หลังจาก Apple ได้ทำการเปิดตัวฟีเจอร์ App Tracking Transparency หรือ ATT ให้โอกาสยูเซอร์สามารถเลือกได้ว่าจะให้แอปพลิเคชั่นไหน Track ข้อมูลหรือไม่ เพื่อนำไปใช้ทำโฆษณาต่อไป ล่าสุดมีการรายงานจาก the Financial Times ว่า Tech Gaints อย่าง Meta (Facebook), Twitter, Snapchat และ YouTube ต่างสูญเสียรายได้ไปเกือบ ๆ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 3.33 แสนล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยมีผลพวงมาจากฟีเจอร์ ATT ของ Apple นี่แหละ
Lotame บริษัทเก็บข้อมูล ได้ออกมารายงานว่า ฟีเจอร์ App Tracking Transparency ของ Apple ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งาน iPhone หรือ iPad เลือกที่จะไม่ให้แอปฯ ต่าง ๆ Track ข้อมูลใช้งานเวลาเข้าใช้งานแอปหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ นั้น ทำให้ Meta, Twitter, Snapchat และ YouTube เสียรายได้ในส่วนของโฆษณาไปมากถึง 9.85 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือแปลงเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 3.28 แสนล้านบาท โดยคนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดก็คือ Meta (Facebook) และ Snapchat นั่นเอง
ในส่วนนี้ ทาง Meta ได้ออกมาระบุว่า ฟีเจอร์ ATT ของ Apple จะเข้ามาเป็นผลเสียต่อธุรกิจขนาดเล็กที่พยายามเข้าถึงลูกค้ารายใหม่ ๆ ด้วยการยิง Ads หรือโฆษณา แถมเมื่อสัปดาห์ก่อน CEO ของบริษัทฯ อย่าง Mark Zuckerberg ก็ออกมาโทษนโยบายการเปลี่ยนแปลงเรื่องความเป็นส่วนตัวนี้ว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการของ Meta ลดลง เช่นเดียวกับผู้บริหารระดับสูงอื่น ๆ พร้อมกับพวกเขาเผยว่า โลกธุรกิจจะรันดีขึ้นกว่าเดิมถ้า Apple ไม่ปล่อยฟีเจอร์ ATT ออกมา
โดยผลประกอบการของ Meta ได้รับแรงกระแทกจากฟีเจอร์ ATT นี้ ทำให้รายได้หดหายไปถึง 13.1% ส่วน Twitter รายได้หายไป 7.4% ซึ่งตรงนี้ทาง Twitter ได้เปิดเผยกับ the Financial Times ว่า พวกเขาได้รับผลกระทบจากฟีเจอร์ ATT ของ Apple นี้ไม่เยอะมาก เพราะส่วนมากบริษัทฯ อาศัย Context และการสร้างแบรนด์ มากกว่าการ Track ข้อมูลการใช้งานมือถือของผู้บริโภค
ที่มา: MacRumors
Comment