AI เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ของวงการ Tech โลก 1 – 2 ปีที่ผ่านมา ทำเอานักลงทุนหลากหลายรายต่างกระโดดเข้ามาร่วมลงทุนกันอย่างไม่ขาดสาย แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าตลาด AI อาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด หลัง Alphabet (บริษัทแม่ Google), Microsoft และ AMD ทำรายได้ Q4 2023 ไม่เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหวังไว้ ทำมูลค่าตลาดบริษัท AI ทั้งหมดร่วงถึง 1.9 แสนล้านเหรียญฯ

Reuters รายงานว่าในช่วงเช้าวันนี้ (ตามเวลาไทย) มูลค่าของบริษัทในเกี่ยวข้องกับวงการ AI ร่วงแรง มูลค่าสูญหายกว่า 1.9 แสนล้านเหรียญฯ หลัง Alphabet รายงานตัวเลขรายได้จากโฆษณาของไตรมาสที่แล้วพลาดเป้าจากที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้หุ้นบริษัทร่วงกว่า 5.6% และถือเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้มูลค่าตลาดสูญหายไป

นอกจากนี้ Alphabet ยังได้รายงานว่าภายในปี เงินลงทุนเพื่อสร้างศูนย์ Data Center เพื่อรองรับเทคโนโลยี AI จะพุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นการบอกแบบนัย ๆ ว่าการแข่งขันในตลาด AI ค่อนข้างรุนแรง และใช้ทุนสูงมาก ๆ เพื่อต่อสู้กับยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft

ซึ่งฝั่ง Microsoft ถึงแม้ว่าจะทำรายได้ได้เข้าเป้าจากที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่แล้วนิดหน่อย ซึ่งเป็นผลจากฟีเจอร์ AI ช่วยดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เข้ามาใช้บริการ Cloud และ Windows แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้รับผลกระทบนิดหน่อย โดยหุ้นก็ได้ร่วงไป 0.7% ในช่วงการซื้อขายนอกเวลาทำการ แม้ว่าจะเพิ่งทำสถิติหุ้นพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม

ส่วนรายได้ในฝั่งของ AI ก็ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะบริการ Cloud อย่าง Microsoft Azure ที่โตขึ้นกว่าเดิมถึง 30% อีกทั้งยังเพิ่งทำมูลค่ารวมบริษัทแตะหลัก 3 ล้านล้านเหรียญฯ พุ่งแซง Apple เป็นที่เรียบร้อยแล้วในปีนี้

AMD ถือเป็นอีก 1 บริษัทที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ โดยหุ้นได้ร่วงไปกว่า 6% หลังเผยตัวเลขรายได้คาดการณ์ในไตรมาสแรกปี 2024 ได้ต่ำจากที่ถูกวิเคราะห์เอาไว้ ถึงแม้ว่าจะตั้งเป้าว่าปีนี้จะทำรายได้จากชิป AI จะมากขึ้นก็ตาม

นอกจากนี้ยังมีฝั่ง NVIDIA ที่ได้รับผลกระทบหุ้นตกลง 2% จากที่เพิ่งเพิ่มขึ้นมา 27% ในช่วงเดือนมกราคม นอกจากนี้บริษัทผลิต Server อย่าง Super Micro Computer ที่ได้รับผลประโยชน์จากกระแส AI ก็ตกลงถึง 3% เช่นกันทั้ง ๆ ที่เพิ่งประกาศทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไตรมาสก่อน

ทั้งนี้การเทขายหุ้นของนักลงทุนอาจสะท้อนให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าตลาด AI จะเติบโตสูงขึ้นมาก ๆ ก็ตาม แต่การแข่งก็สูงมาก ๆ จนต้องใช้ต้นทุนในการลงทุนสูงเป็นเงาตามตัวเช่นกัน และตอนนี้นักลงทุนก็ต่างจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าบริษัท Tech ต่าง ๆ จะรับมือกับความท้าทาย และสร้างรายได้จากธุรกิจ AI ได้อย่างไร

ที่มา: Reuters