รีวิว amazfit Bip 5 สมาร์ทวอทช์สำหรับสายคุ้ม เป็นรุ่นล่าสุดจากทาง Amazfit ที่คราวนี้ได้รับการออกแบบให้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะคนที่ยังไม่เคยใช้งาน หรือกลุ่มคนรักสุขภาพที่ต้องการสมาร์ทวอทช์ในราคาประหยัดก็ใช้ได้ และยังตอบรับฟังก์ชันหลากหลายทั้งใช้โทร, วัดออกซิเจน, มีโหมดออกกำลังกาย 120 แบบเป็นต้น แถมน้ำหนักเบา แบตใช้ได้ยาวนานถึง 26 วัน

ดีไซน์บางเบา ดูทันสทัย เข้ากับทุกวัย

การดีไซน์ของ amazfit Bip 5 ที่เราหยิบมารีวิวจะเป็นตัวสีดำ soft black แต่ไม่ได้ดำเข้ม มีความอ่อนออกโทนเทาหม่น โดยหน้าปัดมีขนาดใหญ่พิเศษ 1.91 นิ้ว ใช้หน้าจอเป็นกระจกนิรภัยแบบ 2.5D มีความพิเศษตรงที่เคลือบป้องกันลายนิ้วมือได้  การออกแบบให้รูปลักษณ์ภายนอกมีความทันสมัย ดูมินิมอล แฝงไปด้วยความเรียบง่าย และยังมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี อาทิ soft black, cream white และ pastel pink

ถ้าได้ใส่จะรู้สึกเลยว่าตัวนาฬิกามีน้ำหนักที่ทำออกมาได้บางเบา แถมมีความมนที่ตัวเรือน ดูเท่แบบเรียบง่าย ใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ด้วยการสวมใส่ข้อมือที่พกพาได้สะดวก เข้ากับคนได้ทุกกลุ่มวัย รวมไปถึงคนที่ยังไม่เคยใช้ smart watch อีกด้วย

ขอบเรือนด้านขวามีปุ่มเม็ดมะยมด้านบนสำหรับกดเข้าเมนูต่าง ๆ อาทิ โหมดออกกำลังกาย หรือจะเข้าไปเปลี่ยนในเมนู Settings ที่ใช้เป็นปุ่มลัดเข้าฟีเจอร์อื่นเพิ่มเติมได้

ด้านสายรัดใช้วัสดุ Polycarbonate ดีไซน์แบบกลวงออกที่มีความทนทานด้วยยางซิลิโคน รวมไปถึงการกันน้ำที่ IP68 ไม่ต้องหวั่นใจเมื่อน้ำสาดกระเด็นใส่

การสวมใส่ที่ข้อมือเบาสบาย 

ในเรื่องการสวมใส่หลังจากที่ได้ลองใช้มาเป็นเวลา 1 สัปดาห์  รู้สึกว่านาฬิกาน้ำหนักเบาสบาย ใส่อยู่แต่เหมือนไม่ได้ใส่เลยค่ะ ถึงแม้จะใส่ให้กระชับข้อมือก็ไม่มีความอึดอัดแต่อย่างใด พกพาไปได้ทุกที่

แต่ถ้าจะสวมใส่ไปออกกำลังกายต้องสวมให้แน่นนะคะ เพราะนาฬิกาจะเหวี่ยงไปมาและอาจทำให้เซนเซอร์ตรวจวัดไม่แม่นยำตามที่เราต้องการ

 

สายรัดข้อมือเป็นแบบใช้สลักในการล็อคกับตัวเรือนซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนได้ เหมาะกับกับคนขี้เบื่อที่อยากเปลี่ยนลุคการแต่งตัวให้แมทช์เข้ากับนาฬิกา ก็ซื้อแยกสีอื่นมาเปลี่ยนเองได้

หน้าจอใหญ่ ให้สีเที่ยงตรง ปัดง่าย

รุ่นนี้มีหน้าจอขนาด 1.91 นิ้ว เป็นหน้าจอทัชสกรีนครอบด้วยกระจกนิรภัยแบบ 2.5D ให้ความทนทานและยังป้องกันลายนิ้วมือได้ 

ส่วนพื้นที่ในการแสดงผลมีความใหญ่พอดี มองรายละเอียดการใช้งานได้ครบถ้วน แต่อยู่ที่กลางแจ้งก็ยังมองเห็นฟังชันก์การทำงานทั้งในเรื่องของตัวหนังสือ และการบอกการแจ้งเตือนทำออกมาได้โอเคเลยล่ะ

