BOE พึ่งบรรลุข้อตกลงกับ Apple ในการเป็นผู้ผลิตหน้าจอ OLED สำหรับ iPhone 14 ด้วยมูลค่าราว 260 ล้านบาทไปเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน แต่ผ่านมาไม่ทันไรก็ดูท่าจะเจอปัญหาเสียแล้ว เมื่อมีรายงานว่า BOE ไม่สามารถผลิตหน้าจอได้จำนวนตามเป้าจากผลกระทบเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน และที่หนักไปกว่านั้นคือ BOE ถูกตรวจพบว่า มีการปรับลดสเปคหน้าจอ iPhone 13 โดยไม่ได้รับความยินยอมจาก Apple ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการถูกยกเลิกออร์เดอร์ทั้งหมดได้

ต้องเท้าความก่อนว่า ผู้ผลิตหน้าจอเจ้าหลักสำหรับ iPhone คือ Samsunag และ LG ตามลำดับ ส่วน BOE เดิมทีจะรับผิดชอบเฉพาะในส่วนที่จะใช้เป็นอะไหล่หรือเครื่องสำหรับเปลี่ยนให้ลูกค้าเท่านั้น แต่ทาง Apple ต้องการลดการพึ่งพา Samsung และ LG จึงได้เซ็นสัญญากับ BOE ในการผลิตหน้าจอ iPhone 14 เฉพาะรุ่นนี้รุ่นเดียวเป็นจำนวน 30 ล้านชิ้น คิดเป็นสัดส่วนราว 25% ของทั้งหมดในซีรีส์ (ตอนแรกตกลงไว้ที่ 40 ล้านชิ้น แต่พอวงจรควบคุมหน้าจอขาดตลาด เลยต้องปรับลดเป้าการผลิตลงมา 10 ล้านชิ้น)

สื่อต่างประเทศระบุว่า มาตรฐาน QC ของ Apple นั้นค่อนข้างเข้มงวดเมื่อเทียบกับลูกค้ารายอื่น ขนาด Samsung ที่ได้ชื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญ OLED เบอร์ต้นของโลก ในบางครั้งยังมีอัตราการผลิตสำเร็จเพียง 60% พอเป็น BOE ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

BOE เลือกที่จะเปลี่ยนความกว้างของทรานซิสเตอร์เพื่อให้ผลิตหน้าจอ iPhone 13 ได้ง่ายขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามชิ้นส่วนโดยรวมก็จะหนากว่าเดิมเช่นกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของ Apple

เมื่อถูกจับได้ BOE จึงรีบส่งผู้บริหารและพนักงานระดับสูง บินตรงไปยังคูเปอร์ติโนเพื่อชี้แจงกับ Apple ถึงสำนักงานใหญ่โดยตรง พร้อมทั้งขอให้บริษัทยังได้เป็นผู้ผลิตหน้าจอ iPhone 14 ต่อไปตามเดิม ซึ่งก็แน่นอนว่า Apple ไม่ปลื้ม และอยู่ระหว่างการพิจารณาโยกย้ายออร์เดอร์ของ BOE ไปให้ Samsung กับ LG แบ่งกันแทน นอกจากนี้ยังไม่รู้จะมีการฟ้องร้องอะไรกันภายหลังด้วยหรือเปล่า

 

ที่มา : 9to5Mac