หลังจากที่ได้เห็นทาง Apple เปิดตัว iOS 8 ไปในงาน WWDC เมื่อวานนี้กันไปแล้วเรียบร้อย ฟีเจอร์ที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดคงจะไม่พ้นเรื่อง Continuity, Health, และ iCloud รวมถึงการเปิด API เพิ่มความยืดหยุ่นให้นักพัฒนาสามารถทำแอพได้หลากหลายมากขึ้น แต่ว่ายังมีฟีเจอร์อีกมากมายบน iOS 8 ที่ไม่ได้ถูกพูดถึงในงาน ซึ่งก็น่าจะเกิดจากที่เวลาไม่พอพูดทั้งหมดได้ แต่ก็มีคนตาดีไปสังเกตเห็นสไลด์รวมฟีเจอร์และรวบรวมออกมาให้เราได้ดูกันครับ สรุปออกมาแล้วมี 8 เรื่องที่น่าสนใจดังนี้ครับ
- Wi-Fi Calling – อย่าเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็น Facetime เพราะฟังก์ชั่นนี้มันมีเอาไว้สำหรับช่วยให้เราสามารถใช้โทรศัพท์ได้ในที่สัญญาณน้อยแต่มี Wi-Fi ยกตัวอย่างเช่น ในคอนโดเราอาจจะมีมุมอับสัญญาณซึ่งให้ตายเครือข่ายก็คงไม่มาติดตั้งเพิ่มให้เป็นพิเศษ แต่ถ้าเกิดว่าเรามีสัญญาณ Wi-Fi ให้ใช้ ก็สามารถให้มันโทรศัพท์ผ่าน Wi-Fi ได้เลย หมดปัญหาเรื่องสัญญาณไม่ดีทันที
แต่ฟังก์ชั่นนี้ต้องมีการรองรับจากเครือข่ายเท่านั้น ซึ่งเข้าใจว่าที่เมืองไทยยังไม่มีเครือข่ายไหนรองรับความสามารถนี้ รวมถึงที่อเมริกาก็น่าจะมีแค่ T-Mobile เท่านั้นที่รองรับ
- Facetime Call Waiting – ถ้าใครได้ลองใช้ Facetime จะพบว่ามันเป็นบริการที่สะดวกมาก ใช้งานได้ทั้งบน WiFi และ 3G รวมถึงมีให้เลือกว่าจะโทรไปเป็นวิดีโอคอลหรือเสียงเปล่าๆก็ได้ และมีคนใช้แทนการโทรศัพท์จากเครือข่ายทั่วไปเลยด้วยซ้ำ ซึ่งก่อนหน้ามีปัญหาว่า Facetime ไม่สามารถรับสายซ้อนได้ ซึ่งก็จะได้รับการแก้ไขใน iOS 8 นี่เองจ้า
- Battery Usage by App – ก่อนหน้านี้อุปกรณ์ iOS จะมีบอกแค่เวลาที่ใช้โทรศัพท์เหลือโดยประมาณ ไม่มีบอกการใช้พลังงานในแต่ละแอพเหมือน Android แต่ว่าบน iOS 8 จะเปิดฟีเจอร์นี้ให้แล้ว เพื่อเราจะได้ตรวจสอบการใช้งานของเราได้ดียิ่งขึ้นครับ
- Travel Time Notification – ถ้าใครมีการลงนัดหมายในปฎิทินและระบุสถานที่เป็นประจำอาจจะเคยได้เห็น Google Now แจ้งเตือนมาว่าเราควรต้องออกจากบ้านเป็นเวลากี่โมงเพื่อที่จะไปถึงที่นัดหมายทันเวลา โดยคิดคำนวนจากระยะทางและสภาพการจรจร ซึ่งเรียกว่ามีประโยชน์ใช้ได้ และทาง Apple ก็คงเห็นประโยชน์นี้เหมือนกันและจับไปยัดให้ใน iOS 8 โดยเราอาจจะได้เห็นใน Siri หรือ Notification Center แต่ไม่มีการระบุมาว่าใช้อะไรในการคำนวน รวมถึงจะเปิดบริการในประเทศใดบ้าง
- Tips App – ไม่รู้ว่านี่เป็นแอพสำหรับคำนวนเงินค่าทิปส์หรือว่าเป็นวิธีการใช้งานมือถือกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร แต่ถ้ามันทำให้ทำงานร่วมกับ Siri ได้ก็คงจะสะดวกไม่น้อย
