Apple ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 รายได้ทั้งสิ้น 89.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1% เมื่อเทียบกับรายได้ของปีที่แล้ว พร้อมเผย รายได้จาก iPhone ทำสถิติใหม่ประจำไตรมาสเดือน ก.ย. ด้วยยอดขาย 43,805 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% และ ธุรกิจ Services ทำสถิติสูงสุด มีรายได้ 22,314 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 16% ขณะที่ Mac ยอดลดฮวบ 34%
จากสถิติรายได้ประจำไตรมาสที่ 4/2566 ที่ปิดไตรมาสไปในวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา มีรายได้รวมทั้งสิ้น 89,498 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีก่อนที่ทำรายได้อยู่ที่ 90,146 ล้านดอลลาร์ นับเป็น 1% ที่ลดลงมา ส่วนรายได้ในแต่ละผลิตภัณฑ์ มีดังนี้
- iPhone กวาดรายได้ไป 43,805 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% จากปีที่แล้วที่มีรายได้อยู่ที่ 42,626 ล้านดอลลาร์
- Mac กวาดรายได้ไป 7,614 ล้านดอลลาร์ ลดลง 34% จากปีที่แล้วที่มีรายได้อยู่ที่ 11,508 ล้านดอลลาร์
- iPad กวาดรายได้ไป 6,443 ล้านดอลลาร์ ลดลง 10% จากปีที่แล้วที่มีรายได้อยู่ที่ 7,174 ล้านดอลลาร์
- Wearables, Home และ Accessories กวาดรายได้ไป 9,322 ล้านดอลลาร์ ลดลง 3% จากปีที่แล้วที่มีรายได้อยู่ที่ 9,650 ล้านดอลลาร์
- Services กวาดรายได้ไป 22,314 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้วแล้วที่มีรายได้อยู่ที่ 19,188 ล้านดอลลาร์
ทาง Tim Cook ได้กล่าวว่า “ในขณะนี้เรามีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งที่สุด พร้อมสำหรับเทศกาลวันหยุด ได้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 15 และ Apple Watch รุ่นแรกที่มาพร้อมความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในความพยายามให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ทั้งหมดมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030″
ในสัดส่วนรายได้รวม 89,498 ล้านดอลลาร์นี้ แบ่งเป็นยอดขายตามแต่ละภูมิภาค ดังนี้
- อเมริกา 40,115 ล้านดอลลาร์
- ยุโรป 22,463 ล้านดอลลาร์
- จีน 15,084 ล้านดอลลาร์
- ญี่ปุ่น 5,505 ล้านดอลลาร์
- ประเทศอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก 6,331 ล้านดอลลาร์
ส่วนกำไรสุทธิของไตรมาสดังกล่าว อยู่ที่ 22,956 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันเมื่อปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20,721 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 1.46 ดอลลาร์ต่อหุ้นปรับลด เพิ่มขึ้น 13 % เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้าค่ะ
Comment