SD Card คือความสามารถอย่างหนึ่งของ Android ที่หลายๆคนชื่นชอบ เพราะเราสามารถเพิ่มพื้นที่การใช้งานในอุปกรณ์ของเราได้ตามต้องการ จะมากจะน้อยก็ตามศรัทธาของแต่ละคน เย้ย! ไม่ใช่เงินทำบุญ! เอาเป็นว่าเราจัดการกับพื้นที่ความจุของมือถือเราได้เองละกันครับ แต่ทว่า Google ตัดสินใจพรากความสามารถนี้ออกไปจาก Android ตั้งแต่ Android 4.2 Jelly Bean ที่เปิดตัวมาพร้อมกับ Nexus 4 มือถือ Nexus รุ่นแรกที่ไม่มีช่องเสียบ MicroSD card ทำให้เกิดเสียงตอบรับอย่างอื้ออึงจากกลุ่มผู้ใช้ Android ที่รัก MicroSD card เป็นชีวิตจิตใจ แต่ดูเหมือน Google เปลี่ยนใจเอาความสามารถในการใช้ MicroSD card กลับมาใน Android 5.0 Lollipop แล้ว

ใน Android 4.2 Jelly Bean นั้น MicroSD card จะใช้ได้กับการเก็บข้อมูลจำพวกรูปถ่าย, วิดีโอ, เพลง และไฟล์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ข้อมูลของ App เท่านั้น ดังนั้น App จึงถูกจำกัดให้ใช้ได้เฉพาะพื้นที่หน่วยความจำภายในที่มากับตัวเครื่องเท่านั้น App ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดน่าจะเป็นพวกเกมส์กราฟฟิกหนักๆทั้งหลายที่ต้อง download ข้อมูลมาเพิ่มเติมหลังจากที่ติดตั้งไปแล้ว ผลลัพธ์คือ เกมส์พวกนี้จะติดตั้งลงเครื่องได้เพียง 2-3 เกมส์หน่วยความจำก็จะเต็มแล้ว ผู้ใช้หลายคนจึงอวดครวญว่า Google คิดอะไรอยู่?

ต่อมา Google ได้บรรเทาปัญหานี้ใน Android 4.4 KitKat โดยอนุญาตให้ App สามารถสร้าง folder ของตัวเองบน SD Card และใช้พื้นที่ตรงนี้เก็บข้อมูลได้โดยไม่อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลใน folder อื่นๆที่ไม่ใช่ของตัวเอง แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ App ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น Poweramp จะไม่สามารถไปแก้ tag ของเพลงที่อยู่ใน Music folder ได้ หรือโปรแกรมแต่งรูปก็ไม่สามารถบันทึกรูปไปยัง Pictures folder ได้นอกจาก folder ของ App เอง

ใน Android 5.0 Lollipop นั้น Google ได้ตัดสินใจแก้ปัญหานี้ด้วยการเพิ่มสิทธิ์อันใหม่ให้กับ App ที่ชื่อว่า “ACTION_OPEN_DOCUMENT_TREE” ซึ่งเราจะเห็นทุกครั้งเวลาติดตั้ง App ที่ประกาศใช้สิทธิ์นี้ และตัว App จะสามารถเข้าถึง folder ใดก็ได้ที่เราอนุญาตให้เข้าถึง นี่จึงเป็นข่าวดีมากสำหรับผู้ใช้ Android ที่ต้องการใช้ MicroSD card อย่างคุ้มค่า อาจจะมีความยุ่งยากเพิ่มมาหน่อยตรงที่เราต้องมาอนุญาตให้ App เข้าถึง Folder ที่ต้องการทุกครั้งที่มีการติดตั้งใหม่ แต่นี่ก็เป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว

ดังนั้นหลังจากนี้ก็รอให้ผู้พัฒนา App ปรับแก้ไปใช้สิทธิ์ตัวใหม่นี้เท่านั้น แต่เดี๋ยวก่อน! นั่นหมายถึงว่า เครื่องของเราต้องได้รับการอัพเกรดไปเป็น Android 5.0 Lollipop แล้วด้วยนะครับ ^_^

 

ที่มา: Android-platform ผ่าน Android Central