งาน CES 2020 ที่จบไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ จากเหล่าแบรนด์ดังระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Samsung, Sony, Lenovo, Intel, TCL ฯลฯ ภายในงานก็ยังมีนวัตกรรมเจ๋งๆ จากเหล่า Startup ที่กำลังอยู่ในช่วงระดมทุน รวมถึง Startup ที่ระดมทุนเสร็จเรียบร้อยจนพร้อมวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน ซึ่งเราก็ได้ไปรวบรวมและคัด Gadget ที่คิดว่าเจ๋งจริง เด็ดจริง มาให้ดูกันครับ ว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

1. AirPix กล้องเซลฟี่บินได้

Gadget ชิ้นแรกเรียกว่าเหมาะสุดๆ สำหรับคนชอบเที่ยว และชอบถ่ายภาพตัวเองตามสถานที่หรืองานต่างๆ แต่ว่าไม่อยากไปเดือดร้อนไหว้วานให้คนอื่นถ่ายภาพให้ หรือไม่ก็อยากที่จะเก็บภาพสวยๆ เป็นหมู่คณะ โดยที่ไม่ขาดใครไป (เพราะส่วนมากจะขาดคนที่ถ่ายรูปให้นั่นแหละ) ทีมพัฒนา Air Selfie ก็เลยขอเสนอ Gadget ที่จะเข้ามาช่วยให้การถ่ายภาพดังกล่าว ง่ายขึ้นกว่าเดิมด้วยโดรนจิ๋ว Air Pix ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่เชิงเป็นโดรนซักเท่าไหร่ แต่ทาง Air Selfie อยากให้เรียกมันว่า Aerial Camera (กล้องบิน) ซะมากกว่า เนื่องจากมันมีขนาดที่เล็กจิ๋วประมาณฝ่ามือ มีน้ำหนักไม่ถึง 1 ขีด แถมยังสามารถยัดใส่กระเป๋ากางเกงได้สบายๆ อีกต่างหาก

Air Pix มีกล้องความละเอียด 12MP ที่สามารถเก็บภาพได้สวยๆ ไม่แพ้กล้องมือถือ ซึ่งมันสามารถบินได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องเชื่อมต่อผ่านมือถือเลย แค่วางไว้บนฝ่ามือเปิดเครื่องและโยนขึ้นเบาๆ มันก็จะบินออกไปเก็บภาพให้เราได้เลย เราสามารถบังคับทิศทางของมันได้ผ่านการโบกมือไปมา และสั่งให้มันถ่ายภาพด้วยการกำมือข้างนึงและแบมือข้างนึงเท่านั้นเอง (กล้องของ Air Pix มีระบบตรวจจับท่าทางของมือ) หรือถ้าใครอยากจะบังคับ Air Pix เองก็ทำได้ผ่านการเชื่อมต่อกับมือถือนั่นเอง

Air Pix เมื่อชาร์จเต็มแล้วจะบินต่อเนื่องได้ราวๆ 6 – 7 นาที บินได้ไกลจากตำแหน่งปล่อยตัว 60 ฟุต และยังมีอุปกรณ์เสริมเป็นเคสสำหรับชาร์จขนาด 5000 mAh ที่ชาร์จ Air Pix จนเต็มได้อีก 6 ครั้ง (ใช้เวลาชาร์จ 25 นาที)

จากการทดลองเล่นแล้วก็พบว่ามันมีขนาดและน้ำหนักที่เบาพกพาง่าย และใช้งานง่ายจริงๆ หยิบออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วเปิดเครื่องก็พร้อมบินพร้อมถ่ายได้ทันที แต่ยังมีบ้างที่การตรวจจับท่าทางในการสั่งงาน ยังเอ๋อๆ ไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าน่าเล่นเลยล่ะ (เสียดายที่เค้าไม่ขายในงาน ต้องมาสั่งซื้อผ่านเว็บอีกทีนึง)

 

2. ClicBot หุ่นยนต์เพื่อการศึกษา พลิกแพลงได้หลายแบบ

Gadget ชิ้นนี้จะเน้นไปที่การพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กๆ เพราะมันเป็นหุ่นยนต์ที่ทำอะไรได้หลายๆ อย่าง ผ่านการเขียนโค้ดง่ายๆ ที่แม้แต่เด็กๆ ก็สามารถทำได้

