หากใครยังจำกันได้ Apple เคยโดน Samsung ฟ้องจะเรียกค่าเสียหายมาแล้วครั้งนึง หลังยอดสั่งหน้าจอ OLED ของบริษัทสัญชาติอเมริกันนี้ ไม่ตรงไปตามเป้าที่ตกลงกับ Samsung เอาไว้ก่อนหน้านี้ ล่าสุดดูเหมือน Apple จะโดน Samsung เรียกค่าปรับอีกแล้ว โดยรอบนี้มีมูลค่ามากถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3.2 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว

โดยบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลหน้าจอแสดงผล Display Supply Chain Consultants ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า Samsung ได้เรียกร้องค่าปรับเป็นจำนวนกว่า 950 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก Apple เหตุจากบริษัทสัญชาติอเมริกันมียอดสั่งจอ OLED จาก Samsung ได้ไม่ถึงเป้าตามที่คุยกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ 

แม้ว่าผลประกอบการในภาพรวมของธุรกิจฝั่ง Samsung Display จะน้อยลงกว่าเดิม 7% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ในส่วนของกำไร Samsung Display ถือว่าทำยอดได้ดีกว่าเดิมถึง 23% เยอะกว่าที่นักวิเคราะห์ต่างๆ คาดการณ์เอาไว้ในตอนแรกแบบเยอะมาก

เอาเข้าจริง เมื่อช่วงปีที่แล้ว Apple ก็เคยเจอกับสถานการณ์แบบนี้มาแล้วรอบนึง แต่ตอนนั้น Apple เลือกที่จะนำเงินค่าปรับจำนวนกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปสั่งจอ OLED เพิ่ม สำหรับเอามาใช้กับสินค้า Apple อื่นๆ ที่ไม่ใช่ iPhone แทน (เช่นพวก iPad หรือ Apple Watch) ทว่าปีนี้ก็ต้องรอดูว่า Apple จะแก้ไขปัญหาตรงนี้อย่างไร จะเลือกจ่ายค่าปรับแบบเพียวๆ หรือจะสั่งจอเพิ่มแบบปีก่อน

ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูล และรายละเอียดใดๆ ออกมาบอกว่าทำไมปีนี้ Apple ถึงมียอดสั่งซื้อจอ OLED กับ Samsung ไม่ถึงเป้าที่ตกลงไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างนั่นเอง

 

ที่มา: 9to5mac, macrumors