หลังจากปล่อยให้ผู้ใช้งานบางส่วนเผชิญกับปัญหา Touch Disease หรืออาการการแสดงผลของหน้าจอที่ไม่ตอบสนอง เกิดแถบเส้น หรือเกิดแถบสีเทากระพริบ บน iPhone 6 และ 6 Plus มาได้สักพัก ล่าสุด Apple ก็ได้ออกมาช่วยเหลือผู้ใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยการเปิดบริการรับซ่อม iPhone 6 Plus ที่มีอาการดังกล่าว ซึ่งผู้ใช้งานสามารถนำเครื่องทีมีปัญหาเข้าศูนย์บริการของ Apple เอง หรือ ศูนย์บริการที่ได้รับรองมาตรฐานจากทาง Apple ก็ได้เช่นกัน
สำหรับอาการ Touch Disease นั้นแม้ผู้ใช้งานหลายๆ คนพบว่าปัญหานี้เกิดขึ้นมาเองหลังจากใช้งานไปสักระยะหนึ่ง แต่ทางผู้เชี่ยวชาญได้เผยว่าเป็นอาการที่เกิดจากตัวเครื่องโดนกระแทก หรือเกิดการสั่นไหวที่รุนแรงในระดับนึง จนทำให้เกิดความผิดพลาดของชิปควบคุมการสัมผัส ส่งผลให้หน้าจอสัมผัสไม่ตอบสนอง ในขณะที่ทาง Apple ก็ได้ออกมายืนยันเช่นกันว่า ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการกระบวนการผลิต แต่เกิดจากการทำเครืองตกหล่นของผู้ใช้งานเอง
และตอนนี้ทาง Apple ก็เปิดให้ผู้ใช้งานที่ประสบปัญหาดังกล่าว สามารถนำตัวเครื่องเข้าศูนย์บริการของ Apple โดยตรง หรือจะนำเข้าศูนย์บริการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานของ Apple ก็ได้ โดยจะคิดค่าบริการในราคา $149 หรือประมาณ 5,500 บาท ซึ่งเป็นค่าบริการที่ทาง Apple ลดให้ครึ่งหนึ่งจากราคาปกติ ในขณะที่ผู้ใช้งานที่ได้นำตัวเครื่องเข้ามาซ่อมก่อนหน้านี้ ทางศูนย์บริการก็จะคืนค่าบริการส่วนเกินให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน แต่เป็นเรื่องน่าแปลกที่ Apple ไม่ได้เปิดให้ผู้ใช้ iPhone 6 ที่เคยมีปัญหากรณีเดียวกันเข้ารับบริการในครั้งนี้ด้วย ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับว่า สุดท้ายแล้ว Apple จะเพิ่ม iPhone 6 เข้าสู่โปรแกรมช่วยเหลือด้วยหรือไม่
ที่มา : Mashable
ปัญหาเยอะมาก หลายสิ่ง ราคาก็แพง
สงสัยอย่างนึง มือถือราคาระดับนี้ ทำไมมันดูบอบบางจัง
อะไรนิดหน่อยก้อพัง แถมเข้าศูนย์แล้วยังต้องเสียค่าบริการอีก
ทั้งๆที่มันสรุปไม่ได้ 100% ว่ามาจากการใช้งานของผู้ใช้
มันน่าสงสัยตรงที่ อาการเดียวกัน แต่เป็นกันหลายคน
ทุกคนจะเอาไปทำหล่นเหมือนๆกันเลยหรอ เลยทำให้เซ็นเซอร์ตัวเดียวกันเสียเหมือนๆกัน
ค่าซ่อมก็โคตรแพงงง
เคยเข้าใจว่า เเอปเปิ้ลดูเเลลูกค้าดีที่สุด…ปัจจุบันไม่ใช่เเล้วซินะ …
ข่าวนี้นานมากเเล้วนะ ตอนนั้นไม่ยอมรับ ตอนนี้ยอมรับ เเต่เเค่ครึ่งเดียว…
ถ้ามันมาจากผู้ใช้จริง…ทำไมมันหลายเครื่องมากๆเลย ฮา
แอปเปิ้ลกับซัมซุง วิ่งแข่งกัน รีบเสียจนต่างสะดุดขาตัวเองหกล้มทั้งคู่
และก็เหมือนที่ผมบ่นซ้ำๆคือมือถือแข่งกันทำให้แบนให้บาง จนเริ่มไร้สาระ
จะจับตลาดบนมันก็ต้องระวังลมแรง