หนึ่งในสมาร์ทโฟนสุดคุ้มที่มาแรงและตีตลาดช่วงปลายปีซะหลายๆ ค่ายน่วมไปตามๆ กันคงหนีไม่พ้น AIS LAVA ทั้งๆ ที่รุ่นแรกนั้นมีปัญหาเยอะแยะต้องส่งซ่อมส่งเคลมกันเละเทะ แต่พอมารุ่นที่ 2 กลับทำผลงานได้ดีขึ้นจนหลายๆ คนลืมความห่วยของรุ่นแรกไป และมาถึงรุ่นที่ 3 AIS LAVA Pro 4.5 ที่ว่ากันว่ามันคุ้มค่าเกินราคา 3,590 บาทมากมายจนมีข่าวว่าขาดตลาดหาซื้อไม่ได้ไปพักหนึ่งเลยทีเดียว

วันนี้ได้โอกาสไปสอยเครื่องมาพรีวิวแกะกล่องให้ดูกันก่อน เผื่อใครที่สนใจอยากจะรู้ว่าในราคา 3,590 บาทนั้น เราจะได้อะไรจาก AIS LAVA Pro 4.5 (iris 708) ตัวนี้บ้าง

ปกติมือถือที่พ่วงมากะแบรนด์แบบ OEM นั้นเรามักจะพบว่าสเปคมันจะกากๆ ตามราคาถูกๆ แต่ไม่ใช่กับ AIS LAVA Pro ตัวนี้แน่นอน เพราะมันมาพร้อมกับ 

สเปค AIS LAVA Pro 4.5 (iris 708)

 

  • Android 4.4 KitKat
  • หน้าจอ 4.5 นิ้ว ความละเอียด qHD 960×540 พิกเซล
  • ชิพประมวลผล MediaTek MT6572 1.3 GHz dual-core MT6582 1.3GHz quad-core
  • ROM 8 GB
  • RAM 1 GB
  • รองรับ microSD สูงสุด 32 GB
  • กล้องหลังความละเอียด 8MP autofocus + แฟลช LED
  • กล้องหน้าความละเอียด 5MP 
  • แบตเตอรี่ 2,000 มิลลิแอมป์
  • รองรับการใช้งาน 2 ซิม (1 mini SIM + 1 micro SIM)
  • ราคา 3,590 บาท

 

นอกจากน้้นแล้ว AIS LAVA Pro 4.5 ยังมาพร้อมกับโปรโมชั่นโทรฟรีพร้อมเน็ตนาน 10 เดือน ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ผมขอข้ามไปก่อน เท่าที่รู้เบื้องต้นคือจะเป็นการแบ่งค่าโทรและค่าเน็ตเป็นโบนัสในแต่ละเดือน เดือนละนิดเดือนละหน่อยไปจนครบ 10 เดือนครับ

 

มาโฟกัสต่อกันที่ AIS LAVA Pro 4.5 ดีกว่า ภายในกล่องนั้นก็ใส่ของมาให้ครบ ตัวเครื่อง, แบตเตอรี่, สายชาร์จ, หม้อแปลง, หูฟัง 3.5, เคสซิลิโคน และฟิล์มกันรอย 

หูฟัง 3.5 ที่แถมมานั้นไม่ธรรมดา เพราะมาเป็นแบบ in-ear ซะด้วย คือดูดีเลย (แต่ยังไม่ได้ลองฟังว่าเสียงเป็นยังไงนะ) 

ขนาดตัวเครื่องกำลังดีคือไม่เล็กไม่ใหญ่ หน้าจอ 4.5 นิ้วกำลังพอเหมาะ สีสันของจอค่อนข้างสดมาก ตัวเครื่องเป็นพลาสติกทั้งดุ้นครับ ที่เห็นเงินๆ เงาๆ นั่นเคลือบสีเอาทั้งนั้น เคาะลงไปนี่ดังตึ้บๆ พลาสติกชัดๆ น้ำหนัก 129 กรัมนี่ถือว่าไม่หนักไม่เบา (จริงๆ แล้วตัวเครื่องเบามาก ใส่แบตเข้าไปนี่หนักเลย) รุ่นนี้มาพร้อมกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลสำหรับเซลฟี่ชัดๆ

