ผู้ใช้ Android ปี 2024 เตรียมยิ้มแฉ่ง เพราะ Google เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ กว่า 5 ฟีเจอร์เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้งาน เสริมความเก่งให้กับ Google AI on Android โดยฟีเจอร์เด็ดที่น่าสนใจคือ Scam Setection Alerts ที่สามารถวิเคราะห์สายสนทนาพวกคอลเซนเตอร์มิจฉาชีพด้วย AI แบบ Real-Time แบบไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ตเลย

Circle to Search ฉลาดขึ้น ช่วยทำการบ้านได้

Google เตรียมอัปเดตเพิ่มความเก่งให้กับฟีเจอร์ Circle to Search ที่จะเข้ามาช่วยให้นักเรียนนักศึกษาทำการบ้านได้ง่ายขึ้น โดยตัว AI จะไม่ได้ตอบคำตอบแบบสั้น ๆ แบบส่ง ๆ แต่จะสามารถเข้าใจ Prompt และตอบปัญหาต่าง ๆ ได้ลึกซึ้งขึ้น

ผู้ใช้งานสามารถวงโจทย์การบ้านต่าง ๆ เพื่อให้ AI ช่วยสอนอธิบายแบบทีละขั้น ทั้งโจทย์คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ วิเคราะห์ข้อมูลที่มีความซับซ้อนในรูปแบบสูตรสัญลักษณ์ แผนภูมิไดอะแกรม กราฟ และอื่น ๆ ได้ฉลาดละเอียดขึ้น โดยที่ไม่ต้องอัปโหลดเอกสารการบ้านแบบเต็ม ๆ เลย

เบื้องต้นฟีเจอร์ใหม่บน Circle to Search จะอัปเดตให้เฉพาะมือถือ Google Pixel และ Samsung Galaxy ที่รองรับฟีเจอร์ดังกล่าวตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนรุ่นไหนที่ยังไม่ได้ Google ก็มีแผนอัปเดตเพิ่มจำนวนอุปกรณ์ที่รองรับให้มากขึ้นเป็นสองเท่าก่อนสิ้นปี 2024 ด้วย

แอป Gemini on Android ฉลาดขึ้น วิเคราะห์ สรุปวิดีโอ หรือเนื้อหาในไฟล์ PDF ได้

แอป Gemini on Android จะได้อัปเดต 3 ฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มหน้าต่างซ้อน Overlay ทับแอปอื่น ๆ สามารถสั่งให้ Generate รูปภาพ แล้วลากรูปที่ได้เพื่อแชร์ต่อใน Gmail, Google Message หรือแอปอื่นได้สะดวกมากขึ้น

ส่วนฟีเจอร์ที่ 2 ที่เพิ่มเข้ามาคือ Ask this video ที่สามารถนำคลิปบน YouTube มาแปะบนแอป Gemini เพื่อสรุปวิดีโอ หรือถามคำถามที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเนื้อหาในวิดีโอได้

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาให้เฉพาะผู้ใช้งาน Gemini Advance แบบเสียเงินคือ Ask this PDF สามารถแปะไฟล์ PDF ให้ Gemini ช่วยสรุปประเด็น ถามคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาในไฟล์ได้เลย โดยที่เราไม่ต้องเลื่อนอ่านเอง

โดย 3 ฟีเจอร์ใหม่บนแอป Gemini on Android จะปล่อยทยอยอัปเดตให้ได้ใช้งานกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งทาง Google ไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าเมื่อไหร่

Google Pixel เตรียมได้ใช้ Gemini with Full Multimodal

มือถือ Google Pixel ที่ติดตั้งมากับ Gemini Nano AI ที่เน้นประมวลผลแบบ On-Device จะได้อัปเดตโมเดลใหม่ที่เก่งขึ้นไปอีก โดยมีชื่อเรียกว่า Gemini with Full Multimodal ภายในปี 2024 นี้

ซึ่ง Gemini with Full Multimodal จะเพิ่มเติมความสามารถจากเดิมที่ทำได้แค่ Generate ผ่านการกรอกข้อความอย่างเดียว แต่โมเดลใหม่นี้จะสามารถเข้าใจข้อมูลผ่านภาพ, เสียง และภาษาพูดต่าง ๆ ได้ลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนการประมวลผลทุกอย่างจะเกิดขึ้นในรูปแบบ On-Device ผ่านชิปในเครื่องโดยตรง ไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตเพื่อส่งข้อมูลไปประมวลผลบน Cloud

ฟีเจอร์ TalkBack ใช้ AI อธิบายสิ่งของเป็นเสียงให้ผู้พิการทางสายตา

แน่นอนว่าเมื่อ Gemini with Full Multimodal ฉลาดขึ้น ก็จะได้ฟีเจอร์ที่ฉลาดขึ้นไปอีกอย่าง TalkBack ซึ่งเป็นโหมดช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา สามารถอัปโหลดภาพเพื่อให้ AI ช่วยอธิบายวัตถุต่าง ๆ ในภาพเป็นเสียงให้อย่างละเอียด ซึ่งนอกจากจะสามารถอธิบายวัตถุได้แล้ว ยังช่วยวิเคราะห์ว่าภาพที่ครอบครัวส่งมาให้มีรายละเอียดเป็นอย่างไร

และเมื่อใช้ Gemini with Full Multimodal ในการประมวลผล นั่นหมายความว่าขั้นตอนทุกอย่างถูกประมวลผลในรูปแบบ On Device ไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งาน แต่อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้น่าจะได้ใช้เฉพาะบนมือถือ Google Pixel ในช่วงแรกเท่านั้น โดยจะอัปเดตภายในปี 2024 นี้

Scam Detection Alerts เตือนทันทีเมื่อมิจฉาชีพโทรมา

Scam Detection Alerts เป็นอีก 1 ฟีเจอร์ใหม่ที่จะมากับ Gemini with Full Multimodal ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยแจ้งเตือนเมื่อมิจฉาชีพ หรือแก๊งคอลเซนเตอร์โทรมาหาเรา โดยตัว AI จะจับบทสนทนาที่มิจฉาชีพมักใช้หลอกเรา เช่นเมื่อฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นตัวแทนจากธนาคารเร่งให้รีบโอนเงิน, หลอกใช้ซื้อบัตรเติมเงิน หรือขอรหัส PIN ที่ใช้ทำธุรกรรมส่วนตัว ระบบก็จะเด้งแจ้งเตือนให้ทราบทันทีว่าคนที่คุณกำลังคุยด้วยเป็นมิจฉาชีพ

ซึ่งถ้าใครกลัวว่า Google จะแอบฟัง เอาข้อมูลบทสนทนาของเราไปฝากไว้บน Cloud อีกรายก็ไม่ต้องกังวล เพราะ Google ยืนยันว่าทุกอย่างประมวลผลในรูปแบบ On Device ไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งาน แต่น่าเสียดายที่ในช่วงแรกฟีเจอร์นี้น่าจะเปิดให้ใช้งานเฉพาะใน Google Pixel ก่อนเท่านั้นภายในปี 2024 นี้

ที่มา: Google