เปิดตัวมาในช่วงวันและเวลาที่ตรงตามข่าวลือเป๊ะ ๆ สำหรับ Android 11 ระบบปฏิบัติการบนมือถือเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดจาก Google แม้หน้าตาโดยรวมไม่ได้ต่างไปจากเดิมมากนัก แต่มีการปรับปรุงการใช้งานและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาเพียบ โดยในคราวนี้มุ่งเน้นไปที่ 3 สิ่งหลัก ๆ ได้แก่ การควบคุม ความเป็นส่วนตัว และการสื่อสารกับผู้คน ซึ่งในคราวนี้นอกจาก Pixel แล้วก็ยังมีทั้ง OnePlus, Xiaomi, OPPO และ realme ที่เปิดให้อัปเดตกันในทันทีตั้งแต่วันแรกเลย (แต่จะเป็นแค่ beta)

[อัปเดต 11 ก.ย.] รีวิว Android 11 มาแล้ว !

สำหรับใครที่อยากอ่านบทความรีวิว Android 11 บน Pixel 4 สามารถเข้ามาดูได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ ↓

Review | รีวิว Android 11 หน้าตาเหมือนเดิม แต่เสริมฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาอีกเพียบ

 

เพิ่มความสำคัญของการสนทนากับผู้คน

การแจ้งเตือนประเภทการสนทนาจากแอปแชททั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น LINE, Messenger, WhatsApp  และอื่น ๆ จะถูกจัดรวมไว้ในหมวดหมู่เดียวกันที่ด้านบนสุดของการแจ้งเตือน เพื่อให้ง่ายต่อการตอบกลับข้อความ นอกจากนี้เรายังสามารถจัดลำดับความสำคัญของการสนทนาได้เองอย่างอิสระอีกด้วย หากแชทไหนเป็นแชทสำคัญก็ย้ายมาไว้ที่ด้านบนซะ จะได้ไม่พลาดข้อความสำคัญ

ตอบแชทได้อย่างรวดเร็วด้วยฟีเจอร์ Bubbles

ทำให้การแชทสะดวกและคล่องตัวยิ่งกว่าเดิม ด้วยฟีเจอร์ Bubbles ช่วยให้สามารถตอบกลับแชทได้ในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องสลับออกจากหน้าแอปที่กำลังใช้งานอยู่

บันทึกวิดีโอหน้าจอได้แล้ว

ในตอนนี้ Android 11 มีฟีเจอร์บันทึกวิดีโอหน้าจอให้ใช้งานกันแล้ว เป็นความสามารถที่ติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการโดยไม่จำเป็นต้องลงแอปใด ๆ เพิ่ม สามารถควบคุมการบันทึกเสียงได้อย่างอิสระจากทั้งไมโครโฟนตัวเครื่องและเสียงภายในอุปกรณ์ หรือแม้แต่เลือกที่จะบันทึกเพียงแค่วิดีโอโดยไม่บันทึกเสียงเลยก็ทำได้เช่นกัน

ควบคุมอุปกรณ์ทั้งหลายในที่เดียว

ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์และสมาร์ทโฮมทั้งหลายที่เชื่อมต่อกับมือถือของเราได้ในที่เดียวโดยการกดปุ่มพาวเวอร์ค้างเอาไว้

แผงมีเดียคอนโทรลรูปแบบใหม่ ควบคุมและสลับอุปกรณ์ฟังเพลงอย่างฉับไว

แผงมีเดียคอนโทรลที่อยู่เหนือแถบแจ้งเตือนที่นอกจากจะได้รับการปรุงให้หน้าตาดูดีขึ้นแล้ว มันยังถูกปรับปรุงการใช้งานให้เจ๋งขึ้นเช่นกัน โดยในตอนนี้เราสามารถสลับอุปกรณ์การฟังเพลงไป – มาพร้อม ๆ กับควบคุมระดับเสียงได้อย่างง่ายดายในที่เดียวได้แล้ว ตัดความวุ่นวายในการใช้งานทิ้งไปได้แทบจะทั้งหมดสำหรับใครที่มีอุปกรณ์ฟังเพลงหลาย ๆ ชิ้น

สะดวกยิ่งขึ้นด้วย Android Auto ไร้สาย

ผู้ใช้งาน Android 11 สามารถเชื่อมต่อกับยานพาหนะด้วย Android Auto โดยไม่ต้องใช้สายเคเบิ้ลอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถควบคุมการนำทาง การตอบกลับแชทโดยไม่จำเป็นต้องพิมพ์ และเล่นเพลงโปรดผ่านการสั่งงานด้วยเสียงผ่านผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Google Assistant