การควบคุม 

  • เมื่อปัด ขึ้น-ลง สามารถเลือกควบคุมการตั่งค่าและโหมดต่าง ๆ ใน amazfit Bip 5 ได้ เช่น ไฟฉาย, ความสว่างจอ, การสั่น และเพิ่มเสียง – ลดเสียงเป็นต้น
  • เมื่อปัด ซ้าย-ขวา สามารถดูข้อมูลสุขภาพต่าง ๆ ได้ รวมไปถึงสภาพอากาศ และโหมดเลือกฟังเพลง
  • เมื่อกด ปุ่มเม็ดมะยมด้านขวา สามารถดูการตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทั้งหมดอย่างละเอียด รวมไปถึงกิจกรรม ปฎิทิน การหายใจ หรือรายการสิ่งที่ต้องทำเป็นต้น

เชื่อมต่อการใช้งานคู่กับ Amazfit Watch ใน Zepp

การใช้งานของ amazfit Bip 5 จะต้องดาวน์โหลดแอป Zepp ของ Amazfit มาใช้งานคู่กัน มีให้ดาวน์โหลดทั้งบน Android, iOS แถมยังเชื่อมต่อกับ Google Fi ได้ปกติเลยค่ะ 

ภายในแอป Zepp สุขภาพ มีการบันทึกข้อมูลให้เราในด้านต่าง ๆ

  • บันทึกการออกกำลังกาย
  • สภาพอากาศ
  • การเดิน
  • การวัด PAI
  • อัตราการเต้นของหัวใจ
  • น้ำหนัก
  • การนอนหลับ
  • ความเครียด
  • SpO2 ออกซิเจนในเลือด
  • ติดตามรอบเดือนของผู้หญิง
  • ร้านค้าหน้าปัดนาฬิกา
  • การปลุก, การโทร, โหมดสั่น, การค้นหาอุปกรณ์

* การวัด PAI มาจาก PAI Health Assessment System(ย่อมาจาก Personal Activity Intelligence)เป็นระบบประเมินสุขภาพที่แปลงข้อมูลที่ซับซ้อนของ Amazfit เช่น ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ ระยะเวลาของกิจกรรมและข้อมูลด้านสุขภาพอื่น ๆ เป็นค่าที่ได้มาจากอัลกอริทึมและจะแจ้งผลลัพธ์ให้ผู้ใช้งานทราบ

วิธีการเชื่อมต่อ amazfit กับสมาร์ทโฟน

  1. ดาวน์โหลดแอป Zepp ของ Amazfit ผ่านช่องทาง App store หรือ Google Play
  2. กดเข้าหน้าแอพพลิเคชั่น เพื่อทำการสมัครสมาชิก โดยการใช้ E-mail ของเรา
  3. ยืนยัน E-mail ให้เรียบร้อย
  4. หลังจากยืนยัน E-mail สามารถเข้าแอป Amazfit Watch และล็อคอินผ่านระบบได้ทันที
  5. จากนั้นกดยืนยันข้อมูลตามการแจ้งเตือน ก็จะใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้แล้ว

หน้าปัดปรับแต่งได้ 70 สไตล์

ทางแอป Zepp  นอกจากจะเอาไว้ติดตามข้อมูลสุขภาพแล้ว ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง เมนู Watch faces สามารถเลือกหน้าปัดที่ใช่สำหรับเราได้กว่า 70 รูปแบบ ทั้งสายเท่ สายหวาน หรือคนขี้เบื่อก็สามารถปรับแต่งได้อย่างหลากหลาย

ไม่ได้มีแค่ภาพกราฟิคสวย ๆ อย่างเดียวนะเออ ยังมีการเน้นตัวเลขให้ใหญ่ เหมาะกับคนสายตาสั้นอีกด้วย และถ้าใครอยากเน้นดูข้อมูลสุขภาพมากกว่า ก็ปรับได้ง่าย ๆ การใช้งานมีให้ดาวน์โหลดทั้งฟรีและเสียเงิน ซื้อได้โดยตรงจากแอปเลย 