- แยกจุดโฟกัสและวัดแสง – ก่อนหน้านี้ iOS สามารถล๊อคจุดวัดแสงเวลาถ่ายรูปได้โดยการกดจุดที่ต้องการบนหน้าจอค้างเอาไว้ แต่ว่าจะไม่สามารถเลือกจุดโฟกัสภาพหลังจากนั้นได้ สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปแล้ว การเลือกจุดวัดแสงและจุดโฟกัสแยกกันได้มันจะเป็นอะไรที่ฟินมาก ซึ่งเตรียมตัวได้พบบน iOS 8 ได้เลยจ้า (จำไม่ได้ว่ามี Android รุ่นไหนบ้างที่ทำได้ แต่จำได้ว่ามีแล้วนะ)
- DuckDuckGo – Search Engine น้องใหม่ที่ถือกำเนิดมาด้วยความคิดต่างจาก Google ที่จะไม่เก็บข้อมูลของผู้ใช้เพื่อนำไปขายโฆษณา แม้วันนี้ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักเทียบเท่า Google และ Bing แต่การที่ Apple นำไปเป็นตัวเลือกหนึ่งของ Safari น่าจะเพิ่มฐานผู้ใช้ได้ในระดับนึงเลยทีเดียว
*ข้อนี้ได้มีการแก้ไขเนื่องจากก่อนหน้านี้มีการแปลผิดแบบเนื้อหาไปคนละทางเลย ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ - Braille Keyboard – คีย์บอร์ดอักษรเบรลล์ที่ทำมาเพื่อผู้พิการทางสายตา ตรงนี้ยังไม่แน่ชัดว่า “direct 6 dot braille input” จะเป็นอย่างไร แต่ว่าอันนี้ก็เป็นอีกจุดที่ iOS เค้ามีความน่ารัก คิดค้นเทคโนโลยีมาช่วงคนที่มีความพิการให้ใช้เทคโนโลยีได้เสมอ ซึ่งได้เคยคุยกับคนพิการบางคน เห็นว่า iPhone ทำออกมาได้ดีกว่า Android พอสมควรเลย
ไปดูฟีเจอร์อื่นที่มีได้อีกในสไลด์นี้เลย
This is always my favorite slide pic.twitter.com/GZR5KvnMQy
— Bradley Chambers (@bradleychambers) June 2, 2014
source: TheVerge
แก้คำผิดด้วยครับ หัวข้อ Wi-Fi Calling "หมดปัญญาเรื่องสัญญาณไม่ดีทันที" //ปัญหา
น่าทึ่งตรงตัวอักษรเบรลแฮะว่าใช้เทคโนโลยีอะไรทำ
แยกจุดโฟกัสและวัดแสง
น่าสนมาก ๆ
ปัญหาเรื่องกล้องของโทรศัพท์ที่ผมรู้สึกว่ามันขาดๆ ไป มี…
1. จับโฟกัสได้หลายจุดในหน้าจอเดียว (เหมือนพวกกล้องคอมแพคหรือกล้อง DSLR)
2. แยกจัดโฟกัสและจุดวัดแสง คือปกติถ้าเราจะถ่ายภาพย้อนแสง หรือแสงที่มันสลับสว่างสลับมืด มันจะมีปัญหาเรื่องภาพมืดเกินไปบ้าง สว่างเกินไปบ้าง ทำให้เราต้องหาจุดโฟกัสเพื่อวัดแสดงให้เหมาะสม ซึ่งการเอาจุดโฟกัสวัดแสงนั้นผลดีคือได้แสงตามต้องการ ผลเสียคือภาพที่ต้องการโฟกัสมันไม่คมชัดตามที่ต้องการ การแยกจุดวัดแสดงกับจุดโฟกัสมันจะทำใหเราตั้งค่าแสงได้ตามใจชอบในขณะที่ภาพเป้าหมายที่ต้องการถ่ายก็คมชัดด้วย… ผมเคยเห็นโทรศัพท์แบบนี้ที่ไหนมาก่อนก็ไม่รู้นะ หรือว่าเป็นแอพฯ ก็ไม่ทราบได้ ที่ว่ามีลักษณะแยกจุดโฟกัสกับจุดวัดแสง คือมันจะให้เรา Touch ค้างที่จอ แล้วถูบนหน้าจอไปตามจุดต่างๆ เพื่อวัดแสงตามต้องการเลยครับ ส่วนถ้าจะ Touch to Shot ก็แตะจุดที่ต้องการถ่ายก็จะจับโฟกัสแล้วถ่าย
