebook ระบบ วินโดร์แล้วด้วย เรียกว่า ราคายังไม่ดูน่าสนใจ
…….
ถ้าพูดถึงจุดขาย ถ้าคิดง่ายๆว่า โน๊ตบุค 3-4ปี ตกรุ่น ต้องอัพ CPU อัพแรม เรื่อยๆ แล้ว การที่ใช้ RAM และ CPU ในมือถือแทนเป็นแนวคิดที่ เจ๋งอยู่นะ เปลี่ยนแค่มือถือ ก็ทำงานได้เร็วขึ้นด้วย
……
มองในอุดมคตินะครับ แนวๆนี้ คิดต่อยอดล่ะก็ ใช้รอม-แรมในมือถือ รัน วินโดร์ได้ หรือรองรับไฟล์EXE แล้ว มีช่องสำหรับเปลี่ยนการ์ดจอแยก เผื่ออัพเกรด เราก็จะได้ โน๊ตบุค CPUแยกส่วนที่ อัพเกรดได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องซื้อใหม่บ่อยๆ ฮ่า แค่คิดก็น่าเก็บตังค์ซื้อแล้ว
………
แต่ ราคานี้ ความสามารถตอนนี้ ยังไม่ต่างจาก แทปเล็ต+คีบอร์ด เท่าไหร่ เพราะงั้นส่วนตัวคิดว่า โน๊ตบุคระบบวินโดร์ ยังตอบโจทย์ได้มากกว่า
แอดครับ ZombieX นี่หลายทีละครับ แขวะแอนดรอยด์ตลอด ทั้งโทรศัพท์ ยี่ห่อทุกยี่ห่อ แขวะไปหมด มันหลายทีละ และครั้งนี้ หนักเกินเยียวยา อย่าคิดว่าแปลไม่ออกนะ การใช้ภาษาต่างๆ สมควรกำจัดได้สักทีนะครับ