Ai+ Smartphone แบรนด์มือถือน้องใหม่สัญชาติอินเดีย นำโดยอดีต CEO ของ Realme India อย่าง Madhav Sheth ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในอินเดียอย่างเป็นทางการ ได้แก่ Ai+ Pulse และ Ai+ Nova 5G ประเดิมตลาด มาพร้อมจุดขายหลัก คือระบบปฏิบัติการ NxtQuantum OS ที่พัฒนาโดยคนอินเดีย เพื่อคนอินเดียโดยเฉพาะ พร้อมฟีเจอร์ AI, ระบบความปลอดภัยแบบ Zero-trust และการจัดเก็บข้อมูลในประเทศ

Madhav Sheth
ai+ smartphone

ฟีเจอร์เด่น Ai+ Pulse และ Ai+ Nova 5G

ด้านดีไซน์

Ai+ Pulse และ Ai+ Nova 5G มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว แบบ TFT IPS ความละเอียด HD+ (1600×720 พิกเซล) รองรับรีเฟรชเรตสูง โดยรุ่น Pulse รองรับ 90Hz ขณะที่ Nova 5G ยกระดับขึ้นไปที่ 120Hz เพื่อการแสดงผลที่ลื่นไหลมากขึ้น ทั้งสองรุ่นยังคงไว้ซึ่งดีไซน์ทันสมัยและหน้าจอใหญ่เต็มตา

ประสิทธิภาพ

สำหรับขุมพลังภายใน Ai+ Pulse ใช้ชิป Unisoc T615 ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและเน้นประหยัดพลังงาน ส่วน Ai+ Nova 5G ขยับขึ้นมาใช้ชิป Unisoc T8200 ที่รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ได้อย่างเต็มรูปแบบ ช่วยเปิดประสบการณ์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในราคาที่ไม่สูงมากนัก

กล้อง AI คมชัด พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานได้ทั้งวัน

Ai+ ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกล้องหลังคู่ โดยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รองรับฟีเจอร์ AI ที่ช่วยปรับแต่งภาพให้เหมาะสมกับสถานการณ์ พร้อมกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายเซลฟี่หรือวิดีโอคอลในชีวิตประจำวัน

แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็ง โดยรุ่น Pulse รองรับการชาร์จ 10W ขณะที่ Nova 5G รองรับชาร์จเร็ว 18W ผ่านพอร์ต USB-C

NxtQuantum OS: ระบบปฏิบัติการสัญชาติอินเดีย เพื่อความปลอดภัยที่มากกว่า

จุดเด่นที่ทำให้ Ai+ แตกต่างจากคู่แข่ง คือระบบปฏิบัติการ NxtQuantum OS ที่พัฒนาขึ้นโดยทีมงานอินเดียทั้งหมด บนพื้นฐานของ Android 15 ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานชาวอินเดียโดยเฉพาะ

  • NxtPrivacy Dashboard : ติดตามการเข้าถึงข้อมูลของแอปต่าง ๆ
  • NxtQuantum PlayStore : แหล่งดาวน์โหลดแอปทางเลือก
  • NxtSafe Space : พื้นที่ส่วนตัวสำหรับเก็บแอปหรือข้อมูลลับ
  • Theme Design Tool : ปรับแต่งธีมได้อิสระ
  • NxtQuantum Community App และ NxtMove App : ช่องทางการเชื่อมต่อกับผู้ใช้รายอื่น และเครื่องมือใช้งานสมาร์ทโฟนแบบอัจฉริยะ

ที่สำคัญ ระบบยังมีมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบ Zero-Trust Architecture และจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ในคลาวด์ของ Google ภายใต้พื้นที่ที่ได้รับการอนุมัติจาก กระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดีย (MeitY)

รองรับการเชื่อมต่อครบ

ทั้งสองรุ่นรองรับการเชื่อมต่อครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi แบบ Dual-band, Bluetooth 5.0, GPS, USB Type-C และที่น่าสนใจคือยังมี ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ซึ่งกำลังเป็นของหายากในสมาร์ทโฟนยุคปัจจุบัน รวมถึงยังมาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง

สเปค Ai+ Pulse และ Ai+ Nova 5G

Ai+ PulseAi+ Nova 5G
จอภาพพาเนลHD+ TFT IPS
ขนาด6.7 นิ้ว
ความละเอียด1600 x 720 พิกเซล
ความสว่าง450 นิต
อัตรารีเฟรช90Hz120Hz
ประสิทธิภาพชิปเซตUnisoc T615Unisoc T8200 (รองรับ 5G)
หน่วยความจำ4GB / 6GB6GB / 8GB
ความจุ64GB / 128GB
รองรับ microSD สูงสุด 1TB
128GB
รองรับ microSD สูงสุด 1TB
ระบบปฏิบัติการNxtQuantum OS
บนพื้นฐาน Android 15
กล้องกล้องหลัก50MP50MP (ƒ/1.8)
กล้องเสริมไม่ระบุความละเอียด
กล้องหน้า5MP (f/2.0)
ระบบเสียงลำโพงเดี่ยว
การเชื่อมต่อเครือข่าย4G5G
Wi-FiWi-Fi 5
Bluetooth5.0
พอร์ตUSB Type-C 2.0
หูฟัง 3.5 มม.มี
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง
แบตเตอรี่ความจุ5,000 mAh
ชาร์จผ่านสาย10W18W
ตัวเครื่องความทนทานไม่กันน้ำ กันฝุ่นIP54
ขนาด77.37 x 167.35 x 8.5 มม.ไม่ระบุ
น้ำหนัก193 กรัมไม่ระบุ

ราคาและการวางจำหน่าย

Ai+ Pulse

มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ, สีฟ้า, สีเขียว, สีชมพู, สีม่วง

  • 4GB+64GB ราคา 4,999 รูปีอินเดีย (ราว 1,899 บาท)
  • 6GB+128GB ราคา 6,999 รูปีอินเดีย (ราว 2,600 บาท)

Ai+ Pulse เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 12 กรกฎาคม 2025 ผ่านช่องทางหลัก Flipkart

Ai+ Pulse

Ai+ Nova 5G

มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ, สีฟ้า, สีเขียว, สีชมพู, สีม่วง

  • 6GB+128GB ราคา 7,999 รูปีอินเดีย (ราว 3,000 บาท)
  • 8GB+128GB ราคา 9,999 รูปีอินเดีย (ราว 3,800 บาท)

Ai+ Nova 5G เปิดขายวันที่ 13 กรกฎาคม 2025 ผ่านช่องทางหลัก Flipkart

Ai+ Nova 5G