ถ้าอยากเก่งภาษาแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงมาทางนี้เลย เราจะมาแนะนำแอปฝึกพูดภาษาอังกฤษในหลายรูปแบบ  สามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลาทุกสถานที่ แค่นั่งอยู่บ้านก็ได้ทักษะการสื่อสารเพิ่มง่าย ๆ แถมยังใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ได้อีกด้วย หลายคนอาจคิดว่าการฝึกพูดภาษาต้องสำหรับคนที่มีความจำเป็นต้องใช้เท่านั้นรึเปล่า ต้องบอกว่าไม่เสมอไป เพราะการฝึกฝนภาษาเป็นการพัฒนาตัวเราในหลายด้าน ทั้งการแสดงออก การออกสำเนียง หรือการให้เข้าใจบริบทต่าง ๆ

เป็นแอปฝึกภาษาที่ทุกคนควรมีติดเครื่องไว้ พร้อมแล้วมาเริ่มสะสมคำไปด้วยกันเถอะ   

1.Cake Learn English

แอปพลิเคชัน Cake Learn English เป็นหนึ่งในแอปฝึกภาษาที่เราอยากแนะนำเลยก็ว่าได้ค่ะ มีให้เลือกเรียนมากสุด 2 ภาษา ภาษาอังกฤษกับภาษาเกาหลี

เน้นการฝึกพูด ฟัง อ่าน เขียนไปในตัว สิ่งที่น่าสนใจของแอปนี้ คือมีระบบให้เราฝึกภาษาอย่างง่ายไม่ซับซ้อน ส่วนมากจะเน้นเป็นคลิปวิดีโอภาษาอังกฤษจากหนังดัง หรือรายการการ์ตูนต่าง ๆ 

ตัวแอปจะให้เราทำควิซฝึกพูดวนไปประมาณ 3 รอบ เพื่อให้ซึมซับเข้าไปจนพูดได้ และภายใน 1 วัน จะมีภารกิจมาให้เราพิชิตคำศัพท์ถึง 3 ชม. ถ้าคนไหนทำเสร็จจะได้เหรียญ เพื่อมาใช้ปลดล็อกเรียนในบทอื่น ๆ ได้ฟรี โดยไม่ต้องสมัครรายเดือน แต่ต้องใช้ระยะเวลาสักพักหนึ่งเลยค่ะ  ที่สำคัญยังมีหมวดหมู่ให้เราเลือกทบทวบบทเรียนด้วย เลือกได้ตามความชอบ มีตั้งแต่ระดับเบื้องต้นไปจนถึงระดับกลางตอนปลายไปจนถึงบทสนทนาเลย ยิ่งพูดเยอะจะยิ่งได้เหรียญนำมาทดสอบในบทต่อไป แถมตัวแอปยังให้คะแนนเราด้วยนะคะเพื่อเป็นการประเมินทักษะของเรา 

 

ดาวน์โหลดได้ทั้ง ios Cake  และ android Cake สำหรับทั้งแท็บเล็ต มือถือ ipad 

ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี แต่ว่ามีเงื่อนไขจำกัดสามารถเรียนรู้ได้แค่เนื้อหาเบื้องต้น 

ดาวน์โหลดแบบมีค่าใช้จ่าย 

Cake plus รายเดือน 269  บาทต่อเดือน

Cake plus  12 เดือน 1,950  บาท ตกเดือนละ 162.50 บาท

Cake plus  family  ใช้งานสูงสุดได้ 6 คน อยู่ที่ 3,200 บาทต่อปี ตกเดือนละ 266.66 บาทต่อเดือน

ถ้ามีสมาชิกถึง 6 คน  ตกเดือนละ 44.44 บาท/คน

2.Duolingo

แอปพลิเคชัน Duolingo  เป็นแอปฝึกภาษาเน้นทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน ที่มีความหลากหลาย มีให้เลือกเรียนมากสุด 40 ภาษา อาทิ ภาษาโปรตุเกส, ภาษาอิตาลี, ภาษาไอริช, ภาษาดัตช์, ภาษาเดนมาร์ก, ภาษาสวีเดน, ภาษาอังกฤษ, ภาษาสเปน, ภาษาเยอรมัน, ภาษาเกาหลี และภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น

