บริษัทจัดการรหัสผ่าน SplashData ได้ออกมาเผยแพร่เกี่ยวกับ Password ยอดแย่ประจำปีครั้งที่ 9 ในปี 2019 โดยประเมินจากรหัสผ่านที่หลุดรั่วไหลมากกว่า 5 ล้านรหัสบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งพบว่ารหัส “123456” ยังคงครองแชมป์ Password ยอดแย่ที่สุด 7 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ส่วนอันดับที่เหลือจะมีอะไรบ้างไปดูกันครับ

จริงๆ การตั้ง Password ให้กับบัญชีต่างๆ สำหรับบริการที่เราใช้ไม่ว่าจะเป็น Email ของแบรนด์นู้นแบรนด์นี้, โซเชียล, เว็บที่เราเป็นสมาชิกอยู่ ฯลฯ จะให้มาตั้ง Password แยกกันแล้วใครจะไปจำได้หมด และนั่นก็คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลายคนชอบตั้ง Password ที่มันจำได้ง่ายๆ เดาง่ายๆ ขึ้นมา เพราะวันนึงเกิดลืมขึ้นมาก็ยังพอเดาสุ่มเอาได้นั่นเอง…แต่ Password ที่ทำให้เราเดาได้ง่ายๆ หมายความว่า คนอื่นก็สามารถเดาได้เช่นกัน และนี่คือ 25 อันดับ Password ยอดแย่ประจำปี 2019 ที่คนชอบใช้กันครับ

25 อันดับ Password ยอดแย่ประจำปี 2019

  1. 123456
  2. 123456789
  3. qwerty
  4. password
  5. 1234567
  6. 12345678
  7. 12345
  8. iloveyou
  9. 111111
  10.  123123
  11.  abc123
  12. qwerty123
  13. 1q2w3e4r
  14. admin
  15. qwertyuiop
  16. 654321
  17. 555555
  18. lovely
  19. 7777777
  20. welcome
  21. 888888
  22. princess
  23. dragon
  24. password1
  25. 123qwe

จากสถิติทั้งหมดสังเกตว่าพาสเวิร์ดยอดฮิตที่ใช้คำว่า “password” ตกลงไปอยู่ในอันดับที่ 4 หลังจากที่ครองอันดับ 1 – 2 มาหลายปี โดยในปีนี้พาสเวิร์ดยอดแย่อย่าง “123456” ก็ยังคงอยู่ในอันดับ 1 หลังจากครองแชมป์มายาวนานตั้งแต่ปี 2013

ยังมีพาสเวิร์ดยอดแย่มาใหม่ถึง 2 อันด้วยกัน คือ “1q2w3e4r” (อันดับ 13) และ “qwertyuiop” (อันดับ 15) ซึ่งดูเผินๆ เหมือนจะเป็นรหัสผ่านที่ยาก แต่เอาจริงแล้วก็คือการพิมพ์ไล่ตามลำดับตัวอักษรบนคีย์บอร์ดนั่นเอง นอกจากนี้ SplashData ยังได้กล่าวอีกว่ารหัสผ่านที่หลุดออกมาจาก 5 ล้านรหัส มีถึง 10% ที่ใช้รหัสผ่านใน 25 อันดับนี้ และเป็นรหัส “123456” เกือบ 3% ส่วนสถิติปีอื่นๆ ดูจากได้รูปด้านล่างได้เลยครับ

สำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับการตั้ง Password ที่ดี ทาง SplashData ได้ให้แนวทางไว้ 3 ข้อ คือ

  • ใช้เป็นรหัสผ่านที่มีตัวอักษร 12 ตัวขึ้นไป ผสมกับตัวอักษรหลายประเภท ทั้งตัวพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ และตัวเลข
  • ใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกันไปในแต่ละบริการ ไม่ควรใช้รหัสผ่านเดียวกับทุกๆ อย่าง เพราะถ้ารหัสหลุดไปทีเดียว เท่ากับคนร้ายสามารถเข้าถึงได้ทุกบัญชี
  • ใช้โปรแกรมจัดการรหัสผ่าน เพื่อช่วยเราตั้งรหัสผ่านแบบสุ่ม และล็อกอินเข้าอัตโมมัติ

อย่างไรก็ตามใครที่ตั้ง Password ติดอยู่ใน 25 อันดับนี้แนะนำว่าควรเปลี่ยนให้เร็วที่สุดเลยนะครับ หรือถ้าโปรแกรมตัวไหนรองรับการใช้รหัส 2 Factor หรือ 2FA ก็แนะนำให้เปิดไว้จะช่วยกันการแฮคได้ดีขึ้นอีกขั้นหนึ่งเลยนะครับ โดยเฉพาะพวกรหัสเกี่ยวกับธุรกรรมการเงิน, Facebook, Line ฯลฯ เพราะโดนแฮคเข้าไปทีนี่ไม่คุ้มเลย

 

ที่มา : prweb, wiki