ในยุคนี้ที่บรรดาสมาร์ทโฟนยี่ห้อต่างๆ เริ่มตัดฟีเจอร์หนึ่งที่สำคัญสำหรับคอเพลงไปอย่างช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งบีบให้ผู้ใช้ไปหา adapter มาต่อเพิ่มไม่ก็ต้องซื้อหูฟัง bluetooth หรือไร้สายมาใช้ ซึ่งก็ถือว่าสะดวกในการใช้งานดีเหมือนกัน วันนี้ก็เลยจะมาแนะนำ 5 หูฟังไร้สายที่เหมาะกับเพลงแนว Pop/Rock ในงบไม่เกิน 5,000 บาทให้รู้จักกัน
JBL E45BT
เป็นหูฟังประเภท On-Ear ไร้สายราคาคุ้มค่า มีแนวเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ JBL ก็คือมีเวทีเสียงที่โปร่ง (แต่ยังโปร่งไม่เท่าหูฟังแบบ open-back) เสียงย่านกลางเช่นเสียงร้องจะสดมาก เนื้อเบสมีพอประมาณไม่แห้งหรือหนักจนเกินไป สามารถแยกเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นออกจากกันได้ค่อนข้างดี ชาร์จแบตเต็ม 1 ครั้งฟังเพลงได้ประมาณ 16 ชั่วโมง มีสีแดง, น้ำเงิน, ดำ, ขาว และเขียว สนนราคาอยู่ที่ 3,990 บาท
สเปค JBL E45BT
- ขนาดไดรฟ์เวอร์: 40 มิลลิเมตร
- ย่านเสียงที่รองรับ: 20 – 20,000Hz
- ความต้านทาน: 32 โอห์ม
- ระยะเวลาในการชาร์จ: 2 ชั่วโมง
- Bluetooth 4.0
Sony MDR ZX770BN
เป็นหูฟังระดับราคาเริ่มต้นที่ใส่ฟีเจอร์ของหูฟังราคาสูงๆมาอย่างครบครัน ทั้งระบบตัดเสียงรบกวนด้านนอก (active noise-cancelling) และ aptX (อธิบายไว้ด้านล่าง) สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นได้อย่างรวดเร็วด้วย NFC มีเสียงย่านเบสที่หนักตามสไตล์หูฟัง Sony แต่ไม่ถึงกับล้นจนมากลบเสียงย่านอื่นมากนัก ทำให้เสียงร้องไม่ถอยมากจนเกินไป หูฟังแนวนี้ยังเอาไปฟังเพลงแนว EDM ได้ดีอีกด้วย ชาร์จแบตเต็ม 1 ครั้งฟังเพลงได้ประมาณ 13 ชั่วโมง สนนราคาอยู่ที่ 4,290 บาท
สเปค Sony MDR ZX770BN
- ขนาดไดรฟ์เวอร์: 40 มิลลิเมตร
- ย่านเสียงที่รองรับ: 8 – 20,000Hz
- ความต้านทาน: 50 โอห์มเมื่อใช้กำลังขับจากเครื่องเล่นโดยตรง, 32 โอห์มเมื่อเปิดหูฟัง
- ระยะเวลาในการชาร์จ: 2.5 ชั่วโมง
X-mini Evolve
ปกติ X-mini ก็เป็นยี่ห้อที่ชอบทำสินค้าออกมาดูแหวกแนวกว่าชาวบ้านเค้าอยู่แล้ว โดยเจ้าหูฟังรุ่น Evolve นี้นอกจากจะใช้เป็นหูฟังทั่วไปแล้ว ยังเป็นลำโพงที่ให้กำลังได้สูงสุดถึง 3 วัตต์อีกด้วย! มีแบตที่อึดถึกทนโดยชาร์จแบตเต็ม 1 ครั้งสามารถใช้โหมดหูฟังได้ถึง 30 ชั่วโมง (ใช้โหมดลำโพงได้ 6 ชั่วโมง) โหมดหูฟังมีเสียงย่านแหลมที่สดชัดเจน เบสลูกใหญ่ฟังสนุก ส่วนเสียงร้องจะไม่ค่อยเด่นซักเท่าไหร่เนื่องจากโดนย่านเบสกลืนไป สิ่งที่ควรระวังคืออย่าลืมเปลี่ยนจากโหมดลำโพงเป็นโหมดหูฟังก่อนใส่ฟังบนหัว ไม่งั้นหูอาจแตกได้ เป็นข้อเสียอย่างนึงของหูฟังตัวนี้ มีสีขาวและดำให้เลือก สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 3,590 บาท
