ศาลประเทศเดนมาร์กได้ออกแถลงการณ์คำตัดสินในคดี ที่มีลูกค้าของ Apple ได้เข้าฟ้องร้องต่อศาลว่า Apple ได้นำเครื่อง Refurbished มาให้บริการกับตัวเขา เพื่อใช้ทดแทนเครื่องเดิมที่ได้พังไป ซึ่งทางศาลได้ตัดสินไม่อนุญาติให้ Apple นำเครื่อง Refurbished มาให้บริการกับลูกค้าที่ซื้อเครื่องใหม่

โดยการพิจารณาคดีของศาลเดนมาร์กในวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาทั้งสามท่านได้อ่านคำแถลงผลการตัดสินว่า ผู้ให้บริการต้องใช้อุปกรณ์ใหม่ในการให้บริการกับลูกค้าเท่านั้น ถ้าหากผู้ให้บริการไม่สามารถซ่อมแซมสินค้าหรืออุปกรณ์ได้ ภายใต้เงื่อนไขการรับประกันตัวเครื่อง 24 เดือน ซึ่งทางศาลไม่อนุญาติให้นำเครื่องที่เป็น Refurbished มาให้บริการ ถึงแม้จะเป็นตัวเครื่องที่ส่งคืนโรงงาน และผลิตขึ้นมาใหม่ภายใต้มาตรฐานเดียวกับสินค้าใหม่ก็ตาม

ซึ่งโจทก์ที่ยืนฟ้องต่อศาลในครั้งนี้คือคุณ David Lysgaard โดยเขาได้ซื้อเครื่อง iPhone 4 ตัวใหม่ในปี 2011 ต่อมาในปี 2012 iPhone 4 ของเขาได้เกิดพังขึ้นมา จึงได้นำเข้าศูนย์บริการของ Apple และได้รับเครื่องที่ทางพนักงาน Apple บอกว่าเป็นเครื่องใหม่มาใช้ทดแทน แต่ต่อมาเขาพบว่าตัวเครื่องที่ได้รับมา ไม่ใช่เครื่องใหม่ตามที่ได้รับการบอกกล่าว แต่น่าจะเป็นเครื่อง Refurbished

นอกจากนี้ในคำการตัดสินของผู้พิพากษายังระบุว่า เครื่อง Refurbised คือการนำชิ้นส่วนกลับไปหมุนเวียนใช้งานใหม่ ซึ่งไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนใหม่ทั้งหมดแบบเครื่องใหม่แกะกล่อง ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังไว้ รวมทั้งลูกค้ายังไม่ได้รับการแจ้งเตือนให้ทราบถึงความจริงที่ว่า เครื่องที่นำมาให้บริการนั้นคือเครื่องที่เคยผ่านการแกะหรือใช้มาแล้ว

 

โดยนอกจากคดีนี้ในประเทศเดนมาร์กแล้ว Apple ยังโดนคดีในรูปแบบเดียวกันในสหรัฐฯ ด้วย ซึ่งถึงแม้จะเป็นที่ถกเถียงกันถึงความเหมาะสมกับเรื่องของคุณภาพของเครื่องใหม่กับเครื่อง Refurbished ที่ทาง Apple ยืนยันว่ามีขั้นตอนการผลิตขึ้นมาใหม่ภายใต้มาตรฐานเดียวกับการผลิตสินค้าเครื่องใหม่ก็ตาม แต่หลายๆ ประเทศทั้งในมุมของผู้บริโภคและมุมของกฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคต่างมองว่า Apple ควรจะนำเครื่องใหม่มาให้บริการหลังการขายมากกว่าการเลือกใช้เครื่อง Refurbished 

ที่มา : AppleInsider