หลังจากเปิดตัวเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ตอนนี้ทาง LG เริ่มทยอยส่งเครื่องให้บรรดาชาว blogger ต่างประเทศได้รีวิวกันแล้ว หลายๆ เว็บเริ่มปล่อยพรีวิวสั้นๆ ออกมาให้ชมกัน เราจะมาดูกันว่าหน้าจอที่กว้างถึง 5.2 นิ้วและการย้ายปุ่มไว้ด้านหลังทั้งหมดจะมีผลต่อการใช้งานไหม
รูปลักษณ์และขนาดของตัวเครื่อง
เป็นเรือธงรุ่นแรกของ LG ที่ไม่มีปุ่ม (home, setting, back) ทางกายภาพ (physical) แล้ว ทุกปุ่มย้ายเข้าไปอยู่บนหน้าจอทั้งหมด
ถึงแม้ว่าหน้าจอของ G2 จะมีขนาดใหญ่ถึง 5.2 นิ้ว แต่ตัวเครื่องกลับไม่ได้ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับ Nexus 4 ที่มีหน้าจอกว้าง 4.7 นิ้ว เป็นเพราะการย้ายปุ่ม power, volume locker ไว้ข้างหลังหมดทำให้ขอบจอบางลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ขนาดไม่ต่างจากมือถือเรือธงค่ายอื่นที่มีหน้าจอขนาด 5 นิ้วเหมือนกัน
Nexus 4 | LG G2 | Galaxy S4 | Xperia Z | |
หน้าจอ | ||||
ความยาว | ||||
ความกว้าง | ||||
ความหนา |
ในส่วนของปุ่ม power และ volume locker ที่ถูกย้ายไปด้านหลัง หลายๆ คนคงคิดว่าการปลดล็อคหน้าจออาจจะยุ่งยาก เพราะต้องยกเครื่องขึ้นมาเพื่อกดปุ่ม power ที่ด้านหลัง แต่ฟีเจอร์ knock knock ทำให้การปลดล็อคเป็นไปได้ง่ายขึ้นด้วยการแตะหน้าจอสองครั้งติดต่อกันเพื่อเปิดและปิดหน้าจอ
ดูเหมือนว่าฟีเจอร์ knock knock นั้นฉลาดพอสมควร ในหน้าจอปกติถ้าต้องการดับหน้าจอจะต้องแตะหน้าจอสองครั้งที่แถบแจ้งเตือนเท่านั้นหน้าจอถึงจะดับ ที่เป็นเช่นนี้เพื่อเป็นการป้องกันการเผลอกดหน้าจอสองครั้งติดกันโดยไม่ตั้งใจ
กล้อง
นอกจาก LG G2 จะเป็น Android รุ่นแรกที่มีระบบ OIS กันการสั่นไหวในขณะถ่ายภาพแล้ว ยังรองรับการโฟกัสแบบหลายจุด (multi-point auto-focus) เหมือนที่กล้องรุ่นใหญ่อย่าง DSLR ทำได้ด้วย (น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่มีระบบนี้)
UI/UX และ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
มีการปรับปรุง UI ให้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองและดูแตกต่างจากคู่แข่งสัญชาติเดียวกันมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นสามารถปรับแต่ง navigation bar (front touch buttons) ได้ด้วย
Slide Aside เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจ Slide Aside เป็นการใช้สามนิ้วปาดหน้าจอพร้อมๆ กันเพื่อสลับ app คล้ายๆ กับปุ่ม recent app แต่ Slide Aside ทำให้การสลับ app ที่เปิดค้างไว้ดูลื่นไหลกว่า (การเข้า recent app บน G2 นั้นค่อนข้างยุ่งยากต้องกดปุ่ม home ค้างไว้)