แอปนี้มีระบบให้เราฝึกภาษาอย่างน่ารัก ชวนให้เราอยากเรียนเพิ่มขึ้นด้วยกราฟิกน้องนกฮูก Duolingo ตัวสีเขียว ที่มาคอยแนะนำบทเรียนแต่ละหลักสูตรให้เราเสมือนมีเพื่อนตัวน้อย ก่อนเข้าระบบเรียนจะมีให้เราเลือกถึง 4 แบบ ตั้งแต่การเข้าใจภาษาเริ่มต้นไปจนถึงชั้นเรียนที่สูงกว่า

เจ้านกฮูกจะถามเราเพิ่มเติมค่ะว่าทำไมเราถึงอยากเรียนภาษาเพิ่ม เพื่อให้เราตอบโจทย์การเรียนรู้ได้อย่างครอบคลุมนั่นเอง การเรียนยังมีตัวเลือกให้เราได้เรียนแบบ Relax สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 3 – 30 นาทีต่อวัน ในบทเรียนมี  Perfect tense, Grammar, Conversation ในหลายระดับพร้อม Roadmap ให้เราเรียนแต่ละด่านในการทำเป้าหมายประจำวันให้เสร็จ เพื่อเพิ่มทักษะภาษานั่นเอง

ดาวน์โหลดได้ทั้ง ios  Duolingo และ android Duolingo สำหรับทั้งแท็บเล็ต มือถือ ipad 

ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีตลอดบทเรียน แต่ว่ามีเงื่อนไขจำกัดสามารถเรียนรู้ได้แต่ถ้าเราทำผิดหัวข้อ จะเสียหัวใจไปครั้งละหนึ่งดวง มีสูงสุดได้ 5 หัวใจ 

ดาวน์โหลดแบบมีค่าใช้จ่าย ต้องซื้อเพชรสีฟ้ามาจ่ายแลกเป็นหัวใจ 

เพชร  69  บาท ได้ 1200 เม็ด

เพชร  149  บาท ได้ 3000 เม็ด

เพชร  299  บาท ได้ 6500 เม็ด

อีกหนึ่งบริการ  Duolingo Super สามารถทดลองใช้ฟรีได้สำหรับผู้ใช้งานใหม่ เราจะเรียนได้แบบไม่จำกัดหัวใจจนจบหลักสูตรและไม่มีโฆษณาคั่นระหว่างบทเรียน

3.Speak

แอปพลิเคชัน ฝึกภาษาเน้นการฝึกพูดออกสำเนียงกับเจ้าของภาษาโดยตรง ให้ความรู้สึกเหมือนจริงกับการสนทนากับอีกฝ่าย ตัวแอปพลิเคชันเองมีหลากหลายหัวข้อ แบ่งเป็นหมวดย่อย อาทิ เชิงธุรกิจ ท่องเที่ยว การสื่อสารพบปะผู้คน สั่งอาหาร และการฝึกสัมภาษณ์งาน

สิ่งที่เราคิดว่าน่าสนใจ คือ ใช้งานง่าย ตัวแอปจะประเมินการออกเสียงของเราค่ะ ว่าพัฒนาได้เพิ่มถึงระดับไหน ซึ่งดูง่ายมาก จะแบ่งให้ดูถึงสามสีย่อย สีเขียวคือ เราออกเสียงได้ถูกต้องชัดเจน, สีแดง เราออกเสียงไม่ถูกต้อง ส่วนสีเหลืองเราออกเสียงได้พอใช้ ตอนเริ่มฝึกของโหมดทักษะพูด เราจะได้แค่สถานการณ์เดียวตอนเริ่มต้น ถ้าทุกคนยิ่งฝึกพูดมากขึ้น จะได้การปลดล็อคไปในระดับถัดไปที่ท้าทายขึ้น เพื่อให้สำเนียงและคลังคำศัพท์เราดีขึ้นนั่นเองค่ะ ที่สำคัญเรายังกลับมาย้อนฟังบทสนทนาได้อีกด้วย แต่ว่าการอัดเสียงของเราตอนพูดจะไม่สามารถฟังซ้ำได้ค่ะ นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อยากเน้นออก Accent ต่าง ๆ แบบเจ้าของภาษา

ดาวน์โหลดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบน ios Speak  Practice Your English 

ดาวน์โหลดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบน android Speak  Practice Your English 

4.Slowly 

เป็นแอปพลิเคชันฝึกภาษาในรูปแบบการส่งจดหมาย เราสามารถสร้างโปรไฟลต์ตัวเองได้แบบฉบับกราฟิกน่ารัก ๆ  และแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองสนใจได้ที่หน้า Bio จะทำให้ทุกคนได้เชื่อมต่อถึงกันทั่วโลกเลย ที่สำคัญเรายังได้แลกเปลี่ยนบทสนทนาดี ๆ กับเพื่อนคนไทยและต่างชาติได้ใกล้กันมากขึ้นด้วยค่ะ

