ในที่สุด Apple ก็ได้ฤกษ์ประกาศวันเปิดตัว iPhone 12 มือถือซีรีส์เรือธงสุดพรีเมียมของพวกเขาเสียที หลังก่อนหน้านี้โดนแกงแล้วแกงอีก แหล่งข่าวบอกว่าจะมาในวันนี้วันนั้น แต่อดหลับอดนอนรอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาซักที โดยในบทความนี้ ทางทีมงานได้รวบรวมข้อมูลของ iPhone 12 มาให้อ่านกันแบบจุใจ ตั้งแต่มีกี่รุ่น สเปคเป็นแบบไหน กล้องกี่ตัว เข้าไทยเมื่อไหร่ รวมถึงราคาเริ่มต้นจะถูกกว่า iPhone 11 อย่างที่ลือๆ กันหรือเปล่า บอกเลยว่ากดเข้ามาบทความนี้ ตอบทุกคำถาม

เปิดตัว iPhone 12 Mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max รองรับ 5G ทุกรุ่น พร้อมชิป A14 สุดแรง

iPhone 12 ปีนี้จะมาทั้งหมด 4 รุ่น

รอบนี้ Apple เหมือนจะนำ iPhone 12 มาเปิดตัวทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่

  • iPhone 12 Mini
  • iPhone 12
  • iPhone 12 Pro
  • iPhone 12 Pro Max

หน้าจอ OLED ทั้งหมด ยังคงมี Notch และจอ 120Hz อาจจะยังไม่มา

iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น ไล่ตั้งแต่ Mini ไปจนถึงตัวท็อป Pro Max จะมาพร้อมกับหน้าจอ OLED ทั้งหมด แต่มีข่าวลือๆ (รวมถึงภาพหลุด) มาว่า iPhone รุ่นใหม่ที่มีคิวจะเปิดตัวในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะยังคงมีหน้าตาดีไซน์รอยบาก หรือ Notch เหมือนกับ iPhone X, iPhone Xs หรือ iPhone 11 แบบเดิม แต่อาจจะมีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อย และขอบเครื่องนี้รอบนี้ ก็อาจจะกลับไปใช้ดีไซน์เหลี่ยมๆ เหมือน iPhone 4 จากเดิมที่มาเป็นแบบมนๆ ตลอดในช่วงหลังๆ

ภาพจากเว็บ 9to5mac

แต่สำหรับใครที่แอบลุ้นๆ กับหน้าจอรีเฟรชเรท 120Hz ใน iPhone 12 ล่ะก็ ตรงนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงมากๆ ที่จะผิดหวัง เพราะ Leaker หลายสำนัก รวมถึง Ross Young ที่มีตำแหน่งเป็นถึงหนึ่งในผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท Display Supply Chain Consultants ได้ออกมาเผยว่า iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น จะยังคงเลือกหน้าจอที่มากับค่ารีเฟรชเรท 60Hz แบบเดิม…

โดยขนาดหน้าจอของ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่นก็ตามนี้เลย

  • iPhone 12 Mini หน้าจอขนาด 5.4 นิ้ว
  • iPhone 12 หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว
  • iPhone 12 Pro หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว
  • iPhone 12 Pro Max หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว

กล้องหลัง 3 ตัวเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีเซ็นเซอร์ LiDAR

รอบนี้เชื่อว่า Apple น่าจะใช้กลยุทธ์แบบเดิม ก็คือ iPhone 12 Mini และ iPhone 12 สองรุ่นเล็กจะมากับกล้องหลังคู่แบบ iPhone 11 ขณะที่สองรุ่นท็อปอย่าง iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะใช้กล้องหลัง 3 ตัวเหมือนกับ iPhone 11 Pro และ Pro Max แต่อาจจะมีเซอร์ไพรส์มีเซ็นเซอร์ LiDAR ที่จะเข้ามาช่วยในประสบการณ์การใช้งาน AR ดีขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยเรื่องละลายฉากหลังให้เนียนกว่าเดิมใน Portrait Mode อีกด้วย

ใช้ชิปตัวแรง Apple A14 Bionic (5nm) รองรับ 5G

ข้อมูลส่วนนี้น่าจะสามารถยืนยันได้แบบ 100% แน่ๆ ว่า iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น จะขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Apple A14 Bionic ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตรโดย TSMC ซึ่งชิปนี้อาจจะมีประสิทธิภาพแรงกว่าตัวปัจจุบัน A13 Bionic (7nm) อยู่ประมาณ 15% และประหยัดพลังงานขึ้น 30% เลยทีเดียว

ก่อนหน้านี้ก็มีผลคะแนน Geekbench ของชิป A14 Bionic หลุดออกมาแล้วทีนึง โดยชิปดังกล่าวสามารถทำคะแนนแบบ Single-Core ที่ 1,583 แต้ม และ Multi-Core ที่ 4,198 แต้ม แต่ต้องบอกว่าอันนี้เป็นชิป A14 Bionic บน iPad Air 4 ที่เปิดตัวไปได้ไม่นานนะครับ

โดย Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สุดแม่นได้ออกมาบอกว่า iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น จะมาพร้อมกับโมเด็ม Snapdragon X55 ที่สามารถทำความเร็ว Download ที่ 7Gb/s และ Upload ที่ 3Gb/s แต่อาจจะมีเพียงแค่ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max เท่านั้นที่รองรับการใช้งาน 5G ทั้งแบบ Sub-6GHz และ mmWave ส่วนรุ่นเริ่มต้นทั้งสองอย่าง iPhone 12 Mini และ iPhone 12 จะรองรับเพียงแค่แบบ Sub-6GHz เท่านั้น