โหมดออกกำลังกาย 120 กว่าแบบ 

โหมดออกกำลังกายมีให้เราเลือกดูได้ถึง 120 โหมด สามารถตรวจจับการออกกำลังกายที่เฉพาะเจาะจง 7 ชนิดโดยอัตโนมัติ อาทิ การติดตามข้อมูลกีฬาตามเวลาจริง, ข้อมูลรายละเอียดและการวิเคราะห์ใน app, และการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกีฬาขณะเล่นกีฬา

เรียกว่ารองรับการออกกำลังแทบจะทุกแบบทุกสไตล์ เพราะมีเมนูโหมดออกกำลังกายสาธิตกดใช้บางโหมดเองหรือแสดงฉากที่ smart watch ตรวจจับการออกกำลังกายโดยอัตโนมัติอีกด้วย 

มีโหมดการวิ่งแบบมืออาชีพ ซึ่งสามารถบันทึกความสูง ความชัน ก้าว ระยะทาง จำนวนก้าว อัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด ฯลฯ ยกตัวอย่าง เดิน ,ปั่นจักรยาน, วิ่ง, ลู่วิ่งไฟฟ้า, ซุมบ้า, แบตมินตัน และการกระโดดเชือก เป็นต้น และเราสามารถเลือก Custom โหมดที่เราใช้ประจำได้ด้วยนะคะ

ฟีเจอร์สุขภาพให้มาได้ครบเครื่อง

เรามาดูฟีเจอร์เรื่องสุขภาพกัน เรียกว่าทาง Amazfit ก็ยังให้มาได้หลากหลายในการใช้งาน แถมสวัดได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย เรามาดูว่าการวัดแต่ละอย่างจะสามารถตรวจจับการทำงานของร่างกายได้น่าสนใจแค่ไหน 

  • ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ ช่วยให้เราสังเกตตัวเองได้ว่าหัวใจตอนนี้เต้นต่ำหรือสูงเกินไป
  • ตรวจจับออกซิเจนในเลือด SpO2 (24 ชม.) เป็นความอิ่มตัวของออกซิเจนหมายยถึงเปอร์เซ็นต์ของปริมาตรรวมของออกซิเจนและฮีโมโกลบินต่อปริมาตรฮีโมโกลบินทั้งหมดในเลือดค่ะ 
  • ตรวจจับความเครียด 
  • ตรวจจับการนอนหลับ  จะตรวจจับเมื่อเราตื่นนอนค่ะ และแบ่งตามหมวดได้ 4 แบบ ทั้งตื่น หลับลึก หลับตื้น หลับแบบ REM หรือการงีบ นอกจากนี้ยังบันทึกคุณภาพการนอนได้ด้วย อย่างของเราตั้งเป้าหมายไว้นอนให้ครบ 7 ชม.แต่ก็ยังไม่ถึงอยู่ดี 🤣
  • ตรวจจับการขยับ เมื่อเพื่อน ๆ นั่งนานเกินไป เจ้านาฬิกาจะแจ้งเตือนให้เราลุกขึ้นมาเดิน หรือขยับแข้งขยับขาสักหน่อย เรียกว่าเป็นการผ่อนคลายไม่ให้อยู่กับที่นานจนเกินไป

โหมดติดตามการวิ่งด้วย GPS ในตัว

มีระบบกำหนดตำแหน่ง 4 ระบบ GPS+GLONASS+GALILEO+QZSS แม่นยำสูง ทำให้เราสามารถบันทึกเส้นทางการวิ่ง หรือการเดินพร้อมการวัดค่าต่าง ๆ ได้

เพื่อน ๆ จะเห็นว่าเมื่อเราเดิน หรือวิ่งเสร็จ ตัวแอป Zepp จะ Sync ข้อมูลการวิ่งให้เราเพิ่มเติมด้วย ไม่ว่าจะออกกำลังกายแบบไหนก็ยังดูเพิ่มเติมได้สบาย

เสมือนเป็นการสรุปสำหรับการวิ่งของตัวเอง ลองไปทำกันดูว่าในแต่ละเดือนทั้งน้ำหนักร่างกาย ระยะทาง เราได้วิ่งตามที่เราหวังไว้มั้ย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ฟีเจอร์ภายในเยอะมาก สามารถดูสภาพอากาศ, จับเวลา , ดูปฏิทินนัดหมาย ตั้งนาฬิกาปลุกพวกนี้ก็ใช้งานได้ทั่วไปครบ ๆ แต่ที่น่าประทับใจของเราตามด้านล่างเลยค่ะ

