มีเรื่องน่าสนใจอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ หลายคนน่าจะคุ้นหูกันดีกับเจ้าอุปกรณ์ Apple AirTags ที่เป็น Accessories มาช่วยให้เราสามารถติดตามข้าวของของตัวเองผ่านหน้าจอมือถือได้ว่าเราเอาไปลืมไว้ไหน หรือเอาไปทำตกไว้ไหน ซึ่งความสามารถของ AirTags นี้เอง ทำให้มีชาวอเมริกันบางรายนำอุปกรณ์ดังกล่าวไปติดไว้กับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ทำให้สามารถติดตามตำแหน่งของผู้ป่วยที่หลงทางจนเจอ โดยเคลมว่ามันมีความแม่นยำถึง 90% เลยค่ะ !!

คนส่วนมากจะซื้อ Apple AirTags ไปใช้ในแขวนไว้กับกุญแจ กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเป้ หรือของที่เราคิดว่าอาจจะลืมไว้ที่ไหนสักที่ แต่ก็มีชาวอเมริกันบางคนนำไปประยุกต์ใช้ติดตามผู้ป่วยที่มีสภาวะโรคสมองเสื่อมซึ่งเป็นโรคที่จะพบได้มากในผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

โดยจากการสังเกตของคนที่ดูแลผู้ป่วยโรคนี้ บอกว่าไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผู้ป่วยสมองเสื่อมจะออกจากบ้านไปตอนไหน และมักจะลืมเอามือถือติดตัวไปด้วย แต่ส่วนมากก่อนออกจากบ้านผู้ป่วยเหล่านี้จะชอบหยิบของประเภทกระเป๋าตังค์หรือกุญแจติดตัวไป (น่าจะเป็นความเคยชิน) การนำ AirTags ไปติดกับของพวกนี้ก็เลยเพิ่มโอกาสในการค้นหาตำแหน่งของผู้ป่วยที่หลงทางได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ

 

ต้องยอมรับเลยนะคะว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก ทำให้เราติดตามคนที่เรารักได้ง่ายขึ้น เพราะทุกคนคงทราบกันดีว่าโรคอัลไซเมอร์จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ ไม่สามารถจำอะไรได้ดี บางครั้งจำได้แค่เรื่องราวในอดีตบางทีอาจจะเผลออกจากบ้านไปโดยไม่รู้ตัวเพราะคิดว่ามีเป้าหมายบางอย่างต้องไปทำ สิ่งที่แย่ที่สุดอาจหายตัวไปถ้าหาทางกลับบ้านไม่เจอ ในทางการแพทย์วิธีรักษาโรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดค่ะ เราจึงต้องดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดที่สุด

แต่การนำเอา AirTags ไปติดไว้กับสิ่งของต่าง ๆ ของผู้ป่วยก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปนะคะ เพราะผู้ป่วยบางคนพอรู้เรื่องเข้าก็อาจไม่พอใจ เพราะไม่อยากให้ใครมาแอบติดตามตลอดเวลานั่นเอง ถ้าหากว่าจำเป็นจริง ๆ อย่างน้อยก็ควรบอกหรือขออนุญาตเค้าซักหน่อยก็ได้ว่าจะเอา AirTags ไปติดไว้เผื่อหลงทางจะได้ตามหาถูก

ข้อจำกัดอีกอย่างของ AirTags ก็คือ มันไม่ใช่อุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับติดตามตำแหน่งได้ทุกที่ทุกเวลาเนื่องจากมันไม่มี GPS ในตัวนั่นเองค่ะ แต่มันจะใช้วิธีส่งสัญญาณ Bluetooth ผ่านโครงข่าย Find My เข้าไปที่อุปกรณ์ iOS ที่อยู่ในระยะ และเมื่ออุปกรณ์ iOS ของผู้ใช้งานคนอื่น ๆ ที่รับสัญญาณของ AirTags ในบริเวณนั้นได้ ก็จะแจ้งเตือนไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Find My เพื่อแจ้งตำแหน่ง AirTags ของเราให้รู้ทันที จากนั้นเราก็เปิดแผนที่เพื่อกลับไปตามของคืนได้

ซึ่งหากว่าผู้ป่วยที่มี AirTags ติดอยู่ แต่เดินหลงไปบริเวณที่ไม่มีคนอยู่ หรือไม่มีคนใช้ iPhone / iPad อยู่แถวนั้นเลย ก็จะไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ค่ะ

Apple AirTag และ Galaxy SmartTag+ อุปกรณ์ติดตามอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี UWB เหมือนกัน แต่มีอะไรต่างกันบ้าง?

ทางเราคิดว่าเป็นไอเดียที่ดีมากถ้าอยากนำไปใช้ประโยชน์เพื่อติดตามผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม หรือผู้พิการทางสายตาแต่จะติดตามอย่างอื่นด้วยก็ได้นะคะ อย่างหมาแมวที่เรารักหรือสิ่งที่มีคุณค่ากับเราเรียกว่าเป็นประโยชน์มาก ๆ เลย

 

ที่มา : foxbusiness