จะเน้นบทสนทนาเป็นหลักผ่านการส่งจดหมาย มีกิมมิคโดยที่เรายิ่งทำความรู้จักหรือแลกเปลี่ยนการเรียนรู้เท่าไหร่ เราจะได้แสตมป์จากหลายประเทศหรือเทศกาลสำคัญต่าง ๆ มาติดไว้ เก๋มาก

และการส่งจดหมายในแอปนี้เหมือนกับการส่งจริงเลยค่ะ ไม่ได้มีการตอบกลับมาไวเหมือนรูปแบบแชท แต่ต้องใช้เวลาในการรอตอบด้วย ฟังแล้วรู้สึกคุ้มค่าตอนเวลาเปิดอ่านเลยล่ะ เพราะปัจจัยนึง ยิ่งเพื่อนทางจดหมายของเราอยู่ไกลมากแค่ไหนก็ยิ่งใช้เวลาในการจัดส่งนานขึ้นเท่านั้น ได้ภาษาไม่พอยังได้เพื่อนเพิ่มอีกด้วย

ดาวน์โหลดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบน ios Slowly   และ android Slowly สำหรับทั้งแท็บเล็ต มือถือ ipad 

5.LingoDeer – Learn Languages

แอปพลิเคชัน LingoDeer แอปเรียนภาษาเน้นเข้าใจคนรุ่นใหม่ ที่ให้เรียนภาษาง่าย ๆ วันละแค่ 15 นาที เพื่อสร้างนิสัยการเรียนรู้ให้ติดตัวเราค่ะ เน้นซึมซับไปเรื่อย ๆ จนทุกคนเก็บคลังศัพท์ได้ดีนั่นเอง แอปนี้สามารถสอนได้ถึง 12 ภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ, ภาษาสเปน, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาเกาหลี, ภาษาเยอรมัน, ภาษาอิตาเลียน, ภาษาจีน, ภาษารัสเซีย, ภาษาโปรตุเกส, ภาษาเวียดนาม และภาษาอาหรับ ส่วนมากกจะเน้นไปที่ภาษาที่สามค่ะ ไม่ได้เน้นนสอนภาษาอังกฤษเต็มตัว

แต่เป็นการสอนในเบื้องต้น จะมีเจ้ากวางน้อยพาเราไปยัง Rode map เพื่อพิชิตคำศัพท์ตั้งแต่ระดับเบื้องต้นไปจนแอดวานซ์ แต่ละพื้นที่จะมีบททดสอบขั้นต่ำอยู่ที่ 3-4 บท ให้เราได้ออกเสียงและตอบคำถาม และแปลประโยคนั้น

พร้อมทั้งการทบทวนบทเรียนเป็นอีกแอปนึงที่รูปแบบการใช้งานง่าย พร้อมภาพกราฟิกน่ารัก เป็นเหมือนรูปแบบเกมตะลุยด่าน จนอยากให้เราเรียนต่อไปอีกด้วย

ดาวน์โหลดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบน ios LingoDee  และ android LingoDeer  สำหรับทั้งแท็บเล็ต มือถือ ipad 

6.Andy

แอปพลิเคชันที่เน้นการฝึกพูดภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ เปรียบเสมือนการจำลองคุยกับเจ้าของภาษา แต่เป็น Ai Bot ชื่อว่า Andy ค่ะ คนไหนที่คุยไม่เก่งไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ไม่ต้องห่วงเลย เพราะว่า Andy  จะชวนเราคุยเองค่ะ ชวนคุยเก่งมาก เขาจะถามว่าเราเป็นยังไงบ้าง เหมือนการคุยปกติกับเพื่อน

ที่สำคัญระหว่างการสนทนา ถ้าเราไม่เข้าใจสามารถกด Explain ได้ เขาจะอธิบายให้เราได้เข้าใจเพิ่มเติม แต่ถ้าอ่านแล้วรู้เรื่องกด Got it เพื่อไปยังบทต่อ ๆ ไปได้เลย

นี่เป็นหนึ่งตัวเลือกในการฝึกเพื่อไปคุยกับชาวต่างชาติได้ดีทีเดียว เพราะในความจริงแล้ว เราคงไม่ได้มีเพื่อนเป็นคนต่างชาติมากเท่าไหร่นัก การที่เขาจะมาสอนให้เราเข้าใจภาษาบ่อย ๆ ก็ดูจะเป็นเรื่องยาก การมีตัวช่วยอย่าง Andy ก็น่าสนใจไม่น้อย