ด้านหลังตัวเครื่องเป้นสีทองอ่อน ชิ้นฝาหลังทำจากพลาสติกเคลือบเงาวิ้งเหมือนด้านหน้า กล้องหลังความละเอียด 8MP มีระบบ Auto-focus และไฟ LED หนึ่งดวง

ชิ้นฝาหลังที่เป็นพลาสติกนั้นอ่อนมากๆ คือจับแล้วรู้สึกว่ามันบ๊าง บาง แถมยังอ่อนยังกะซิลิโคน ข้อดีคือมันแกะออกมาจากตัวเครื่องง่ายมาก แต่ในอีกความรู้สึกนึงคือมันดูเหมือนของถูกเกินไปหน่อย :p พอแกะฝาหลังออกมาเอาแบต 2,000 มิลลิแอมป์ใส่เข้าไป ช่องใส่ซิมทั้ง 2 ช่องนั้นแบ่งเป็น 1 mini SIM และ 1 micro SIM กั้นกลางด้วยช่อง microSD

เปิดเครื่องมาแล้วความเปลี่ยนแปลงอย่างแรกที่เห็นคือ AIS LAVA Pro 4.5 นั้นไม่ได้เป็น Android 4.4.2 เพียวๆ จาก MTK แล้ว แต่มาพร้อมกับ Star OS เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในหน้า Home, Setting และโหมดกล้องจากรุ่นราคาประหยัดอื่นๆ พอสมควร 

ซึ่งความเปลี่นแปลงถัดมาคือมันมีฟังก์ชั่น Black screen gesture มาให้ด้วย คือจากหน้าจอดำสามารถวาดนิ้วไปมาเพื่อใส่คำสั่งได้ ตอนแรกนึกส่าจะมีพวก double tap to wake หรือเคาะสองทีแล้วจอติดด้วย แต่ปรากกว่าไม่มี แต่ก็สามารถมาใช้ส่วนของ Black screen gesture ได้ครับ อาจจะกำหนดให้ลากนิ้วขึ้นตรงๆ เป็นการเปิดหน้าจอเครื่องก็ได้ ไม่ต้องไปกดปุ่ม เปิด/ปิด ด้านข้าง

หน่วยความจำ 8GB ถูกแบ่งออกเป็น Phone storage และ Internal Storage 2 ส่วน โดยของ Phone เหลือประมาณ 4GB ส่วนของ Internal เหลือ 2GB

การที่ AIS LAVA Pro 4.5 เปลี่ยนมาใช้ Star OS ทำให้เราได้เห้น UI กล้องแบบใหม่ ที่ดูดีขึ้นและก็ใช้งานง่ายขึ้น มีฟังก์ชั่นในการถ่ายภาพมาให้มากขึ้นด้วย

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า AIS LAVA Pro 4.5

 

ภาพแรกไม่ได้เปิด Beauty Mode นะครับ ส่วนภาพที่สองเปิด Beauty Mode ตั้งค่าไว้ที่ระดับกลาง ไถเอาซะหน้าเนียนเลย ตัวกล้องหน้าถือว่าโอเค เก็บแสงและความสว่างได้ดีพอสมควร

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง AIS LAVA Pro 4.5

กล้องของ AIS LAVA Pro 4.5 ถือว่าสอบผ่านเวลามีแสงสว่างพอ คือกลางแดดนี่สีมาครบ อาจมีสีเพี้ยนนิดหน่อย แต่รายละเอียดค่อนข้างดี ถ้าเทียบกับมือถือค่ายอื่นๆ ในราคาใกล้เคียง ผมว่ากล้องหลังทำได้ดีกว่าหลายๆ ค่าย แต่ก็มาตกม้าตายตอนเวลาแสงน้อย ชัดเตอร์ช้าสุดๆ ภาพสั่นง่ายมาก

บอกตามตรงว่าเพิ่งลองเล่น AIS LAVA Pro 4.5 มาได้ 2 วัน เท่าที่ใช้มาจนถึงตอนนี้ยังไม่ถือว่าโอเค แต่ก็เจออาการทัชเพี้ยนในบางครั้ง และตัว Deafule Launcher ของ Star OS ที่มันหนืดและหน่วงไปหน่อย เอาไว้ผมจะลองปรับแต่งเปลี่ยน Home เปลี่ยนอะไรนิดหน่อย ดูว่ามันจะดีขึ้นไหม แล้วเจอกันในรีวิวอีกทีครับ