การเปิดตัวของ LG G4 เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น ถือว่าเป็นงานเปิดตัวเรือธงรุ่นใหม่ของทาง LG ที่จัดงานได้เล็กกว่ารุ่นก่อนๆ ที่ผ่านมา แต่สิ่งที่เฉิดฉายจนกลบงานเล็กๆ นี้ได้ก็คือ เทคโนโลยี วัสดุ และฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ทำให้หลายคนสนใจอยากจะลอง อยากจะสัมผัส ซึ่งกระแสตอบรับของเว็บมือถือในต่างประเทศนั้นก็ออกมาในทางเดียวกันว่า LG G4 เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นในหลายๆ ด้าน ทั้งเรื่องการถ่ายภาพ ดีไซน์และวัสดุ วันนี้เราเลยจะมารีวิว LG G4 หลังจากใช้งานมาแล้วหนึ่งเดือนเต็ม (กว่าจะรีวิว) ดูสิว่ามันจะน่าประทับใจตรงไหน แจ่มเหมือนที่สื่อต่างประเทศร่ำลือหรือไม่

ก่อนหน้านี้ ทาง droidsans ได้ทำการแกะกล่อง LG G4 ไปแล้วรอบนึง แต่ว่าเครื่องนั้นเป็นโมเดลของเกาหลี ซึ่งจะแตกต่างจากของไทยเล็กน้อย แต่ว่าอุปกรณ์ภายในกล่องนั้นเหมือนกันหมด ยกเว้นแบตเตอรี่และแท่นชาร์จ ที่บ้านเรานั้นได้เฉพาะกับคนที่จองในงาน Thailand Mobile Expo 300 คนแรกเท่านั้น(รอนานมากกว่าจะได้) ถ้าใครอยากรู้ว่าข้างในกล่องมีอะไรบ้าง หรืออยากรู้ว่าเจ้า G4 มีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจ ก็สามารถอ่านได้จากลิ้งค์ด้านล่างเลยครับ

Unbox : แกะกล่อง LG G4

14 ฟีเจอร์เบสิคๆแต่ประโยชน์เพียบของ LG G4 ที่หลายๆคนมองข้าม

 

Spec (เครื่องไทยรหัส LG-H818P เป็นรุ่น dual SIM)

  • OS: Android 5.1 Lollipop พร้อม LG UX 4.0

  • หน้าจอ: IPS LCD Quantum Display ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Quad HD 2560×1440 พิกเซล (543ppi)

  • CPU: Qualcomm Snapdragon 808 Hexa-core 64-bit (2xCortex A57 + 4xCortex A53)

  • GPU: Adreno 418

  • RAM: 3GB (เหลือใช้งานราวๆ 1.4GB)

  • ROM: 32GB (เหลือใช้งานราวๆ 19GB) รองรับ microSD สูงสุด 2TB

  • กล้องหลัง: 16MP Sony Exmor IMX234

    • เซนเซอร์ 1/2.6″

    • รูรับแสง f/1.8

    • Laser focus

    • ระบบกันสั่น OIS ชนิด 3 แกน

  • กล้องหน้า: 8MP (แต่ยังไม่ใช้เลนส์ไวด์ ภาพเลยค่อนข้างแคบ)

  • แบตเตอรี่: 3000mAh ถอดเปลี่ยนได้ ( รองรับ Qualcomm Quick Charge 2.0 )

  • การเชื่อมต่อ

    • NFC

    • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac

    • Bluetooth 4.1

    • A-GPS

    • 4G LTE

  • สัดส่วน: 148.9 x 76.1 x 6.3-9.8 มิลลิเมตร

  • น้ำหนัก: 155 กรัม

 

Design

เมื่อมองจากด้านหน้าของ LG G4 ก็จะเจอกับหน้าจอขนาด 5.5นิ้ว แบบ QuadHD ที่ใช้เทคโนโลยี Quantum display ทำให้ได้สีสันที่มันสดขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ว่าก็ยังไม่สดเท่ากับจอ SuperAMOLED ของ Samsung อยู่ดี แต่ก็ถือว่าดูดีที่สุดในฝั่ง LCD ในตอนนี้

หน้าจอ Slim Arc ที่เว้านิดๆ ทำมาให้รองรับกับใบหน้าของเรา แต่ถ้าไม่สังเกตจริงๆก็คงมองไม่ออกเท่าไร เวลาใส่ในกระเป๋ากางเกงก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันป่องจนน่าเกลียดเกินไป