ยังคงใช้พอร์ตชาร์จแบบ Lightning และอาจไม่แถมหัวชาร์จมาในกล่อง

ใครกำลังรอให้ iPhone 12 มาใช้พอร์ต USB-C ก็อาจจะต้องอกหักตามๆ กับหน้าจอ 120Hz…เพราะหลายแหล่งข่าวหลุดต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า iPhone 12 จะยังคงเลือกใช้พอร์ตแบบ Lightning เหมือนเดิม

แต่สายชาร์จที่แถมมาในกล่อง iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น อาจจะได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ ก็คือ จะมาเป็นแบบสายถักแล้ว ทนทานกว่าเดิม แถมสายชาร์จ Lightning ที่แถมมาจะเป็นแบบ USB-C to Lightning อีกด้วย ทว่า…รอบนี้ Apple อาจจะไม่แถมหัวชาร์จมาในกล่อง เนื่องจากต้องการจะลดขยะ e-waste เหมือนกับที่พวกเขาทำกับ Apple Watch Series 6

หูฟัง EarPods ก็อาจจะไม่แถมมาในกล่อง iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น

นอกจากจะไม่แถมหัวชาร์จมาให้ ยังลือๆ กันอีกว่าในปีนี้ Apple อาจจะไม่แถมหูฟังมีสาย EarPods มาในกล่อง iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่นอีกด้วย ซึ่งตรงนี้คาดว่า Apple น่าจะต้องการกระตุ้นยอดขายหูฟังไร้สายซีรีส์ AirPods ของตัวเอง อีกทั้งเหมือนจะเป็นการลดต้นทุน เพื่อที่จะทำให้ iPhone 12 นั้นเปิดราคามาถูกที่สุดนั่นเอง

แต่ไม่แน่ว่า Apple อาจจะจัดโปรโมชั่น มอบส่วนลดแลกซื้อ AirPods ให้กับผู้ซื้อ iPhone 12 ทุกคนก็ได้

Apple ร่อนบัตรเชิญ “Hi, Speed” เจอกัน 13 ตุลาคมนี้

ล่าสุด Apple ก็ได้ส่องหมายเชิญเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ในวันอังคารที่ 13 ตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าคราวนี้น่าจะถึงคิวของ iPhone 12 แล้วล่ะ หลังจากโดนแกงให้รอเก้อกันไปหลายรอบ ซึ่งตรงนี้เหมือน Apple จะแอบบอกใบ้ในเรื่องบางส่วนของ iPhone 12 เอาไว้แบบนิดๆ กับคำว่า “Hi, Speed”. หรือ “สวัสดีความเร็ว”

…หรือว่า Apple จะสวมรอยเป็น Cristiano Ronaldo สมัยวัยละอ่อนสับขาหลอกแฟนๆ ทั่วโลกใส่หน้าจอค่ารีเฟรชเรท 120Hz ไว้ใน iPhone 12 บางรุ่น???

แต่เอาจริงๆ ที่ดูจะเป็นไปได้มากที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องการรองรับ 5G นั่นแหละ ฮ่าๆ เอาเป็นว่าวันที่ 13 ตุลาคมได้รู้พร้อมกันแน่ครับว่าสรุปคำว่า “Hi, Speed”. นั้นหมายถึงอะไรกันแน่

ราคาและวันวางจำหน่าย iPhone 12

มีข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือได้ว่า Apple จะเริ่มเปิดให้พรีออเดอร์ iPhone 12 ในวันที่ 16 ตุลาคม 2020 ก่อนจะวางขายอย่างเป็นทางการในอีก 1 อาทิตย์ถัดไป ซึ่งก็คือวันที่ 23 ตุลาคมนั่นเอง

ส่วนประเทศไทยของเราก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่าครั้งนี้จะเป็นกลุ่มประเทศแรก หรือ Tier 1 ที่จะได้วางจำหน่าย iPhone 12 พร้อมกันทั่วโลกแล้วหรือยัง เพราะ Apple Store ของเราก็มีสองสาขาแล้ว

สำหรับราคาของ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่นที่หลุดมา ก็มีดังนี้

รุ่นราคาที่หลุดมา
ราคาไทย (คาดการณ์)
iPhone 12 Mini (64GB)$64921,900 บาท
iPhone 12 Mini (128GB)$69923,900 บาท
iPhone 12 Mini (256GB)$79926,900 บาท
iPhone 12 (64GB)$74925,900 บาท
iPhone 12 (128GB)$79926,900 บาท
iPhone 12 (256GB)$89930,900 บาท
iPhone 12 Pro (128GB)$99933,900 บาท
iPhone 12 Pro (256GB)$1,09937,900 บาท
iPhone 12 Pro (512GB)$1,29943,900 บาท
iPhone 12 Pro Max (128GB)$1,09937,900 บาท
iPhone 12 Pro Max (256GB)$1,19940,900 บาท
iPhone 12 Pro Max (512GB)$1,39947,900 บาท

 

เท่ากับว่าตอนนี้เหลือเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น เราก็จะได้เห็นกันแล้วว่ามือถือซีรีส์ iPhone 12 ที่รอบนี้ Apple ได้ขนนำมาเปิตัวถึง 4 รุ่น จะมีสเปคออกมาตรงกับข่าวหลุดทั้งหลายหรือเปล่า รวมถึงรอบนี้จะใส่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ มาให้สาวก Apple และ Android ได้ว้าวกันหรือไม่ วันที่ 13 ตุลาคม ได้รู้กันแน่นอน~ ใครที่จะรอดู ก็มาดูกันเป็นเพื่อนพี่ภัทรและพี่กิมได้ที่ช่อง YouTube ของ DroidSans นะคร้าบ อย่าลืมไปกด Subscibe กันนะ!

 

ภาพประกอบ: EverythingApplePro