ดาวน์โหลดได้ทั้ง ios Andy และ android Andy สำหรับทั้งแท็บเล็ต มือถือ ipad 

ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี แต่ว่ามีเงื่อนไขจำกัด สามารถเรียนรู้ได้แค่เนื้อหาเบื้องต้น 

ดาวน์โหลดแบบมีค่าใช้จ่าย Upgrade To Pro จะได้ 35+ Grammar Lessons, Vocabulary 20,000 คำ, More Conversation Topics มีทั้งการสนทนาแบบหนัง ท่องเที่ยง ธุรกิจ งานศิลปะ การสั่งอาหาร อีกมากมาย 

1 Month  รายเดือน 225  บาทต่อเดือน

1 Year  12 เดือน   900 บาท ตกเดือนละ 75  บาทต่อเดือน

Liftime 1,575  บาท ใช้ได้ตลอดชีพ

7.Draw it

เป็นแอปพลิเคชันเกมฝึกภาษาที่เน้นการทวนหรือจำคำศัพท์ และเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้ในการวาดภาพด้วยค่ะ ต้องเรียกได้ว่าเป็นเกมวาดรูปตามคำศัพท์ของ Ai ให้ผู้ใช้งานวาดภาพสิ่งของหรือแนวคิดตามปัญญาประดิษฐ์

เป็นการเรียนรู้ศัพท์ที่ไม่น่าเบื่อ ชวนให้อยากวาดเล่นในหลาย ๆ โจทย์ อาทิ ผีเสื้อ บูมเมอแรง มังกร สล็อต บันได หมา แมว มีด เป็นต้น

โดยที่ตัวเกมจะให้เราวาดรูปแข่งขันกับผู้ใช้งานคนอื่น แต่ละภาพจะมีเวลาจำกัดแค่ 20 – 30 วินาที ให้เราวาดออกมาหลังจากจบเกม จะมีโพลล์การแข่งขันแสดงแรงค์คะแนนของผู้ใช้งานตามลำดับ ใครเก่งสุดจะได้ตราประทับสีทองไป เป็นการเรียนรู้คำศัพท์ที่น่าเล่น แถมได้แข่งขันกับผู้อื่นด้วย มันเพิ่มความอยากเอาชนะนั่นเอง ยิ่งเสริมสร้างให้เราอยากจะจดจำคลังศัพท์เพิ่มมากขึ้น แถมเด็กอายุน้อยยังเล่นได้ด้วยนะคะ 

ดาวน์โหลดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบน ios Draw it และ android Draw it สำหรับทั้งแท็บเล็ต มือถือ ipad 

8.TED

เป็นแอปพลิเคชันจาก ted talk รายการชื่อดัง ที่ใครหลายคนต้องคุ้นหน้าค่าตากันแน่นอน โดยตัวแอปพลิเคชันจะมีคลิปวิดีโอของคนดังหรือคนสำคัญจากฝ่ายต่าง ๆ ออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงให้ความรู้แบบเสรี รวมไปถึงการเล่าเรื่องแบบเดี่ยวไมโครโฟน

ที่เราอยากยกมาแนะนำ คือเราสามารถกดฟังการบรรยายของผู้เชี่ยวชาญในหลาย ๆ ด้านได้ง่ายมากค่ะ ที่สำคัญยังมีคำแปลใต้คลิปให้เราอ่านด้วย ถ้าพูดไวไป หรือช้าไปเราสามารถปรับคลิปวิดีโอได้ตามความต้องการอีกด้วย เรียกว่าได้ภาษาได้ไวยากรณ์ การฟัง การฝึกพูดตาม และความรู้ไปในตัวเลย

แถมหมวดหมู่ความรู้ยังแยกออกเป็นหลายประเภท ตั้งแต่  A – Z อย่างเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ ธุรกิจ สุขภาพ ธรรมชาติ ศิลปะ หรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เป็นแอปที่มีประโยชน์ครอบคลุมสาระไว้เยอะมากค่ะ แนะนำเลย

ดาวน์โหลดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบน ios TED และ android TED สำหรับทั้งแท็บเล็ต มือถือ ipad  

9.Drops

เป็นแอปพลิเคชันฝึกจำคำศัพท์จากเกม สำหรับคนที่มีเวลาน้อยแต่อยากได้ภาษาเพิ่ม ภายในตัวแอปจะมีภาษาให้เราเลือกเรียนได้ถึง 45 ภาษาขึ้นไป