ClicBot ประกอบไปด้วยส่วนหัวของหุ่นยนต์ที่เป็นสมองของมัน และจะมีช่วงลำตัวและอวัยวะสำหรับใช้ในการเคลื่อนไหวแบบต่างๆ ซึ่งเราสามารถซื้อชิ้นส่วนมาประกอบเพิ่มเติมได้เรื่อยๆ ว่าจะให้มันเคลื่อนไหวด้วยล้อ, เคลื่อนไหวด้วยขา 4 ข้าง, เคลื่อนไหวด้วยการเลื้อยเหมือนงู หรือแม้แต่จะใช้ขาแบบพิเศษที่สามารถไต่กระจกก็ยังได้ ซึ่งการเคลื่อนไหวแต่ละแบบก็จะต้องอาศัยการเขียนโปรแกรมอีกทีนึงว่าจะให้หุ่นของเราเคลื่อนที่แบบไหนบ้างนั่นเอง

ClicBot ยังสามารถเคลื่อนไหวได้เองแบบอัตโนมัติ พูดคุย ส่งเสียง หรือเต้น ได้หลากหลายผ่านการเขียนโปรแกรม ซึ่งทำให้ ClicBot กลายเป็นของเล่นที่พลิกแพลงได้หลากหลายสุดๆ ไปเลย

ClickBot ชุดพื้นฐาน (หัว, ลำตัว, ล้อ) มีราคาอยู่ที่ 249 ดอลลาร์ หรือราวๆ 7,500 บาท สำหรับชิ้นส่วนอื่นๆ สำหรับซื้อมาอัพเกรดตัวหุ่นยนต์มีราคาตั้งแต่ 349 ดอลลาร์ ไปจนถึง 799 ดอลลาร์

 

3. GJS Robot หุ่นยนต์ต่อสู้แบบ Motion Control

ยังต่อกันด้วย Gadget ประเภทหุ่นยนต์ แต่คราวนี้เน้นไปที่ความสนุกสนานในการต่อสู้กันมากกว่า เพราะ GJS Robot เป็นหุ่นยนต์เท่ๆ ที่มี 4 ขา ขับเคลื่อนด้วยล้อ และมี 2 มือ ที่ถือทั้งดาบยักษ์ และโล่สำหรับป้องกัน ซึ่งส่วนที่ทำให้ GJS Robot เจ๋งกว่าหุ่นยนต์วิทยุบังคับอื่นๆ ก็คือคอนโทรลเลอร์ของมันนี่แหละ

คอนโทรลเลอร์ของ GJS Robot ใช้คันบังคับแบบ Motion Control โดยแขนของหุ่นยนต์จะขยับตามท่าทางของคอนโทรลเลอร์ที่เราถืออยู่ คือประมาณว่าเราสะบัดมือไปทางไหน แขนของหุ่นก็จะฟาดฟันไปตามนั้นด้วยนั่นเอง นอกจากนี้ GJS Robot ยังสามารถตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์ทำท่าทางต่างๆ ได้แบบอัตโนมัติด้วยนะ

Play video

GJS Robot มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือรุ่น Ganker Ex ซึ่งเป็นหุ่นสำหรับโจมตีระยะใกล้ด้วยดาบยักษ์ และโล่สำหรับป้องกัน แต่ถ้าใครไม่ถนัดแนวไฟเตอร์ ก็ต้องหันมาที่รุ่น GEIO ซึ่งเป็นหุ่นโจมตีระยะไกลด้วยปืนเลเซอร์ โดยหุ่นทั้ง 2 รุ่น จะมีเซ็นเซอร์อยู่ตามตำแหน่งต่างๆ บนตัว เมื่อโดนฟาดด้วยดาบ หรือโดนยิงด้วยปืนเลเซอร์ พลังชีวิตของหุ่นตัวนั้นก็จะลดลงไปเรื่อยๆ และถ้าพลังหมดเมื่อไหร่หุ่นก็จะหยุดการเคลื่อนไหวทันที