กล้องหน้าความละเอียด 8MP นั้นอยู่ระหว่างเซนเซอร์วัดแสงกับไฟแจ้งเตือน LED ถัดมาด้านขวาจะเป็นลำโพงสนทนา

ถ้าเลยขึ้นไปขอบเครื่องด้านบนจะเจอกับไมค์ตัวที่สอง และอินฟราเรดรีโมทหรือ IR Blaster ประจำการอยู่ตรงนั้น

ส่วนด้านล่างเป็นรูไมโครโฟนสำหรับสนทนา ช่อง micro USB 2.0 และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.

ปุ่มของ LG G4 ก็ยังคงยึดเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามสไตล์ LG เอาไว้ ซึ่งวางปุ่มทั้งหมดไว้ด้านหลังของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม power / ปุ่มเพิ่มลดเสียง หากมองเหนือปุ่มขึ้นมาก็จะเจอกลับกล้องหลังความละเอียด 16MP อยู่ตรงกลางระหว่างเลเซอร์โฟกัส กับ dual LED 2 สี

ฝาหลังของ LG G4 นั้นมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ พลาสติก หรือ หนัง ซึ่งรุ่นที่ผมเลือกมาเป็นฝาหนังสีดำ ผิวจะไม่เรียบเหมือนกับสีน้ำตาลหรือสีแดง เวลาสัมผัสจะรู้สึกขรุขระนิดๆ แต่ก็นุ่มมือดี

ส่วนหนังที่ใช้เป็นหนังแท้ ซึ่งทาง LG เคยเคลมไว้ว่าใช้เวลา 12 สัปดาห์ในการผลิตเลยทีเดียว เรื่องการเกิดริ้วรอยขูดขีดก็เป็นไปได้อยู่แล้วครับ และเครื่องของผมก็เป็นรอยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว T-T แต่ยังดีที่มันสามารถเปลี่ยนฝาหลังได้

การแกะฝาหลังออกนั้นจะมีอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือด้านล่างตัวเครื่องติดกับช่อง micro USB และด้านข้างถัดจากลำโพงไปนิดหน่อย ด้านในของฝาหลังก็จะมีแผง NFC ติดอยู่

เปิดฝาหลังมาก็จะเจอกับช่องใส่แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh ช่องใส่ซิม 2 ช่องแยกกัน ส่วนช่องใส่ microSD นั้นอยู่ทับช่องใส่ซิม 1 อีกที

 

Benchmark – การทดสอบประสิทธิภาพ

แน่นอนว่ารีวิวสมาร์ทโฟนเรือธงก็ต้องทดสอบ benchmark โดยการทดสอบ benchmark ครั้งนี้ก็จะใช้ 3 แอพดัง Antutu, Geekbench และ 3DMark คะแนนที่ได้ก็จะประมาณนี้ครับ

คะแนนจาก Antutu 

 คะแนนจาก Geekbench

 

คะแนนจาก 3DMark

ถ้าดูจากคะแนนแล้วก็จะเห็นว่าไม่ได้สูงเวอร์อะไรมากมาย แต่เปรียบเทียบแล้วก็ใกล้เคียงกับของ Galaxy Note 4 แต่ก็ยังห่างกับ Galaxy S6/S6 edge อยู่ดี แต่เอาจริงๆแล้วก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไรเวลาใช้งานจริง

ปล. คะแนนเหล่านี้เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้นนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ

 

Usage – การใช้งานทั่วไป

LG G4 เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกและตัวเดียวตอนนี้ที่อินดี้ใช้ชิพ Snapdragon 808 โดยทาง LG ได้บอกเหตุผลที่ใช้ Snapdragon 808 แทนที่จะเป็น Snapdragon 810 นั้นก็เพราะเรื่องของความร้อนที่สูงเกินไป ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานนั้นลดลง

หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานมาในทุกรูปแบบแล้ว ก็รู้สึกว่าเจ้า LG G4 นั้นลื่นไหล ใช้งานได้ดี ไม่ร้อนจนเกินไป แถมยังมี RAM 3GB คอยหนุนหลังอยู่ทำให้เปิดแอพ เปลี่ยนแอพได้เร็ว แต่ก็ยังมีการปิดแอพให้เห็นบ้าง ส่วนเวลาเล่นเกมในบางเกมจะแอบเห็นว่ามีอาการกระตุกอยู่เล็กน้อย ซึ่งเอาจริงๆ แล้วพลังของ Snapdragon 808 ก็น่าจะเพียงพอต่อการเล่นเกมเทพๆ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตัวเกมยังเขียนมาไม่ดี หรือเพราะตัว OS และจอ Quad HD ที่ความละเอียดสูงกันแน่