โทรออกได้

โทรออกและรับสายเพื่อคุยโทรศัพท์ผ่านบลูทูธโดยตรงบนนาฬิกา โดยใช้ไมโครโฟนและลำโพงในตัว เรียกว่าสะดวกสบายมาก

ฟังเพลงผ่าน Streaming ได้

เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงขณะเดิน หรือวิ่งออกกำลังกายแบบชิล ๆ สามารถกดฟังเพลงได้จากนาฬิกา หรือจะเลื่อนเปลี่ยนไปมาก็ทำได้ง่าย ๆ แถมยังรองรับแอปสตรีมมิ่งอย่าง Apple Music และ Spotify ได้อีกด้วย

Morning Updates 

เป็นการแจ้งเตือน และสรุปข้อมูลให้เราในทุกเช้า เช่นข้อมูลการนอน สถานะการออกำลังกาย สถานะสุขภาพ รวมถึงสภาพอากาศเป็นต้น เรียกว่ารวดเร็ว ทันใจไม่ต้องเปิดดูให้เสียเวลา แถมตัวนาฬิกายังรองรับ Amazon Alexa Built-in และรองรับภาษาอังกฤษ Offline Voice Assistant ด้วยค่ะ

ดูรอบประจำเดือนได้ 

นี่เป็นอีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ถ้าใครเป็นผู้หญิงอาจจะชอบสิ่งนี้ เพราะเราสามารถใส่ข้อมูลส่วนตัวของประจำเดือนได้ แล้วทางแอปจะคำนวณการเกิดรอบเดือนในครั้งถัดไปให้ค่ะ รวมถึงการตกไข่ด้วย เรียกว่าเตรียมพร้อมไว้ได้เลย

แบตเตอรี่อึดยาวนาน 26 วัน 

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ amazfit Bip 5 เรียกว่าอยู่ได้นานพอสมควร และในเรื่องการชาร์จใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ 0-100% เต็มภายใน 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ไม่ว่าจะใส่ไปไหนก็ยังมีแบตให้ใช้งานตลอดวัน 

  • ใช้งานทั่วไป 10 วัน
  • ใช้งานหนัก 5 วัน
  • โหมดประหยัดแบตเตอรี่ยาวนาน 26 วัน

สรุป

amazfit Bip 5 เป็นสมาร์ทวอทช์ในราคาประหยัดที่สามารถใช้ได้คุ้มค่าสมราคา ไม่ว่าเราจะเน้นการออกกำลังกายดูข้อมูลสุขภาพอย่างจริงจัง หรือใส่เน้นเท่ แต่ก็ยังอยากรู้สถานะการเดิน วิ่ง หรือวัดออกซิเจนในเลือดก็ใส่ได้ เหมาะกับทุกเพศทุกวัยจะผู้ชาย ผู้หญิง หรือคนคนสูงวัยก็ยังใช้ได้แน่นอน แถมมีฟีเจอร์ให้ใช้งานได้หลากหลาย และแบตเตอรี่อึดยาวนานจนหายกังวล

อีกหนึ่งความรู้สึกเรื่องการใช้งาน เจ้านาฬิกาเรือนนี้บางเบา ใส่แล้วไม่ถ่วงน้ำหนักข้อมือเลย แต่อย่างหนึ่งที่ทุกคนควรระวังไว้ ถ้าเราไม่ดูแลนาฬิกาให้ดีอาจเป็นรอยที่สาย หรือมีขี้ฝุ่นเข้าไปติดได้ง่ายค่ะ

สำหรับคนที่มองหาสมาร์ทวอชในราคาถูกแต่ใช้งานได้ครบนี่เลยค่ะ amazfit Bip 5 ราคาอยู่ที่ 2,499 บาท พร้อมรับประกัน 1 ปี

สามารถสั่งซื้อได้ที่ช่องทางออนไลน์ Zepp Official Storeใน Shopee, Lazada, Tiktok หรือหาซื้อได้ที่หน้าร้านสาขา Betrend , B2S , IT city , Banana และร้านค้าโซนสินค้าเทคโนโลยีในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป พร้อมรับของแถมช่วงเปิดตัวสินค้าใหม่ :XiaoMi Mini Backpack 

ลิงค์สั่งซื้อ Zepp Online Official Store

Shopee:https://bit.ly/3OF0rzc
Lazada:https://bit.ly/3OnmfhG
TikTok:https://shop.tiktok.com/view/product/1729659598336264285?region=TH&locale=en