หลังจากที่ปล่อยให้ Netflix เข้ามาทำตลาดบริการวิดีโอสตรีมมิ่งในบ้านเราตั้งแต่ 2016 ล่าสุดคู่แข่งอย่าง Amazon Prime Video ก็ขอเข้ามาเปิดบริการในประเทศไทยบ้างแล้ว โดยค่าบริการรายเดือนของ Amazon Prime Video อยู่ที่ 199 บาท และสามารถดูพร้อมกันได้ถึง 3 อุปกรณ์
ในตอนนี้แพ็คเกจของ Amazon Prime Video ยังมีให้เลือกแค่แบบเดียวเท่านั้น คือแพ็คเกจรายเดือน 199 บาท ซึ่งสามารถดูพร้อมกันได้ 3 อุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ, แท็บเล็ต หรือสมาร์ททีวี สำหรับความคมชัดของคอนเทนต์ใน Amazon Prime Video จะมีสูงสุดคือระดับ HDR ซึ่งส่วนมากจะเป็นคอนเทนต์ Original ของทาง Amazon เองครับ (ยังไม่แน่ใจว่าความละเอียดจะเป็นระดับ 4K เหมือน Amazon Prime Video เมืองนอกรึเปล่านะครับ)
ส่วนฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึง UI และการใช้งาน ถ้าใครที่เคยใช้ Netflix มาก่อน ก็จะพบว่ามันมีรูปแบบที่คล้ายๆ กัน คือหน้า Home ที่จะมีเหล่าภาพยนตร์ และซีรีส์ต่างๆ มาแนะนำไว้ในหน้านี้ ส่วนแถบข้างบนจะแยกหมวดหมู่คอนเทนต์ออกเป็น 3 หมวด คือ TV Shows, Movies และ Kids
เมนู Find สำหรับค้นหาคอนเทนต์ที่ต้องการ โดยสามารถแยกการค้นหาแบบเจาะจงได้ว่าจะหาเป็นรายการ TV, ภาพยนตร์, Amazon Original (หนังของ Amazon), คอนเทนต์สำหรับเด็ก หรือจะหาตามหมวดหนัง (Genre) ก็ได้
เมนู Download สำหรับเลือกดูคอนเทนต์ที่เราได้ดาวน์โหลดเอาไว้, เมนู My Stuff สำหรับเลือกดู Watchlist หรือรายชื่อคอนเทนต์ที่เราบันทึกเอาไว้ว่าจะมาดูทีหลัง ซึ่งรายชื่อคอนเทนต์ดังกล่าวจะแชร์ระหว่างอุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ในบัญชี และเมนู Settings สำหรับตั้งค่าต่างๆ
ในหน้าภาพยนตร์แต่ละเรื่องจะมีข้อมูลของหนังเรื่องนั้นๆ บอกไว้ ทั้งเรื่องย่อ, คะแนนจากเว็บ IMDB, ปีที่ฉาย, เรทอายุผู้ชม, เสียงภาษาที่มีให้เลือก, ซับไตเติ้ล, ผู้กำกับ, นักแสดง ฯลฯ
หรือถ้าหากว่าเป็นคอนเทนต์ Original อย่างเช่น The Boys เมื่อเรากด Cast ขึ้นจอทีวีแล้ว ในมือถือจะมีตัวเลือกพิเศษที่เกี่ยวกับคอนเทนต์ดังกล่าวให้เราเลือกดูได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลนักแสดง, ตัวละครในเรื่อง, เพลงประกอบ, เรื่องน่ารู้ของคอนเทนต์ ฯลฯ
ส่วนตัวเลือกคอนเทนต์ต่างๆ เท่าที่ลองดูแล้วพบว่ายังน้อยกว่า Netflix อยู่พอสมควร แต่พวกคอนเทนต์ Original ก็มีน่าสนใจอยู่เยอะเช่น ซีรีส์ซุปเปอร์ฮีโร่ The Boys หรือ Jack Ryan เป็นต้น…เอาเป็นว่าใครที่สนใจจะลองดู ตอนนี้ Amazon Prime Video มีช่วงทดลองดูฟรีได้ 7 วัน (ต้องเข้าไปกดยกเลิกเองใน Google Play ด้วยนะครับ) ก็ลองไปดาวน์โหลดแอปมาติดตั้งแล้วดูกันได้เลยทั้ง Android, iOS หรือบนเบราว์เซอร์ก็ได้ครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม : Amazon Prime Video
ทำไมไม่เปิด amazon.co.th มาขายแข่ง Lazada, Shopee, JD Central ด้วยเลย
เห็นด้วยเลยครับ
ต้นทุนน่าจะสู้้ ไม่ไหวครับ
ดูไม่ทันแล้วทั้ง Netflix, HBO Go และก็ Prime Video
นี่คือสมัครทุกอันเลยใช่มั้ย 5555
ทุกวันนี้ ยังไม่รู้เลยว่าสมัคร Youtube Premium ไว้ทำไม นอกเหนือจาก ไม่มีโฆษณา และปิดจอเล่นเพลงได้
เพราะรอหนัง original จาก youtube ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเห็นมีอะไรน่าดูเท่าไหร่
YouTube Premium นี่ผมสมัครเพื่อความสบายใจล้วนๆ ครับ ดูแบบไม่มีโฆษณาแล้วมันดีกว่ากันเยอะเลย 555
ตลาดวายหรือยังเนี่ย ?
ทำไมผมเห็นแต่ราคา 5.99 USD อยู่เลย