GEIO หุ่นยนต์โจมตีระยะไกล

จากการทดลองเล่นแล้วก็พบว่า…ให้ตายเหอะ มันสนุกจริงๆ อะ ได้บังคับหุ่นยนต์ของจริง ไปไล่ฟันหุ่นยนต์อีกตัว หรือต้องคอยบังคับให้หุ่นของเราวิ่งหนีปืนกลเพื่อพยายามเข้าประชิดเอาดาบไปฟันให้ถึงตัวศัตรู ซึ่งมันได้อารมณ์คนละแบบกับการเล่นวิดีโอเกมเลยล่ะ

 

4. Prinker เครื่องสักลายสำหรับคนขี้เบื่อ และไม่ต้องเจ็บตัว

ชิ้นนี้เป็น Gadget เก๋ๆ สำหรับคนที่อยากมีรอยสักเท่ๆ แต่ไม่อยากเจ็บตัว และขี้เบื่อ อยากเปลี่ยนรอยสักบ่อยๆ เพราะเจ้า Prinker เป็นอุปกรณ์ปริ๊นท์รอยสักชั่วคราวบนผิวหนังได้ภายในเวลาแค่ไม่ถึงวินาที โดยเราสามารถออกแบบลายสักได้ตามใจ หรือจะไปหาดาวน์โหลดรอยสักที่มีการออกแบบเอาไว้แล้วก็ได้

วิธีการใช้งานก็แสนจะง่ายดาย แค่ดาวน์โหลดแอปมาติดตั้งในมือถือ จับคู่กับเครื่อง Prinker เลือกลาย และปริ๊นท์ได้เลย ตอนจะปริ๊นท์ก็แค่ถือ Prinker เอาไว้ แล้วรูดเครื่องไปตรงบริเวณที่เราต้องการ เท่านี้ก็ได้รอยสักเท่ๆ อยู่บนผิวหนังแล้วล่ะ

เลือกลายหรือออกแบบเองจากแอป

รอยสักจาก Prinker จะอยู่บนผิวหนังได้เต็มที่ 3 วัน ซึ่งสามารถล้างออกได้ง่ายๆ ด้วยน้ำ + สบู่ เท่านั้นเอง

Prinker สามารถปริ๊นท์ได้ทั้งรอยสักสีดำ หรือแบบสีก็ได้ โดยตลับหมึก 1 ตลับสามารถปริ๊นท์ได้ราวๆ 1,000 ครั้งเลยทีเดียว

Play video

 

5. Manta5 จักรยานน้ำโคตรเทพ

ชิ้นนี้เหมาะสุดๆ สำหรับคนชอบกีฬาทางน้ำ แบบล้ำๆ โคตรเท่ และแหวกแนว รับรองว่าใครเห็นก็ต้องอ้าปากค้างกันเป็นแถวๆ เพราะมันคือจักรยานน้ำ Manta5 ซึ่งใช้การขับเคลื่อนด้วยการปั่นแบบจักรยานทั่วไป ซึ่งเจ้าตัว Manta5 เวลาลงน้ำปุ๊บมันก็จะค่อยๆ จมลงไปทีละนิด แต่พอเราเริ่มปั่นเท่านั้นแหละ มันก็จะลอยขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำและแล่นไปได้แบบเรียบๆ สมูธๆ เหมือนกับการขี่จักรยานบนพื้นถนนเลย ซึ่งใครที่มองเห็นก็จะคิดว่าเราขี่จักรยานอยู่บนผิวน้ำยังไงยังงั้นเลย

การขับเคลื่อนของ Manta5 จะใช้ทั้งพลังงานแบตเตอรี่ร่วมกับพลังงานจากที่ปั่นซึ่งใช้แรงจากคนในการหมุนใบพัดเพื่อทำให้ตัวจักรยานลอยตัวอยู่บนผิวน้ำพร้อมกับเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ โดยมันสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 60 นาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 21 กม. / ชม.