 

การใช้งานกล้อง

การถ่ายภาพกับ LG G4 นั้นเรียกได้ว่าง่ายมาก ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการตั้งกล้องนาน เพราะว่ามีตัวเลเซอร์โฟกัสที่ช่วยวัดระยะของภาพทำให้การโฟกัสทำได้เร็วขึ้น และมีระบบ OIS กันสั่นถึง 3 แกน x,y,z ทำให้ภาพที่ได้นั้นนิ่ง ไม่มีอาการถ่ายติดวิญญาณเพราะมือสั่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแกว่งมือไปมาแล้วถ่ายได้นะครับ อันนั้นก็เกินไป แถมการเพิ่ม color spectrum sensor เข้ามา ก็ช่วยให้ได้สีที่สมจริงมากขึ้น

 

โหมดการถ่ายภาพใน LG G4 ถูกแบ่งออกมาเป็น 3 แบบด้วยกันคือ

  1. Simple โหมดง่าย ปรับอะไรไม่ได้ แตะจอคือถ่าย จบนะ
  2. Auto สามารถปรับตั้งค่าต่างๆได้บ้าง อย่างเลือกถ่ายภาพ HDR ปรับความละเอียดปรับขนาด เลือกเปิดปิดแฟลชอะไรแบบนั้นได้
  3. Manual ชงเองเล่นเอง โหมดสำหรับมือโปรที่ต้องการปรับตั้งค่า ISO, ค่า f หรือ ตั้ง speed shutter เอง แถมยังถ่ายเป็นไฟล์ RAW ไปแต่งเพิ่มได้อีกด้วย

หลายๆคนอาจจะจำฟีเจอร์ quick capture ที่ LG เอามาโชว์ในงานเปิดตัวได้ว่ากดปุ่มลดเสียง 2 ครั้ง ก็ถ่ายภาพได้รวดเร็วทันใจ แต่จากที่ลองๆดูแล้ว กลับคิดว่ามันทำให้ช้ากว่าเดิม กล้องอาจจะเปิดไวก็จริง แต่จังหวะในการถ่ายภาพกลับช้า เพราะต้องรอโฟกัสก่อน (มีเลเซอร์โฟกัสไว้เพื่อ..)

 

กล้องของ LG G4 นั้นเรียกได้ว่าอัพเกรดขึ้นจาก LG G3 เยอะมาก เยอะมากมาก ด้วยความละเอียด 16MP และการใช้เซนเซอร์ Sony IMX234 ขนาด 1/2.6” รูรับแสงกว้าง f/1.8 แต่พูดแบบนี้ก็คงไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่าลองดูภาพตัวอย่างก่อนดีกว่า (ภาพทั้งหมดถ่ายในโหมด auto)

 

 

 

 

 

มาโครภาพนี้มีครอปนิดนึงก่อนย่อภาพ

 

 

 

 

รูปนี้ HDR Off

 

รูปนี้ HDR On

 

แตะโฟกัสหลัง เป็นหลังชัดหน้าเบลอ

 

ย้ายมาแตะโฟกัสด้านหน้า เป็นหน้าชัดหลังเบลอ

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก LG G4 

LG G4 : Sample Photo 

 

สำหรับใครที่อยากจะดู EXIF ของภาพถ่าย ลองกดไปดูได้ที่ Google Photo LG G4 Sample Image นะครับ เพิ่งเห็นว่า imgur มันลบ EXIF ทิ้งหมดเลย

 

 

การถ่ายวิดีโอ

แต่ส่วนของการถ่ายวิดีโอนั้นดูเหมือนจะมีปัญหาอยู่บ้างเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ระบบของ OIS หรือ software ในการทำ stabilize กันแน่ เพราะเวลาเดินถ่ายวิดีโอ ภาพมันจะมีจังหวะวาร์ปแปลกๆ ดูแล้วไม่สมูทเอาซะเลย คงต้องรอดูว่าจะมีการอัพเดทแก้ไขหรือเปล่า

