Apple ได้เปิดตัว AirPods 3 อย่างเป็นทางการแล้วในงาน Unleashed เมื่อช่วงดึกของวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจหลายอย่าง ดีไซน์ภายนอกทั้งตัวหูฟังและเคสชาร์จถูกออกใหม่ให้อ้วน ๆ กลม ๆ ใกล้เคียงกับ AirPods Pro มากขึ้น ฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามา คือ Adaptive EQ และ Spatial audio พร้อมความสามารถทนน้ำ IPX4 นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่อึดที่สุดในตระกูล ส่วนราคายังเท่ากับรุ่นเดิมที่ 6,790 บาท แต่ AirPods 2 ที่ถูกปรับราคาลงมาเหลือ 4,990 แล้วก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
AirPods 3 โฉมใหม่ ใส่ได้กระชับกว่าเดิม
เปรียบเทียบฟีเจอร์ AirPods 2 , AirPods 3 และ AirPods Pro
AirPods 2 | AirPods 3 | AirPods Pro | |
ฟีเจอร์ | – | Adaptive EQ | Adaptive EQ |
– | ไดรเวอร์ High-excursion | ไดรเวอร์ High-excursion | |
– | แอมป์ขยายสัญญาณช่วงไดนามิกสูง | แอมป์ขยายสัญญาณช่วงไดนามิกสูง | |
– | Spatial audio | Spatial audio | |
– | – | ระบบระบายอากาศรักษาแรงดัน | |
– | – | ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอกทีฟ (ANC) | |
– | – | โหมดฟังเสียงภายนอก | |
ความทนทาน | – | กันน้ำและเหงื่อ IPX4 | |
ชิป | Apple H1 | ||
แบตเตอรี่ | ใช้งานต่อเนื่อง 5 ชม. | ใช้งานต่อเนื่อง 6 ชม. | ใช้งานต่อเนื่อง 4.5 ชม. |
ใช้งานร่วมกับเคส 24 ชม. | ใช้งานร่วมกับเคส 30 ชม. | ใช้งานร่วมกับเคส 24 ชม. | |
เซนเซอร์ | เซนเซอร์ออปติคัลแบบคู่ | เซนเซอร์ตรวจจับผิวหนัง | เซนเซอร์ออปติคัลแบบคู่ |
เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว | เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว | เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว | |
เซนเซอร์ตรวจจับการพูด | เซนเซอร์ตรวจจับการพูด | เซนเซอร์ตรวจจับการพูด | |
– | เซนเซอร์ตรวจจับแรงกด | เซนเซอร์ตรวจจับแรงกด | |
ไมโครโฟน | ไมโครโฟนคู่แบบบีมฟอร์มมิ่ง | ไมโครโฟนคู่แบบบีมฟอร์มมิ่ง | ไมโครโฟนคู่แบบบีมฟอร์มมิ่ง |
– | ไมโครโฟนที่หันเข้าด้านใน | ไมโครโฟนที่หันเข้าด้านใน | |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5 | ||
ขนาด | หูฟัง 40.5 x 16.5 x 18 มม | หูฟัง 30.79 x 18.26 x 19.21 มม. | หูฟัง 30.9 x 21.8 x 24 มม. |
เคสชาร์จ 53.5 x 44.3 x 21.3 มม. | เคสชาร์จ 46.4 x 54.4 x 21.38 มม. | เคสชาร์จ 45.2 x 60.6 x 21.7 มม. | |
น้ำหนัก | หูฟัง 4 กรัม | หูฟัง 4.28 กรัม | หูฟัง 5.4 กรัม |
เคสชาร์จ 38.2 กรัม | เคสชาร์จ 37.91 กรัม | เคสชาร์จ 45.6 กรัม | |
ราคา | 4990.- | 6,790.- | 8,992.- |
AirPods 3 รับปรุงไดรเวอร์หูงฟังให้มีเสียงดียิ่งขึ้น
AirPods 3 ยังเป็นหูฟังไร้สายแบบเอียร์บัด แบบเดียวกับ AirPods 2 แต่การที่ Apple ได้เพิ่มไมโครโฟนด้านในเข้าไป ทำให้ตัวมันรองรับฟีเจอร์ Adaptive EQ สำหรับชดเชยรายละเอียดของเสียงในย่านความถี่ต่ำและกลางให้เหมาะสมกับหูโดยอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ตรงส่วนนี้จะเหมือนกับ AirPods Pro เลย ส่วนฟีเจอร์ที่ยังไม่ได้ใส่มาให้ คือ ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอกทีฟ หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า ANC และรวมถึงโหมด Transparency สำหรับฟังเสียงภายนอกด้วย
AirPods 3 และ AirPods Pro มีเซนเซอร์ Force รับแรงกดที่ก้านหูฟัง
สำหรับบอดี้ใหม่ของ AirPods 3 ทาง Apple กล่าวว่า ถูกปรับให้มีความโค้งมนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สวมใส่ได้กระชับกับหูที่หลากหลายของผู้คนยิ่งกว่าเดิม หน้าตาเหมือนกับ AirPods Pro ที่ถูกตัดจุกยางออก น่าจะพอช่วยลดปัญหาทำหูฟังหลุดหายโดยไม่รู้ตัวลงไปได้บ้าง… ที่สำคัญ บริเวณก้านมีเซนเซอร์ Force รับแรงกดแล้ว หมายความว่า AirPods 3 จะรองรับการควบคุมด้วยการบีบด้วยนั่นเอง แตกต่างจาก AirPods 2 ที่ทำได้แค่แตะเฉย ๆ
AirPods 3 ใช้งานต่อเนื่องได้ 6 ชั่วโมง ส่วน AirPods 2 ทำได้ 5 ชั่วโมง ในขณะที่ AirPods Pro น้อยกว่าใครเพื่อนที่ 4.5 ชั่วโมง หรือหากรวมกับเคสชาร์จจะใช้งานได้นานสุดที่ 24, 30 และ 24 ชั่วโมง ตามลำดับ เป็นตัวเลขที่เยอะอยู่เหมือนกัน เพราะเท่าว่า AirPods 3 กับจะชาร์จเพื่อใช้งานเพิ่มได้อีก 1 รอบเต็ม ๆ เลยทีเดียว
AirPods 3 และ AirPods Pro (เฉพาะโมเดลใหม่) รองรับการชาร์จผ่าน MagSafe
ความเปลี่ยนแปลงอย่างสุดท้ายที่สังเกตได้ของ AirPods 3 คือ เคสชาร์จรองรับการใช้งานร่วมกับ MagSafe แล้ว แต่ Apple แอบอัปเกรดคุณสมบัตินี้ให้ AirPods Pro แบบเงียบ ๆ เหมือนกัน (ส่วนคนที่ซื้อไปก่อนหน้านี้…อด)
ถ้าให้กล่าวโดยสรุป หากไม่ได้สนใจฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน ANC แล้วล่ะ AirPods 3 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะฟีเจอร์อื่น ๆ ใส่มาให้เหมือน AirPods Pro แถมแบตยังอึดกว่าอีกต่างหาก ส่วน AirPods 2 นั้นก็แน่นอน ราคาถูกที่สุด แม้ไม่ได้มีฟีเจอร์ที่หวือหวา แต่น่าจะพอสำหรับการฟังเพลงทั่ว ๆ ไปอย่างเหลือเฟือครับ
Comment