ใครสนใจอยากได้มาขี่เท่ๆ ไว้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาก็ต้องกระเป๋าหนักกันหน่อย เพราะ Manta5 มีราคาอยู่ที่ 3,745 ดอลลาร์ หรือราวๆ 114,000 บาท เท่านั้นเอ๊งงง…

Play video

 

6. Tapp Lock แม่กุญแจปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือ, บลูทูธ, รหัสมอร์ส

หมดปัญหาลืมกุญแจ กุญแจหาย แล้วเข้าบ้านไม่ได้ไปเลย เพราะ Tapplock เป็นแม่กุญแจอัจฉริยะที่จะปลดล็อคด้วยการใช้ลายนิ้วมือเท่านั้น แค่แตะปึ๊ดเดียวก็ปลดล็อคได้ทันทีเหมือนกับหน้าจอมือถือ หมดห่วงเรื่องกุญแจไปได้เลย เพราะไม่ต้องมาปั๊มเพื่อให้พอดีกับจำนวนคนในบ้าน แต่สามารถบันทึกลายนิ้วมือใส่เข้าไปได้มากถึง 500 นิ้ว ซึ่งเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือที่ใช้กับ Tapplock มีความแม่นยำสุดๆ ถึง 99.999% แถมยังปลดล็อคได้ในเวลาแค่ 0.8 วินาทีเท่านั้น

Tapplock ใช้แบตเตอรี่ในตัวที่ชาร์จเต็ม 1 ครั้งสามารถอยู่ได้ยาวๆ ถึง 2 ปี และหากว่าแบตเตอรี่หมดเมื่อไหร่ มันก็จะล็อคค้างเอาไว้แบบนั้นเลย และหากว่าจะปลดล็อคตอนแบตหมดก็แค่หา Power Bank มาเสียบสายแล้วปลดล็อคได้เลยง่ายๆ

Tapplock มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ คือ Tapplock One+ เหมาะสำหรับการล็อคประตูบ้าน ที่ต้องการความแข็งแรง และทนทาน ส่วนอีกรุ่นคือ Tapplock lite ซึ่งเหมาะกับการล็อคตู้ หรือใช้กับล็อคเกอร์ต่างๆ ที่ไม่ต้องตากแดดตากฝน

อ้อ…Tapplock ยังมีวิธีในการปลดล็อคนอกเหนือจากลายนิ้วมือด้วยนะ โดยเราสามารถปลดล็อคด้วยการใช้รหัสมอร์ส คือการกดที่ตัวก้านล็อคเป็นจังหวะที่เราตั้งเอาไว้ (เช่น สั้น-ยาว-ยาว-สั้น) หรือจะปลดล็อคด้วยสัญญาณบลูทูธผ่านมือถือก็ได้ ทำให้เราสามารถส่งโค้ดหรือคำอนุญาตให้คนอื่นปลดล็อคด้วยมือถือตัวเองได้เลย

 

7. Stand By D โคมไฟอัจฉริยะ เก็บกวาดของบนโต๊ะได้เอง

Gadget ชิ้นนี้จริงๆ แล้วยังอยู่ในช่วงพัฒนาเท่านั้น ซึ่งมันเหมาะสุดๆๆๆๆ กับคนที่มีโต๊ะเรียน หรือโต๊ะทำงานรกๆ เพราะมันเป็นโคมไฟอัจฉริยะที่มาพร้อมกับแขนกลสำหรับหยิบของบนโต๊ะ ไปเก็บได้เอง

โดยหลังจากเราลุกออกไปจากโต๊ะซักพัก เจ้าโคมไฟตัวนี้ก็จะสแกนพื้นผิวบนโต๊ะเพื่อดูว่ามีอะไรวางอยู่บ้าง เช่น ดินสอ, ปากกา, ยางลบ, กาวแท่ง, สก๊อตเทป ฯลฯ จากนั้นแขนกลที่ซ่อนอยู่ก็จะขยับออกมาหยิบของเหล่านั้นไปเก็บไว้ในตะกร้า บริเวณที่เราได้ตั้งโปรแกรมเอาไว้นั่นเอง แต่ยังมีข้อจำกัดอยู่ตรงที่มันไม่สามารถหยิบของที่แบนราบไปกับพื้นโต๊ะอย่างเช่นกระดาษ หรือไม้บรรทัดนะครับ

 

8. Mo Desk โต๊ะทำงานพกพา สะพายไปได้ทุกที่

ชิ้นนี้เป็น Gadget สำหรับคนที่ทุกเวลา และทุกสถานที่คือที่ทำงาน เพราะ Mo Desk เป็นโต๊ะทำงานพกพาให้เราสามารถสะพายมันไปได้ทุกที่ เพราะขนาดของมันเท่ากับกระเป๋าโน้ตบุ๊คแบบสะพาย และมีน้ำหนักเบาสุดอยู่ที่ราวๆ 2 กก. เท่านั้น เมื่อกางออกมาแล้วมันจะมีความสูงอยู่ที่ 28 นิ้ว และมีที่สำหรับวางโน้ตบุ๊คได้ 1 เครื่อง พร้อมกับมีที่สำหรับวางเมาส์อีกต่างหาก