พร้อมภาพกราฟิกที่ออกแบบมาให้จดจำ Shapes ตามการจำรูปแบบศัพท์ อย่าง Cat  ก็จะมีรูปแมว โดยที่การเรียนรู้จะฝึกนิสัยเราให้มีการแจ้งเตือนประโยคภาษาเป็นประจำวันตามเวลา สามารถเลือกได้ 06 : 00, 12:00, 18:00, 24:00 เพียงแค่ใช้เวลา 5 นาทีต่อวัน เป็นประจำช่วยฝึกให้เราจดจำภาษาได้ดีขึ้น

แถมตัวแอปเองยังมีเพลงสบาย ๆ มาช่วยเสริมการจำศัพท์ของเราอีกด้วย ตัวแอปเลยไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากค่ะ เน้นจำง่ายใช้ได้จริง แต่ข้อจำกัดเรียนได้แค่วันละ 5 นาทีเท่านั้นเอง ถ้าคนไหนที่อยากได้เวลาเพิ่มเติมต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ  

ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้ง ios Drops และ android Drops สำหรับทั้งแท็บเล็ต มือถือ ipad 

ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี แต่ว่ามีเงื่อนไขจำกัดการเรียนรู้ได้แค่เบื้องต้นของคลังคำศัพท์ 

ดาวน์โหลดแบบมีค่าใช้จ่ายเรียนรู้คำศัพท์ได้หลายพันคำไม่จำกัดเวลา และไม่มีโฆษณา 

1 Month  รายเดือน 400  บาทต่อเดือน

1 Year  12 เดือน   2,775  บาท ตกเดือนละ 75  บาทต่อเดือน

Liftime ตลอดชีพ  5,525 บาท ชำระครั้งเดียวใช้ได้ตลอดชีพค่ะ  

อีกหนึ่งบริการ  Drops สามารถทดลองใช้ฟรีได้สำหรับผู้ใช้งานใหม่ เราจะเรียนได้แบบไม่จำกัดเวลาจนจบหลักสูตรและไม่มีโฆษณาคั่นระหว่างบทเรียน ทดลองใช้ฟรีได้ 7 วัน 

10.LyricsTraining

เป็นแอปพลิเคชันที่ให้เราเรียนรู้ไวยากรณ์หรือคลังคำศัพท์ผ่านการฟังเพลงที่เราชอบค่ะ น่าสนใจมากได้ความรู้แถมได้ผ่อนคลายไปในตัวด้วย แอปมีการรองรับภาษาให้เรียนถึง 14 ภาษาค่ะ ทั้งภาษาโปรตุเกส, ภาษาอิตาลี, ภาษาไอริช, ภาษาดัตช์, ภาษาเดนมาร์ก, ภาษาสวีเดน,ภาษาอังกฤษ, ภาษาสเปน, ภาษาเยอรมัน, ภาษาเกาหลี และภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น

ในการเรียนรู้เราต้องฟังเพลงไปพร้อมกดคำตอบ ที่เว้นไว้ตรงเนื้อเพลงให้ถูกต้อง สิ่งที่ท้าทายขึ้นเรื่อย ๆ คือมันจะมีตั้งแต่ระดับ Beginner, Intermediate, Advanced ไปจนถึง Expert เลยค่ะ สนุกไปอีกแบบเป็นการชาเลนจ์ตัวเอง เพื่อเพิ่มทักษะสกิล 

ดาวน์โหลดได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย บน ios LyricsTraining และ android LyricsTraining  สำหรับทั้งแท็บเล็ต มือถือ ipad 

 

ทั้งหมดนี้ คือแอปฝึกภาษาทั้ง 10 แอป ที่เราได้คัดเลือกมา เราได้ใช้งานจริงแล้วรู้สึกประทับใจ เลยอยากมาแบ่งปันเพื่อน ๆ เข้าใจว่าบางทีการท่องจำภาษาเยอะ ๆ เป็นเวลานานทำให้ความรู้สึกน่าเบื่อขึ้นมา แถมบางทีไม่อยากจะท่องต่อแล้ว แต่ในปัจจุบันมีแอปมากมายที่มาตอบรับความต้องการเรามากขึ้น มีบทเรียนที่ไม่ซ้ำจำเจ เนื้อหาสนุก ชวนให้อยากฝึกอีกด้วย  ภาพกราฟิกน่ารักส่งผลดีต่อการจำ ทางเราหวังว่าทุกคนจะลองหยิบมาใช้งานแล้วสนุกไปกับการเรียนภาษานะคะ