 

ตัวอย่างคลิปทดสอบระบบกันสั่นของ LG G4 เดินไปถ่ายคลิปไป

Play video

 

ตัวอย่างวิดีโอ 4K จาก LG G4 

Play video

 

ตัวอย่างวิดีโอตอนกลางคืนจาก LG G4

Play video

 

 

การใช้งาน 2 ซิม

เอาจริงๆ แล้วปกติผมไม่ค่อยใช้ได้งาน 2 ซิมซักเท่าไรนัก แต่หลังจากที่ลองใช้ดูแล้วรู้สึกว่าการเปลี่ยนซิมระหว่างการใช้งานนั้นค่อนข้างลำบากซักนิด เพราะปกติแล้วสมาร์ทโฟน 2 ซิมตัวอื่นนั้น ภายในหน้าโทรจะมีปุ่มให้กดเลือกเลยว่าจะโทรออกจากซิมที่ 1 หรือซิมที่ 2 แต่สำหรับ LG G4 นั้นต้องใช้ปุ่มสลับซิมแทน หรือต้องไปเลือกใน settings ก่อน

หากเสาสัญญาณของซิมไหนมีสี่เหลี่ยมครอบไว้แปลว่าเรากำลังใช้งานซิมนั้นอยู่นั่นเอง ซึ่งตรงนี้มันจะสลับเฉพาะการใช้งาน voice call เท่านั้นนะครับ จะไม่สลับการใช้งานในส่วนของ data แต่ถ้าหากต้องการสลับ data ก็ต้องเข้าไปเปลี่ยนใน settings เอาเอง

หน้ารายการโทรก็จะมีเบอร์ซิมกำกับเอาไว้ชัดเจนว่ามีการโทรเข้าออกจากซิม 1 หรือ ซิม 2 การรับสาย 2 เบอร์นั้นสามารถทำได้ แต่เป็นระบบ smart forward หรือเป็นการโอนสายจากอีกเบอร์มายังอีกเบอร์ เราก็จะเสียค่าบริการ divert call ตามอัตราของค่ายนั้นๆ ไป

 

 

Software – Android 5.1 และ LG UX 4.0

หลังจากที่ LG G3 และ LG UX 3.0 นั้นพลาดท่าอย่างหนัก ผู้ใช้งานบ่นกันงึมงำว่ามันมีอาการหน่วงๆ และกระตุกอยู่บ่อยๆ แม้แต่ในการใช้งานหน้า Home ปัดไปปัดมาเฉยๆ มารอบนี้ LG ก็รับทราบปัญหาเป็นที่เรียบร้อย และพัฒนามาเป็น LG UX 4.0 ที่ลื่นขึ้นก็เดิมเยอะมากอย่างเห็นได้ชัด

ทางด้านซ้ายสุดของหน้า Home จะเจอกับ Smart Bulletin เป็นส่วนเสริมที่สามารถเลือกเปิดหรือปิดก็ได้ ซึ่งส่วนนี้ก็จะแสดงในเรื่องของแอพ LG ต่างๆ ซึ่งก็สะดวกดีครับ แต่ถ้าไม่ใช้ก็สามารถปิดได้ จะทำให้หน้า Home นั้นเร็วขึ้นมานิดหน่อยด้วย ผมก็ปิดไว้ตลอดเพราะไม่ได้ใช้อะไร

แถบแจ้งเตือนด้านบนแบบ Lollipop นั้นยังคงเป็นแบบ LG UX โดย toggle switch เปิดปิดต่างๆยังคงใช้งานได้ กดค้างเพื่อเข้าไปยังการตั้งค่าได้ สามารถที่จะเลื่อนซ้ายขวาเพื่อหาสิ่งที่เราต้องการจะเปิดหรือปิด และสามารถเพิ่มลดปุ่มหรือย้ายตำแหน่งของปุ่มก็ได้ นอกจากนี้ก็มีแถบปรับความสว่างของหน้าจอ แต่รู้สึกว่าโหมด Auto ยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควร บางทีมืดเกินไปทั้งๆที่ข้างนอกก็ยังสว่างอยู่


ปุ่ม home touch buttons บนแถบ navigation bar นั้นสามารถปรับเปลี่ยนตามที่เราต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหรือสลับตำแหน่งปุ่ม จะใส่เป็น 4 หรือ 5 ปุ่มก็ไม่มีปัญหา แต่ปุ่ม home, back และ recent app ไม่สามารถเอาออกได้นะ ในส่วนปุ่มที่เราสามารถเลือกนำมาใส่เพิ่มได้ก็จะมี

