ใครจะไปคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดในชั้นศาล! ตามรายงานของ The New York Times พบว่าทนายความสหรัฐฯ หรือนาย Steven Schwartz ถูกฟ้องคดีในชั้นศาล หลังใช้ ChatGPT ของ OpenAI ในการเขียนบทสรุปทางกฎหมายเพื่อช่วยเหลือลูกความ แต่ทว่าข้อมูลเหล่านั้นกลับมีเนื้อหาเป็นเท็จ โดยเขาอ้างว่าไม่รู้ว่ามันอาจให้ข้อมูลผิด ๆ

ตามรายงานของ The New York Times ทนายความนามว่า Steven Schwartz จากสำนักงานกฎหมาย Levidow, Levidow & Oberman เป็นตัวแทนในการยื่นฟ้องให้ผู้โดยสารรายหนึ่ง โดยจุดเริ่มต้นมาจาก Roberto Mata เขาอ้างว่าได้รับบาดเจ็บจากสายการบิน Avianca ของโคลอมเบียขณะเดินทางไปสนามบินนานาชาติ John F. Kennedy ในนครนิวยอร์กเมื่อปี 2019 จึงยื่นฟ้องสายการบินแห่งชาติของประเทศโคลัมเบียเพราะถูกรถเข็นเสิร์ฟอาหารชนเข้าที่หัวเข่า

ด้านนาย Steven Schwartz  ถือว่าทำงานในวงการนี้มาอย่างยาวนาน และอยากให้ลูกความชนะคดี ถึงแม้สายการบินอยากให้ยกฟ้องก็ตามแต่เขาเห็นชอบว่าควรดำเนินคดีต่อไปพร้อมยื่นบทสรุปความยาวเอกสารกว่า 10 หน้าให้ แต่เรื่องทั้งหมดดันมาแดงแจ๋ตรงนี้ค่ะ เพราะเขานำข้อมูลที่รวบรวมมาทั้งหมดจาก ChatGPT มาใช้ช่วยในชั้นศาล มิหนำซ้ำข้อมูลยังเป็นเท็จอีกด้วย  

ในส่วนของเอกสารได้อ้างถึงข้อมูลคดีความมากกว่าครึ่งโหล ประกอบไปด้วยคดี Varghese v. China Southern Airlines, Shaboon v. Egyptair, Petersen v. Iran Air, Martinez v. Delta Airlines, Estate of Durden v. KLM Royal Dutch Airlines และ Miller v. United Airlines  แต่โชคกลับไม่เข้าข้างเขา หลังทนายสายการบิน Avianca พบว่าคดีที่ Steven Schwartz ยกมานั้นเป็นของปลอม 

Steven Schwartz ยอมรับว่าใช้ ChatGPT ช่วยเสริมการทำงานจริง แต่ไม่รู้ว่ามันจะสร้างข้อมูลที่เป็นเท็จได้ เขายังแนบไฟลล์ที่ย้ำถึงคดีความตามที่ ChatGPT อ้างถึงว่าเคยเกิดขึ้นจริงซึ่งมีใน Westlaw และ LexisNexis อีกด้วย โดยตัวเขาเองรู้สึกเสียใจมากที่ใช้ ChatGPT และจะไม่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต สำหรับตอนนี้เรื่องของเขาอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล

นับว่าเป็นบทเรียนให้ใครหลายคนได้เห็นภาพมากขึ้น ถึงแม้ ChatGPT จะฉลาดแค่ไหน หรือให้ความสะดวกสบายเราเท่าไหร่ แต่ข้อมูลที่ถูกกลั่นกรองมาก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป

 

 

ที่มา : engadget