ซานต้ายุคนี้อาจจะไม่ได้มาในคราบลุงแก่ใส่ชุดสีแดง นั่งรถลากกวางเรนเดียร์แล้ว เพราะเมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมาแบรนด์ E-Commerce ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Amazon ได้เริ่มนำโดรนส่งของอัจฉริยะ Amazon Prime Air มาทดสอบใช้จริงแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา

Play video

หลังจากผ่านการรับรองจากองค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (FAA) ไปเมื่อเดือนสิงหาคม Amazon ก็ได้เริ่มนำโดรนมาทดสอบขนส่งพัสดุเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น้ำหนักไม่เกิน 2.2 กิโลกรัมในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา โดยได้เริ่มทดสอบในเขตชนบทของรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีประชากรประมาณ 3,500 และในย่านมหาวิทยาลัย College Station ในรัฐเท็กซัสเป็นที่แรก ๆ

ผู้ที่พักอาศัยในย่านที่ทาง Amazon กำลังทดลองระบบสามารถลงทะเบียนเพื่อลองใช้บริการได้ หลังจากนั้น Amazon จะทำการตรวจสอบที่อยู่ของผู้รับว่าสามารถจัดส่งพัสดุผ่านโดรนได้อย่างปลอดภัยหรือเปล่า เมื่อได้รับการยืนยันจากทาง Amazon แล้ว สินค้าก็จะถูกจัดส่งพร้อมคำนวณเวลาที่สินค้าจะมาถึงทันที รวมถึงสามารถติดตามตำแหน่งของสินค้าได้ด้วย โดยทาง Amazon ได้ตั้งเป้าไว้ว่าสินค้าจะส่งตรงถึงบ้านโดยใช้เวลาไม่เกิน 60 นาที

โดรนส่งสินค้าจะบินไปยังจุดหมายที่ผู้รับระบุไว้ โดยจะใช้ระบบ AI ในการจับ และหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง เช่นสายไฟฟ้า เมื่อถึงจุดหมายแล้ว โดรนจะบินไปที่สวนหลังบ้านของผู้รับ จากนั้นก็จะค่อย ๆ ลดระดับการบินไปยังจุดที่ปลอดภัย เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจตัวโดรนจะปล่อยพัสดุอย่างช้า ๆ และลอยกลับไปที่ระดับความสูงเดิม (ไม่ได้จัดส่งทางปล่องไฟเหมือนซานต้านะ)

Amazon Prime Air รุ่น MK27-2 

ในตอนนี้โดรนที่ทาง Amazon ใช้ทดสอบอยู่คือรุ่น MK27-2 ที่มาพร้อมรูปทรงหกเหลี่ยม มาพร้อมใบพัดเล็ก ๆ 6 ใบพัดที่ดีไซน์มาเพื่อลดเสียงคลื่นความถี่สูงขณะบินโดยเฉพาะ อีกทั้งยังทนทุกสภาพอากาศไม่ว่าจะฝนตก หรือแดดร้อนจัด โดยทาง Amazon ตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดตัวโดรนขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างปลอดภัยก่อน ซึ่งในช่วงแรกก็จะมีมนุษย์คอยสังเกตระหว่างการส่งสินค้าเพื่อดูแลเรื่องความปลอดภัย หลังจากนั้นจะเริ่มขยับขยาย และเพิ่มจำนวนการจัดส่งสินค้าให้กับผู้ใช้งานไปเรื่อย ๆ ในอนาคต

 

ที่มา: Amazon, Eric Berlinberg (Twitter), Ashtechnica