  • ปุ่มดึงแถบ notification

  • ปุ่มเรียก Quick Memo

  • ปุ่มเรียก QSlide

  • ปุ่มสลับซิม

  • ปุ่ม dual windows

และสำหรับใครที่ชอบเล่นเกมแล้วรำคาญว่าแถบปุ่มตรงนี้มันชอบไปโดนเองแล้วเด้งออกจากเกม เจ้า LG G4 ก็มีตัวเลือกให้สามารถซ่อนปุ่มเหล่านี้ตามแอพที่ตั้งไว้ได้ด้วย ถ้าอยากรู้ว่าทำยังไงก็สามารถดูได้จาก 14 ฟีเจอร์เบสิค ได้ครับ

 

 

Gallery

แอพ Gallery ของ LG G4 นั้นเราสามารถที่จะเลือกให้ดูแบบ Albums, Timeline, Memories หรือ  Favorites ก็ได้ ซึ่งทำออกมาให้ใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ส่วนโหมด Timeline นั้นจะคล้ายๆกับของ Google Photos เลย สามารถที่จะดูเป็น วัน เดือน ปี ได้ แต่ว่าไม่มี build-in photo editor นะครับ ต้องใช้แอพแยก

 

 

Music

เชื่อว่าทุกคนต้องมีการฟังเพลงในมือถือบ้างแน่นอน แอพ Music ก็เอาไว้ฟังเพลงเหมือนแอพอื่นๆนั้นแหละครับ แต่ว่าก็มีลูกเล่นเพิ่มมานิดๆหน่อยๆ อย่าง สามารถตั้งเวลาให้หยุดเล่นเองได้ หรือถ้าอยากสนุกหน่อย ก็สามารถปรับ pitch กับ speed ได้ เผื่ออยากฟังเพลง Walk Away ของนักร้องเสียงใส Dia Frampton ในโทนเสียงใหญ่ขึ้นแบบ Katy Perry ก็ได้นะครับ สนุกไปอีกแบบ 😀

 

 

QuickRemote

QuickRemote ของ LG G4 สามารถเลือกได้ว่าจะเพิ่มรีโมทให้กับจุดไหนของบ้านเรา และสามารถควบคุมได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ทีวี เครื่องเสียง แอร์ก็สามารถควบคุมได้เช่นกัน ถ้าหายี่ห้อที่ตรงกับของเราไม่ได้ก็เลือกเป็น universal remote แทนได้ สะดวกดีสำหรับคนที่ชอบลืมว่าวางรีโมทไว้ที่ไหน ผมก็เป็นคนหนึ่ง :3

 

 

LG Backup

LG ได้ทำการรองรับคนที่เปลี่ยนเครื่องหรือล้างเครื่องบ่อยๆ ด้วยการเสริม LG Backup เข้ามา ซึ่งเราสามารถที่จะ ส่งข้อมูล หรือ รับข้อมูล ได้ และก็สามารถ backup ข้อมูลของเราลง microSD หรือขึ้นไปยัง LG Cloud ก็ได้

 

 

LG Health

ช่วงนี้การดูแลสุขภาพกำลังเป็นไลฟ์สไตล์ที่คนกำลังให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ซึ่งเจ้าเครื่อง LG G4 ก็มาพร้อมกับ LG Health ที่เอาไว้ monitor สุขภาพของเรา แต่แค่ดูได้ว่าเราเดินหรือวิ่งไปเท่าไรแค่นั้น ไม่สามารถดู การเต้นของหัวใจได้ เพราะว่าไม่มีเซนเซอร์วัดการเต้นของหัวใจ หรือตัวสแกนลายนิ้วมือเลย

 

 

QuickMemo+

การจดบันทึกในสมัยนี้กลายเป็นแบบ digital กันหมดแล้ว ซึ่งเจ้าตัว QuickMemo+ ก็เป็นแอพหนึ่งที่เอาไว้จดโน็ตเช่นเดียวกัน นอกจากจดโน็ตแล้วก็สามารถเอาไว้ใช้ capture หน้าจอได้อีกด้วยครับ