Mo Desk มีวัสดุให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ คือขาพลาสติก และขาอลูมิเนียม โดยแต่ละรุ่นจะรองรับการใช้งานโน้ตบุ๊คได้ดีที่สุดที่ขนาดไม่เกิน 15.6 นิ้ว ส่วนการพับและกางเพื่อใช้งานก็กินเวลาไม่เกิน 30 วินาที เท่านั้นเอง

 

9. Phiz เครื่องสแกน 3 มิติ สำหรับมือถือ

Gadget เจ๋งๆ อย่าง Phiz เป็นเครื่องสแกน 3 มิติ สำหรับใช้งานกับมือถือทั้ง Android และ iOS ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถพกใส่กระเป๋าหิ้วไปใช้งานนอกสถานที่ได้สบายๆ โดย Phiz จะประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์สแกนที่จะใช้งานร่วมกับมือถือ และแท่นหมุนสำหรับวางวัตถุที่เราต้องการสแกน

การสแกนวัตถุแบบ 3 มิติ แต่ละครั้งจะใช้เวลาราวๆ 3 นาที และสามารถสแกนวัตถุที่มีขนาดใหญ่ได้ถึง 40 x 40 x 40 ซม. ซึ่งให้รายละเอียดได้ถึงระดับ 0.2 มม. และยังมี Lighting Technology เพื่อเก็บรายละเอียดพื้นผิวของวัตถุได้แม่นยำทั้งแสง และสี

 

10. Watergen เครื่องผลิตน้ำจากอากาศ

ปิดท้ายด้วยนวัตกรรมเพื่อชาวโลกแบบจริงๆ จังๆ เพราะมันคือเครื่องผลิตน้ำจากอากาศ ที่แค่เอาไปวางตั้งไว้เฉยๆ แล้วเปิดเครื่อง จากนั้นรอซักพักให้มันดักจับความชื้นในอากาศแล้วกรองออกมาเป็นน้ำสะอาดพร้อมดื่มได้เลย นอกจากนี้การทำงานของมันยังเป็นการฟอกอากาศภายในตัวอีกด้วย ทำให้การตั้งเครื่องนี้ไว้ในห้องหรือออฟฟิศ ได้ประโยชน์พร้อมกันทีเดียว 2 อย่าง ทั้งเป็นเครื่องกดน้ำ และเครื่องฟอกอากาศเลยล่ะ

Watergen มีให้เลือกใช้ตามการใช้งานถึง 3 รุ่น โดยรุ่น GENNY จะมีขนาดเท่ากับเครื่องกดน้ำสำหรับใช้ตามบ้านหรือออฟฟิศธรรมดาๆ ผลิตน้ำได้วันละ 30 ลิตร, รุ่น GEN-M ERV เป็นเครื่องผลิตน้ำสำหรับติดตั้งกับยานพาหนะเพื่อใช้งานตามแหล่งภัยพิบัติ หรือพื้นที่ที่ห่างไกลจากแหล่งน้ำสะอาด สามารถผลิตน้ำได้วันละ 800 ลิตร, รุ่นใหญ่ GEN-L เหมาะสำหรับการใช้งานตามโรงงาน หรือสถานที่ที่มีคนเยอะๆ เพราะสามารถผลิตน้ำได้ถึงวันละ 5,000 ลิตร

 

จริงๆ แล้วในงาน CES 2020 ยังมี Gadget อื่นๆ จากเหล่า Startup ที่น่าสนใจอีกเพียบ รวมถึงยังมี Startup ที่เราไม่เห็นอีกก็เยอะ เพราะงานนี้กว้างใหญ่สุดๆ แถมยังรวบรวมเหล่า Startup เอาไว้มากมายเป็นพันๆ รายเลยทีเดียว โดย Gadget  เจ๋งๆ ทั้ง 10 ชิ้นที่เรานำมาให้ดูกันคราวนี้ก็น่าจะถูกใจหลายๆ คนที่เป็นสายเทคโนโลยีกันบ้างล่ะ