หลังจากที่ dtac และ TrueMove H จ่ายค่าประมูล 5G คลื่น 700 MHz เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดทาง AIS นำโดย CEO คนสำคัญ นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ก็ได้ไปชำระค่าประมูลคลื่นความถี่ 700 MHz งวดที่ 1 แล้วด้วยเช่นกัน มูลค่า 1,881,488,000 บาท (เท่ากันกับ dtac และ TrueMove H) จากจำนวนเงินทั้งหมด 15,584 ล้านบาท กับ กสทช. เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา
โดยนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ CEO ของเอไอเอส (AIS) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทาง AIS ตระหนักอยู่เสมอว่าคลื่นความถี่ถือเป็นทรัพยากรสาธารณะอันทรงคุณค่า เมื่อได้รับการประมูลมาก็จะนำไปพัฒนาด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยี Digital มาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของคนไทยให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เพื่อส่งต่อประโยชน์ให้ถึงประชาชน และทุกภาคส่วนโดยเร็วที่สุด
ถือได้ว่าในปัจจุบัน AIS เป็นผู้ให้บริการเครือข่าย 5G ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด จากการประมูลคลื่น 5G ทำให้มีจำนวนคลื่นที่มากที่สุดเท่าที่แต่ละคลื่นจะสามารถให้บริการ 5G ได้ ซึ่งจะมีครบทุกย่านความถี่ ต่ำ-กลาง-สูง รวมทั้งหมด 1330 MHz ประกอบไปด้วย คลื่น 700 MHz จำนวน 30 MHz (2×15 MHz), คลื่น 2600 MHz จำนวน 100 MHz และคลื่น 26 GHz จำนวน 1200 MHz
สรุปการถือครองคลื่นความถี่จากผู้ให้บริการ 4 เครือข่าย
| ผู้ให้บริการ | จำนวนคลื่นความถี่ | รวม (MHz) | |||||||
| 850 MHz | 900 MHz | 1800 MHz | 2100 MHz | 2300 MHz | 700 MHz | 2600 MHz | 26 GHz | ||
| AIS | 20 | 40 | 30 | 30 | 100 | 1200 | 1420 | ||
| TRUE | 20 | 30 | 30 | 20 | 90 | 800 | 990 | ||
| DTAC | 10 | 10 | 30 | 20 | 200 | 270 | |||
| NT | 20 | 30 | 60 | 20 | 400 | 530 | |||
*ปัจจุบัน ครม. ได้รวม TOT และ CAT เปลี่ยนเป็น NT (บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ) เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 64
และเมื่อรวมกับกับคลื่นความถี่ 4G ด้วย จะมีมากถึง 1420 MHz (ไม่รวมความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์) ส่งผลให้ AIS ยังคงยืนหยัดในผู้นำอันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ครอบคลุมในการให้บริการ 3G,4G และ 5G มากที่สุดในอุตสาหกรรม ที่สำคัญไปกว่านั้น AIS ยังเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในอุตสาหกรรมที่มีแบนด์วิธเป็นจำนวนเทียบได้กับคลื่นความถี่ที่เครือข่ายระดับโลกมีใช้กัน
โดย AIS 5G จะมีความสามารถในการรองรับการใช้งาน (Capacity) มากกว่าเดิมถึง 30 เท่า, ความเร็ว (Speed) สูงถึง 24 เท่า และค่าความเร็วการรับส่งข้อมูล (Latency) ที่ต่ำกว่าเดิมถึง 10 เท่า ทำให้สามารถให้บริการเครือข่าย 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุค Digital ได้อย่างสมบูรณ์ และช่วยยกระดับคุณภาพ 4G ให้ดียิ่งขึ้นด้วย
ที่มา : bangkokbiznews, nbtc
Comment