เป็นเรื่องซะแล้ว เมื่อเสาส่งสัญญาณ 5G หลายจุดในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ, สก๊อตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) ถูกจุดไฟเผาโดยกลุ่มที่เชื่อในทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) เนื่องจากเชื่อว่าเสาสัญญาณ 5G ดังกล่าวเป็นตัวกลางการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 อีกทั้งวิศวกรและพนักงานต่างๆ ยังถูกกลุ่มดังกล่าวพูดจาดูถูกเหยียดหยามอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้แจงพร้อมกับหลักฐานการวิจัยแล้วหลายรอบ ว่าเทคโนโลยี 5G ไม่มีภัยอันตรายกับมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ไม่ได้ส่งคลื่นสัญญาณทำให้มนุษย์เป็นมะเร็งหรือล้างสมองใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม..ดูเหมือนว่ายังมีคนอีกหลายกลุ่มที่ยังเชื่อเป็นตุเป็นตะว่า เทคโนโลยี 5G คือศัตรูของมนุษยชาติอยู่

โดยล่าสุดเรื่องก็บานปลายกันใหญ่ เพราะมีคนจำนวนหนึ่งในประเทศอังกฤษ ออกมาเผาเสาส่งสัญญาณ 5G  เนื่องจากเชื่อว่า เบื้องหลังของการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 มีต้นตอมาจากคลื่น 5G จากเสาพวกนี้นั่นเอง นอกจากนี้ EE ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเครือข่ายของสหราชอาณาจักร ยังออกมารายงานเพิ่มเติมด้วยว่า เสาส่งสัญญาณของพวกเขาในเมืองเบอร์มิงแฮมก็ถูกเผาด้วยเช่นกัน แม้จะไม่ใช่เสาส่งคลื่น 5G ก็ตาม

นอกจากนี้เหล่าวิศวกร และคนงานที่ทำงานเกี่ยวกับการติดตั้งเสาส่งสัญญาณ 5G ก็โดนผู้คนบางกลุ่มตามท้องถนน ดูถูกและเหยียดหยามต่างๆ นาๆ เนื่องจากคนพวกนั้นเชื่อว่าคลื่น 5G จะคร่าชีวิตของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตจนหมด ทั้งๆ ที่คนกลุ่มนั้นไม่มีข้อมูลหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ได้เลย

จนทำให้ล่าสุด 4 ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการสัญญาณมือถือในสหราชอาณาจักร อย่าง EE, Three, O2 และ Vodafone ต้องออกหนังสือชี้แจง ขอร้องให้คนกลุ่มนั้นหยุดการกระทำดังกล่าว โดยมีเนื้อความว่า

นอกจากจะไม่มีมูลของความเป็นจริงแล้ว ทฤษฎีสมคบคิดเหล่านี้ยังเป็นอันตรายต่อประชาชน และภาคธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการใช้งานสัญญาณ 5G อีกด้วย อีกทั้งวิศวกรและทีมงานของเรายังถูกรบกวน จนทำขั้นไม่สามารถปฏิบัติงานต่อได้เลยในบางพื้นที่

ดูเหมือนว่า ถ้ายังคงมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ ปัญหาดังกล่าวก็อาจจะลุกลามไปเป็นปัญหาระดับชาติได้เลย เพราะประเทศในแถบนั้นกำลังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้การใช้งานระบบเครือข่ายความเร็วสูงก็ยิ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินงานต่างๆ นั่นเองครับ

 

ที่มา: gizmochina , theverge