นับถอยหลังรออีกไม่กี่อึดใจก็จะได้เห็น ASUS Zenfone 11 Ultra แบบตัวเป็น ๆ กันแล้ว ซึ่งรุ่นนี้ได้คาดการณ์ว่าจะมาพร้อมจอใหญ่ 6.78 นิ้ว รีเฟรชเรท 1-144Hz ชิปตัวแรง Snapdragon 8 Gen 3 ที่ผลทดสอบทำคะแนนออกมาน่าสนใจไม่น้อย ตอนนี้ได้ประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะมาในวันที่ 14 มีนาคม 2024

ASUS ได้ประกาศวันเปิดตัวของเรือธงรุ่นใหม่บนเวHบไซต์อย่างเป็นทางการโดยจะเปิดตัวในวันที่ 14 มีนาคม 3 ประเทศ 3 เวลา ได้แก่ ไทเป ประเทศไต้หวัน เวลา 20.00 น. (1 ทุ่ม ประเทศไทย) , เบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน เวลา 13.00 น. (1 ทุ่ม ประเทศไทย) และ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เวลา 8.00 น. (2 ทุ่ม ประเทศไทย)

อีกทั้งในโพสต์ Odfficial ของ ASUS เอง ยังมีเซอร์ไพรส์ด้วยการพูดถึงฟีเจอร์ AI ที่จะใช้บนเรือธงรุ่นดังกล่าวด้วย แต่ว่าไม่ได้มีการบอกใบ้นะว่าจะเอามาใช้งานในด้านไหนหรือยังไง พร้อมทั้งปล่อยทีเซอร์สั้น ๆ 4 ตัวอย่างมาให้ดูเรียกน้ำย่อยกัน

ตัวอย่างแรกได้โชว์กันสั่นของกล้องหลังขณะที่ถ่ายวิดีโอที่นิ่งจนทำให้คลิปดูสมูท, ตัวอย่างที่สองได้โชว์ถึงแบตเตอรี่ที่ให้เยอะจนสามารถไถดูโซเชียลได้ยาว ๆ

ตัวอย่างที่สามได้โชว์ตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแบบ Ultra Size ซึ่งฉีกจากความเป็น Zenfone แบบเดิม ๆ ที่เคยเป็นเรือธงจอเล็ก และตัวอย่างสุดท้ายได้โชว์ให้เห็นถึง Portrait Mode ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ

จากที่ดูในทีเซอร์ต่าง ๆ และตามรายงานข่าวก่อนหน้า ดีไซน์ของตัวเครื่องดังกล่าวดูเหมือนจะคล้าย ๆ กับ ROG Phone 8 Pro เลย เพียงแต่ว่า ASUS Zenfone 11 Ultra จะไม่ได้เน้นไปที่การเล่นเกมแบบจัด ๆ เท่า

ส่วนสเปคอื่น ๆ คาดว่าน่าจะตามที่ระบุในก่อนหน้านี้ ว่าจะใช้จอ AMOLED ของทาง Samsung ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี LTPO ความละเอียด 1,080 x 2,400 พิกเซล ปรับรีเฟรชเรตได้ 1-120Hz สูงสุด 144Hz ใช้ชิปตัวแรงรุ่นใหม่ อย่าง Snapdragon 8 Gen 3, RAM แบบ LPDDR5X 16GB ความจุแบบ UFS 4.0 512GB

กล้องมีทั้งหมด 3 ตัว กล้องหลัก Sony IMX890 50MP มีกันสั่นแบบ Gimbal OIS กล้อง Ultra wide 13MP มุมกว้าง 120 องศา, กล้อง Telephoto 32MP ซูมแบบ Optical ได้ 3 เท่าและมีกันสั่น OIS มาให้ และกล้องเซลฟี่ให้ความละเอียดมาที่ 32MP มี เซนเซอร์ RGBW มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Eternal Black, Skyline Blue, Misty Gray, Verdure Green และ Desert Sienna ส่วนอื่น ๆ มาลุ้นกัน 14 มีนาคม 2024 นี้

ที่มา : ASUS, GSMARENA