ปกป้องความเป็นส่วนตัวด้วย one-time permissions

ยกระดับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวด้วยตัวเลือก one-time permissions หรือการให้สิทธิ์การเข้าถึงแบบครั้งเดียว สามารถใช้งานได้กับการร้องขอสิทธิ์ในการเข้าถึงส่วนที่ละเอียดอ่อน ได้แก่ ไมโครโฟน กล้อง และการระบุตำแหน่ง ซึ่งหากมีการใช้งานในครั้งถัดไป ตัวแอปจำเป็นต้องร้องขอสิทธิ์ดังกล่าวใหม่ทุกครั้ง

รีเซ็ตสิทธิ์ในการเข้าถึงโดยอัตโนมัติ

ยิ่งไปกว่านั้น Android 11 ได้เพิ่มความสามารถในการรีเซ็ตสิทธิ์ในการเข้าถึงโดยอัตโนมัติเข้ามา เมื่อมีแอปใด ๆ ที่ไม่ได้ถูกใช้งานเป็นระยะเวลาหนึ่ง ระบบก็จะแจ้งเตือนการรีเซ็ตดังกล่าวขึ้นมา เป็นการยกระดับความปลอดภัยไปอีกขั้น

อัปเดตระบบผ่าน Google Play ไม่ต้องรออัปเดตผ่าน OS

ถัดมาคือ ความสามารถในการอัปเดตโมดูลความปลอดภัยและโมดูลความเป็นส่วนตัวผ่านทาง Google Play ในลักษณะเดียวกับการอัปเดตแอปทั่วไป ซึ่งได้ถูกปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นบน Android 11 นี้ ข้อดีคือ มันทำให้เราได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวได้โดยตรงผ่านทาง Google Play โดยไม่จำเป็นต้องรออัปเดตผ่านตัว OS แบบที่แล้วมา ดังนั้น การอัปเดตในลักษณะนี้จะทำได้ง่ายและไวกว่า เป็นผลดีต่อทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้งาน Android

เพิ่มความเป็นส่วนตัวแก่พนักงานในองค์กร

ฝ่ายไอทีสามารถเข้าถึงโปรไฟล์งาน (แอปที่มีไอคอนกระเป๋าเอกสาร) ของพนักงานในองค์กรที่ใช้งาน Android Enterprise ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งเกี่ยวกับโปรไฟล์ส่วนตัวหรือกิจกรรมใด ๆ บนมือถือของพนักงาน ไม่ต้องกลัวฝ่ายไอทีจะแอบส่องข้อมูลส่วนตัวพนักงานอีกต่อไป

เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับ Pixel

สุดท้าย ข่าวดีสำหรับผู้ใช้งาน Pixel ตั้งแต่ Pixel 2 ขึ้นไปจะได้รับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม ดังนี้

  • Smart Reply – ฟีเจอร์การตอบกลับอัตโนมัติของ Gboard ที่สามารถใช้งานได้บนแอปแชท แต่ในเบื้องต้นยังรองรับเพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น และจะเป็นการประมวลผลภายในอุปกรณ์ ดังนั้นจึงหายห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว
  • Overview Actions – ความสามารถที่มีมาตั้งแต่ Android 9 Pie ได้ถูกปรับปรุงและพัฒนาให้ใช้งานได้ดีและง่ายยิ่งขึ้นอย่างมากในตอนนี้ สามารถเลือกข้อความหรือรูปภาพบนหน้า overview แล้วทำการก๊อบปี้ แชร์ ค้นหา หรืออื่น ๆ ได้ (ขึ้นอยู่กับบริบท) อีกทั้งยังสามารถแคปเจอร์หน้าจอได้จากตรงนี้เลยด้วย
  • Smart folders – เมื่อเราทำการรวมแอปเป็นโฟลเดอร์ ระบบจะทำการสร้างชื่อให้เข้ากับหมวดหมู่ของแอปโดยอัตโนมัติ
  • App suggestions – หากเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ ระบบจะทำการเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของเรา และจัดสรรแอปที่เหมาะสมกับช่วงเวลาในแต่ละวันให้ ซึ่งรายการแอปที่ถูกแนะนำจะเข้ามาแทนที่ตำแหน่ง dock เดิม

Android 11 เปิดให้อัปเดตอย่างเป็นทางการแล้วบนสมาร์ทโฟน Pixel นอกจากนี้แบรนด์อื่น ๆ อย่าง OnePlus, Xiaomi, OPPO และ realme เองก็จะได้รับอัปเดตในวันนี้ด้วยเช่นกัน แต่จะเป็นเพียงแค่ beta ไม่ใช่ตัวเต็ม และเฉพาะกับรุ่นที่กำหนดตามรายการด้านล่างนี้เท่านั้น

 

ที่มา : Google | GSMArena