โดยการใช้งาน QuickMemo+ สามารถทำได้ 2 แบบ คือ เปิดใน app drawer หรือเปิดจากแถบ notification ครับ จะต่างกันตรงที่ถ้าเราเปิดจากแถบ notification จะเป็นการจดบันทึกลงบนหน้าจอปัจจุบันเลย

 

 

Battery

LG G4 ถือเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นสุดท้ายที่ยังคงสามารถถอดเปลี่ยนแบตได้ เพราะเจ้าอื่นๆก็ได้เปลี่ยนไปใช้วัสดุแบบโลหะหรือกระจกแทน ทำให้ไม่สามารถทีจะถอดฝาหลังออกได้ แต่นี่ก็เป็นจุดเด่นที่ทำให้หลายๆคนสนใจ

เจ้า LG G4 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3000mAh ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับเรือธงรุ่นอื่นๆ แต่พอใช้งานจริงๆแล้วก็ไม่อึดอย่างที่คิด เพราะว่าหน้าจอ QuadHD นั้นสูบแบตสุดๆไปเลย จากการใช้งานจริงก็จะได้ประมาณนี้ครับ

แต่ละคนอาจจะใช้งานแตกต่างกันไป ก็จะทำให้แบตของแต่ละคนหมดช้าหมดเร็วแตกต่างกันไปเช่นเดียวกัน ส่วนเวลาชาร์จจาก 0-100% ของผมใช้เวลาอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 10 นาที โดยใช้ที่ชาร์จของตัวเครื่องครับ

 

 

GPS

ในส่วนของ GPS นั้นมาพร้อมกับ A-GPS และ GLONASS ซึ่งจับสัญญาณจากดาวเทียมได้เร็ว ใช้เวลาประมาณ 5-10 วินาที ผ่าน 4G โดยที่สามารถจับสัญญาณจากดาวเทียมได้ถึง 32 ตัว ทำให้มีความผิดพลาดน้อยมาก อยู่ที่ประมาณ 3 เมตร เท่านั้น (ยิ่งต่ำยิ่งดี)

 

สรุป

LG G4 นั้นแสดงให้เห็นว่าการเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงนั้นไม่จำเป็นต้องบาง ไม่จำเป็นต้องเป็นโลหะ แต่ก็ดูดีได้ ด้วยความช่วยเหลือจากหน้าจอโค้งนิดๆและฝาหลังแบบหนังสุดคลาสสิค ทำให้ฟิลที่ดีไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วจากแก๊งเรือธงอย่างความสามารถในการถอดเปลี่ยนแบตได้ ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจำเป็นขนาดไหน แน่นอนว่าถึงแม้ LG G4 จะเป็นเรือธง แต่ก็ไม่ได้เพอร์เฟกต์ไปซะทุกด้าน มาดูข้อดีและข้อด้อยของมันบ้างดีกว่า

ข้อดี:

  • กล้องโหมด manual ทำได้ดีมาก
  • กล้องหน้า 8MP ถ่าย selfie ได้แจ่ม (ติดนิดเดียวน่าจะใช้เลนส์ไวด์ สงสัยเก็บไว้ให้ G5)
  • ฝาหลังถอดเปลี่ยนได้ มีทั้งแบบหนังและพลาสติก
  • เปลี่ยนแบตเตอรี่ และเพิ่ม microSD ได้
  • หน้าจอ Quantum Display ให้สีสันที่สวยงาม (แต่บางทีรูปถ่ายอาจจะสดไปนิดเมื่อเทียบกับดูในคอมพ์)
  • ใช้งานได้ลื่นไหลกว่ารุ่นก่อน ช่วงแรกๆ มีปัญหาเรื่อง keyboard ค้างก็ออกมาอัพเดทแก้ไขได้ไว

ข้อด้อย:

  • แบตเตอรี่ยังไม่อึดเท่าที่ควร
  • บางคนอาจจะไม่ชอบที่วัสดุเป็นพลาสติก
  • ไม่มี wireless charging
  • ระบบ touch ยังมีปัญหาอยู่ รวนๆ บ้างนิดหน่อย
  • ระบบ Auto Brightness ยังไม่ค่อยดีเท่าไร

 

ปล.ถ้าใครสนใจเจ้า LG G4 มือสอง ยังไงลองเข้าไปดูใน Marketplace ของเราได้นะครับ เห็นเริ่มมีคนมาปล่อยอยู่เรื่อยๆ ราคาดีๆทั้งนั้นเลยครับ