1.กล้อง g2 mini ผมทำได้นะ อนาคตน่าจะมาทุกรุ่น http://bit.ly/1hy302E
2.Camera FV-5 http://bit.ly/1hy30Qq
แบบตรง 1.05 ของคลิปนี้อ่ะเหรอครับ
http://www.youtube.com/watch?v=VhvlC_H6uTk
DuckDuckGo ไม่ใช่ Search Engine ของ Apple รึเปล่าครับ? ใน Wikipedia ก็ไม่ได้บอกไว้ หน้าเว็บของ DuckDuckGo เองก็ไม่ได้บอกความสัมพันธ์กับ Apple
ขอบคุณครับ >__<~ #ขออภัยในความผิดพลาดครั้งนี้ด้วย
DuckDuckGo ใช่เหรอ ไม่น่าใช่ของ Apple นะ
ถ้า apple ทำ Search Engine จริง คงเป็นข่าวใหญ่แล้วล่ะครับ
เอ่อ อันนี้ผมแปลได้มั่วมากจริงๆครับ ขอบคุณที่ติงมาครับ #อาย #เฟล
:'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'(
Camera FV-5
ผมใช้ตัวนี้ วัดแสง กับ โฟกัสคนละจุดกันได้ ลองกับ true beyond 3g ได้ แต่ลองกับ note 10.1 – 2010 ไม่ได้
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.flavionet.android.camera.pro&hl=th
วิธีใช้คือ
1.แตะค้างที่จอ แล้วมันจะมีจุดวันดแสงมาให้เลื่อนไปที่ๆต้องการ
2.แล้วแตะที่ๆต้องการโฟกัส (ตอนนี้บนจอจะมี 4เหลี่ยมหน้าตาไม่เหมือนกัน 2 อัน วัดแสง กับโฟกัส )
3.แชะ
Note II กดค้างที่จอแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ คงไม่รองรับ
Wi-Fi Calling กับ Braille Keyboard นี่น่าสนใจครับ
ส่วน Tips App ไม่รู้ว่าคืออะไร
แยกจุดโฟกัสและวัดแสง
– ที่มากับรอมเลย สมัยก่อน Cyanogen จดเป็นบริษัทแอพ Focal ก็ทำได้ครับ พอจดทะเบียนเป็นบริษัทก็เลยแยกตัวออกมาทำเป็นแอพใน Play Store แต่ตัดฟังก์ชั่นวัดแสงแยกกับโฟกัสออกไปแถมไม่เสถียร ผมลบออกไปนานแล้ว แต่เห็นครั้งล่าสุดก็ยังขึ้นสถานะเป็น Beta อยู่
– ส่วนแอพที่ใช้ได้เลยก็มี PerfectShot ให้โหลดได้
แยกจุดโฟกัสและวัดแสง – ก่อนหน้านี้ iOS สามารถล๊อคจุดวัดแสงเวลาถ่ายรูปได้โดยการกดจุดที่ต้องการบนหน้าจอค้างเอาไว้ แต่ว่าจะไม่สามารถเลือกจุดโฟกัสภาพหลังจากนั้นได้ สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปแล้ว การเลือกจุดวัดแสงและจุดโฟกัสแยกกันได้มันจะเป็นอะไรที่ฟินมาก ซึ่งเตรียมตัวได้พบบน iOS 8 ได้เลยจ้า (จำไม่ได้ว่ามี Android รุ่นไหนบ้างที่ทำได้ แต่จำได้ว่ามีแล้วนะ)Huawei Honor 3C ครับ เลือกจุดโฟกัสกับวัดแสงคนละจุดได้
แยกโฟกัสกับรับแสงมันมีแอปที่ทำได้นานแล้วนะ หลายตัวด้วย
ซื้อแอปวัดแสงแยกกับโฟกัสชื่อcamera+ ราคา0.99$ ใช้จนคุ้มแล้วครับ