สเปค X-mini Evolve
- ขนาดไดรฟ์เวอร์: 40 มิลลิเมตร
- ย่านเสียงที่รองรับ: 20 – 20,000Hz
- ความต้านทาน: 16 โอห์ม
- แบตเตอรี่ 1,000mAh
ดูหูฟังใหญ่กันแล้วคราวนี้มาดูหูฟัง in-ear กันบ้าง โดยหูฟัง in-ear ไร้สายเกือบทั้งหมดจะถูกออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย ทำให้ขณะที่กำลังออกกำลังเช่นวิ่ง ไม่ต้องมีสายหูฟังแกว่งไปแกว่งมา เพิ่มความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น หูฟังบางรุ่นเช่น Waterproof Walkman สามารถกันน้ำได้ในระดับที่โฆษณาว่าใส่ว่ายน้ำได้เลย (มีเครื่องเล่นเพลงอยู่ในตัวหูฟัง ไม่ต้องเอาสมาร์ทโฟนลงน้ำไปด้วยนะ)
JBL Reflect Mini BT
ปกติแล้วหูฟังสำหรับออกกำลังส่วนใหญ่จะให้เสียงเบสที่ค่อนข้างบวมและหนักจนเกินไป แต่ JBL Reflect Mini BT สามารถให้ความสมดุลกับเสียงทุกย่านได้พอดีมากๆ ใช้ฟังเพลงได้ทุกรูปแบบ ชาร์จแบตเต็ม 1 ครั้งใช้ฟังเพลงได้ประมาณ 8 ชั่วโมง กันน้ำระดับ IPX-4 ซึ่งกันเหงื่อระหว่างออกกำลังได้ดี (แต่ล้างน้ำไม่ได้) สายหูฟังเป็นแบบสะท้อนแสงสำหรับให้รถที่ขับมาด้านหลังมองเห็นคนใส่ได้อย่างชัดเจน จุกยางในกล่องมีมาให้ทั้งแบบ in-ear ปกติและแบบมีปีกดามใบหูสำหรับใส่วิ่ง มีสีดำ, แดง, น้ำเงิน และเขียว สนนราคาอยู่ที่ 3,990 บาท
Sony MDR XB50BS
ถ้าหากหูฟังโซนี่ที่ในชื่อรุ่นมี XB อยู่แปลว่าเป็นหูฟังในซีรีส์ Extra Bass หรือมีปริมาณเบสมากเป็นพิเศษนั่นเอง ชาร์จเต็มใช้งานได้ประมาณ 8.5 ชั่วโมง กันน้ำได้ระดับ IPX-4 เหมือนกัน ให้เสียงเบสที่หนักหน่วงดุดัน มีสีแดง, น้ำเงิน และดำให้เลือก สนนราคาอยู่ที่ 2,990 บาท สำหรับคนที่ชอบความตื่นเต้นในการออกกำลัง 555
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับหูฟังทั้ง 5 ตัวที่ยกมาเล่าให้ฟัง ย้ำว่าแนวเสียงต่างๆที่ได้บรรยายไปเป็นเพียงความเห็นของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น ทางที่ดีที่สุดในการเลือกหูฟังก็คือไปลองฟังด้วยตัวเอง เพราะว่าแต่ละคนก็มีวัตถุประสงค์และความชอบในแนวเสียงที่ต่างกัน บางคนชอบเสียงเบสหนักๆไม่สนใจเสียงอื่นเลยหรือบางคนชอบเสียงกลางแหลมของเครื่องดนตรีชนิดต่างๆก็เป็นความชอบส่วนบุคคล ่วนหูฟังไร้สายที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นระดับสายก็มี โดยใช้มาตรฐานอย่าง aptX หรือ LDAC ที่เพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลเพื่อยกระดับการฟังเพลง Hi-res ผ่านอุปกรณ์ Bluetooth ซึ่งอันนี้ก็ต้องรองรับทั้งมือถือและหูฟังด้วย
เอาไว้จะมาอธิบายเรื่องไฟล์เพลง Hi-res ในตอนต่อไป ขอให้มีความสุขในการฟังเพลงครับ
คอเพลง Pop/Rock เหมือนกันนะครับ ผมขอแนะนำหูฟัง เสียงสวรรค์ ราคาติดดิน ตัวหนึ่งคือ KZ ZS3 แบบ earbubs ซื้อมาในราคา 280 บาทลองหาดูในเวบขายของนะครับเป็น order จากจีน เลยถูกถ้าหาซื้อในไทยราคาเต็มๆก็ 690 บาท ขอบอกว่าตัวนี้ท้าสูกทุกตัวได้เลย จากที่ผมลองฟังเทียบมาผมว่าในราคาไม่เกิน 2000 บาทไม่น่าจะมีตัวไหนสู้เขาได้เลย ผมฝังเทียบกับหลายยี่ห้อของหลายคนที่ผมรู้จักทั้ง sony, jvc, bose, soundmagic สู้ได้ทุกตัวเลยครับ
คุณสมบัติเสียงตัวนี้จะได้ครบทุกช่วง สูง กลาง ต่ำ(เบสดีมาก) แถมรายละเอียดมิติเสียงก็ดี ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีครบชัดเจน ฟังแล้วเคลิ้มเลย แบบที่หาในตัวที่แพงกว่า ยี่ห้อดีๆยังไม่ได้เลย นอกจากเสียงที่ดีแล้วหูฟังตัวนี้ยังเป็นแบบถอดเปลี่ยนสายได้ด้วย จะมีสายแบบทองแดงพิเศษเสียงดีขึ้น หรือสายแบบ bluetooth ก็ยังมีในราคาไม่เกิน 300 บาทจากจีนอีกด้วย มันยอดเยี่ยมไปเลยใช่ไหม
แนะนำลองหาอ่านรีวิวเมืองนอกเพิ่มเติมได้ครับ ตัวนี้ได้เรตดีมากเกือบทุกเวบเลย
zs3 เป็น in-ear นี่ครับ ไม่ใช่ earbud
ใช่ครับ ผมพิมพ์ผิดแต่ไม่รู็จะกลับไปแก้ยังไง
สั่ง KZ ZS5 + สาย bluetooth + จุก Spinfit งบ 1500 ตอนแรกมาเล่นๆหลังๆกลายเป็นตัวหลักไปแล้ว
แก้ให้นิดนึงนะครับ
สเปค Sony MDR ZX770BN
ขนาดไดรฟ์เวอร์: 40 มิลลิเมตร
ย่านเสียงที่รองรับ: 8 – 22,000Hz(เมื่อใช้สาย), 20 – 20,000Hz(เมื่อใช้ Bluetooth)
ความต้านทาน: 50 โอห์มเมื่อใช้กำลังขับจากเครื่องเล่นโดยตรง(เมื่อใช้สาย),23 โอห์มเมื่อ Noise-Cancelling(เมื่อใช้สาย), 32 โอห์มเมื่อใช้ Bluetooth
ระยะเวลาในการชาร์จ: 2.5 ชั่วโมง
ตัด JBL Reflect Mini BT ไปเลยครับ
ไม่มีความทนทานเลย ของผมยางที่เป็นตัวสายแตกหมดเลยเห็นเส้นทองแดงข้างในหมด ทั้งๆที่ไม่ค่อยได้ใช้ เก็บไว้ในกล่องอย่างดี
เรื่องเสียงผมเชียร์ kz ครับ แต่ส่วนตัวไม่ชอบสาย bluetooth รุ่นนี้เลย ใครมีสายรุ่นอื่นที่ใช้งานกับ zs3 zs5 แนะนำไหมครับ