และนี่เป็นพรีวิวคร่าวๆ ที่สรุปเรื่องที่น่าสนใจของ LG G2 ส่วนใครขี้เกียจอ่านเนื้อหาด้านบน สามารถดูวิดีโอพรีวิวตามด้านล่างนี้ได้
ที่มา Android Central
HTC One มีOISบนแอนดรอยด์มาก่อนแล้วจ้า แต่เค้านับตามความละเอียดของกล้องเอาน่ะ G2มันก็เลยเป้นรุ่นแรกที่มีเหมือนกัน
HTC One มีOISในกล้องความละเอียด 4mpเป็นเจ้าแรก
Nokia Lumia920 มีOISในกล้องความละเอียด 8.7mpเป็นเจ้าแรก
LG G2 มีOISในกล้องความละเอียด 13mpเป็นเจ้าแรก
ป.ล.เกือบเขียนบทความซ้ำซ๊ะแล้วสิ่ เพราะเราก็เข้าไปดูพรีวิวย่อมๆอันนี้มาเหมือนกัน แต่ว่าไม่มีเวลาจะเขียนบทความอ่ะ55555
เจ้าของกระทู้คงหมายถึงโฟกัสหลายจุดครับที่เป็นเจ้าแรกของแอนดรอย
รอรีวิวเรื่องเสียงล่ะครับ เห็นว่ารองรับ 24/192 ด้วย
แต่เห็นว่าเพิ่มเมมไม่ได้ใช่มั้ยครับ แบบนี้ถ้าเอาไฟล์ 24/192 มาลงจะไหวเหรอ 555+
งงกับเค้าจริง ๆ
โมเดล F320ของเกาหลี เพิ่มเมมได้อ่ะ
LG G2 จะเป็น Android รุ่นแรกที่มีระบบ OIS กันการสั่นไหวในขณะถ่ายภาพแล้ว ""ยังรองรับการโฟกัสแบบหลายจุด (multi-point auto-focus)"" เหมือนที่กล้องรุ่นใหญ่อย่าง DSLR ทำได้ด้วย (น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่มีระบบนี้) ผมว่าน่าจะหมายถึงมีทั้ง OIS และ Multi-Point Auto Fucus ไม่ใช่หรอครับ HTC One รองรับ Auto Focus หลายจุดหรอครับ?
knock knock นี่คงจะทำงานคล้าย แอพpgm
แบบนี้ถ้าเอาใส่เป๋าเกง จะเปิดหน้าจอเองมั๊ยเนี๊ย
+1
ไอ้ฟังก์ชัน double tap แล้วจอติด ไม่ใช่ของใหม่ มีมาตั้งแต่ Nokia N9
และทำให้มันพกในกระเป๋ากางเกง-กระเป๋าเสื้อไม่ได้ เพราะเครื่องจะแอคติเวท
ติดๆดับๆตลอดเวลา
สรุปถ้าไม่มีฟังก์ชั่นนี้ ซะยังจะดูน่าใช้กว่าเลย
HTC One พวกเคอร์เนลโมก็มีครับ ใส่ในกระเป๋ากางเกงก็ไม่ติดเองด้วยนะ
ที่ G2 มันต้องมีฟังก์ชั่นนี้เพราะปุ่ม Power มันอยู่หลังเครื่องแหละครับ จะได้ไม่ต้องยกมากดเปิดทุกครั้ง
พวกโนเกียลูเมียพอใส่กระเป๋าจะตัดการทำงานของจอครับ พวกนาฬิกาหน้าจออะไรแบบนี้จะโดนปิดไปด้วย
เครื่องนี้ผมก็ว่าน่าจะใช้ระบบเดียวกัน
จากวิดีโอ มันปิดได้นะครับ ฟังก์ชั่นนี้
ขอบคุณทุกท่านครับ
ชอบ knock knock
เซงกับปุ่ม power ของ nexus4 มาก
Knock Knock เจ๋งนะ จัดการเรื่องใส่กระเป๋ากางเกงดีๆ นี่แหล่มเลย
ชอบ knock knock กับ on screen botton ที่ปรับเปลี่ยนเองได้
ผมใช้สามนิ้วปาดเปลี่ยน recent app มานานแล้วครับ ด้วยแอพ GMD GestureControl root ครับ http://goo.gl/MU4ZT