TSMC ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมาให้เราได้เห็นกันในอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย แต่ของใหม่ก็ต้องแลกมากับค่าใช้จ่ายในการผลิตที่สูงมากขึ้น โดยคราวนี้ก็มีประเด็นกับ Apple ที่ดูเหมือนว่าแอปเปิลยืนยันไม่อยากซื้อชิปบนฐาน 3 นาโนเมตรตัวใหม่ ถ้าทำให้ต้องจ่ายแพงขึ้นมากกว่าเดิม ตอนนี้จึงยังหวั่น ๆ กันอยู่ว่าจะตกลงได้เมื่อไร เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อราคาและแผนการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple โดยตรงครับ

Apple ต่อรองได้ เพราะเป็นแหล่งรายได้ราว 25% ของ TSMC

แผนเดิมของ TSMC คือกะว่าจะเริ่มอัปราคาชิ้นส่วนให้สูงขึ้นประมาณ 6 – 9 เปอร์เซ็นในปีหน้า ซึ่งจากรายงานก็พบว่าเคยมีการเจรจาพูดคุยเรื่องราคาที่สูงขึ้นกับ Apple แล้ว โดยเริ่มต้นคุยกันมาว่าจะเพิ่มราคา 3% แต่คุยไปคุยมาตอนนี้ก็เสนอราคาสูงถึง 6% แล้ว ดังนั้นเราจึงพอคาดเดาได้ว่าชิปตัวที่จะแพงขึ้นมาน่าจะเป็นตัวที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ของบริษัท อย่างชิปประมวลผลที่สร้างบนสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตรเป็นครั้งแรกของ TSMC

แต่แผนนี้ก็ไม่ได้เป็นไปตามหวัง เพราะ Apple ลูกค้ารายใหญ่กลับปฏิเสธข้อเสนอขึ้นราคา ทำให้ TSMC คงไม่มีโอกาสให้ได้เจรจาต่อรองอะไรซักเท่าไหร่ เนื่องจาก Apple เป็นแหล่งรายได้ถึง 25% ของบริษัท ถ้าเค้าพูดว่าไม่เอา ก็ต้องแปลว่าไม่เอา

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงมีข่าวลือกันมาว่า MacBook Pro รุ่นใหม่จะใช้ชิป M2 Pro และ M2 Max บนสถาปัตยกรรมระดับ 5 นาโนเมตรเท่าเดิม แทนที่จะเป็น 3 นาโนเมตร ก็เพราะทั้งสองฝ่ายยังหาราคาตกลงกันไม่เจอซะทีเนี่ยแหละ

เรื่องนี้จึงมีผลกระทบไปถึงชิป A17 Bionic ในมือถือไอโฟน และซีพียู M3 ใน Macbook ที่คาดกันว่าจะใช้เทคโนโลยีชิป 3 นาโนเมตรในการผลิตทั้งคู่ ทำให้ Apple ต้องเลือกว่าจะยอมจ่ายซื้อชิ้นส่วนในราคาที่แพงขึ้นมา เพื่อจะตรึงราคาสินค้าไม่ให้แพงขึ้นไปมากกว่านี้ หรือว่าจะยืนยันที่จะซื้อในราคาเดิม แล้วปล่อยให้ TSMC แบกรับภาระค่าใช้จ่ายการผลิตเอง

หรือไม่ก็หันมาใช้หนทางสุดท้าย…คือขายสินค้าให้ผู้บริโภคตาดำ ๆ อย่างพวกเราในราคาที่สูงขึ้นไปอีก

แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีรายงานข้อมูลระบุว่าทั้ง TSMC และ Apple จะได้ข้อตกลงการซื้อขายกันเมื่อไร ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีผลกระทบกับแผนการผลิตของแอปเปิล เพื่อที่จะสามารถเปิดสินค้ารุ่นต่อไปได้ตามกำหนดการครับ

 

ที่มา : wccftech